เดือนแห่งความรักทั้งที แต่ไม่มีความรักกับเขาบ้าง ถ้าคนมันทำให้เสียใจ UNLOCKMEN ขอแนะนำให้เอาหัวใจไปหลงรักเบียร์เสียยังดีกว่า! อ้อ นี่เราไม่ได้ชักชวนให้ดื่มแต่อย่างใด แต่แค่อยากให้รู้จักกันไว้ เผื่อจะปิ๊ง ตกหลุมรักเบียร์กับเขาบ้าง วันนี้เราจึงมาใน Theme “เบียร์แห่งความรัก” ที่อยากจะชักชวนทั้งคนที่ผ่านรักแบบเจ็บ ๆ มาแล้ว คนที่มีรักและจูบแบบดูดดื่มแบบพร้อมตายได้ หรือคนที่โหยหาความรักจนต้องร่ำรองว่ากอดฉันเอาไว้ที เรารับรองเลยว่า เบียร์แห่งความรักทั้ง 4 จะช่วยเยียวยาคุณในเดือนแห่งความรักนี้ได้แน่นอน Hurtster Saison / ABV 4.9% เบียรแก้เฮิร์ทสำหรับคนเฮิร์ท ๆ Saison (อ่านว่าเซ-ซอง) เป็นเบียร์เอลสไตล์เบลเยี่ยม เอกลักษณ์สุดโดดเด่นของเจ้า Saison คงหนีไม่พ้นรสชาติและกลิ่นของยีสต์ เป็นเบียร์ที่ดื่มง่ายเพื่อให้เข้ากับอากาศในฤดูกาลเก็บเกี่ยวของชาวเบลเยี่ยม (Saison แปลว่า ฤดูกาล) แต่ความพีคที่เราคิดว่าช่างเหมาะกับเดือนแห่งความรักเสียเหลือเกินคือการที่เท่าพิภพผู้ผลิตคราฟต์เบียร์ตัวนี้ออกมา ทำออกมาให้เอกดนัยรุ่นพี่ของเขาที่คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เพราะเอกดนัยเป็นตัวแทนของหนุ่มนักรักแต่กลับพบความผิดหวังไว้เต็มกระเป๋าแทบตลอดเวลา นี่จึงเป็นเบียร์แก้เฮิร์ทสำหรับชาวเฮิร์ทสเตอร์ที่เจ้าของเบียร์เขียนเคลมไว้ว่า “เบียร์ที่จะทำให้ คน Hurt Hurt ดื่มเเล้วกลับมาสดชื่นเเละพร้อมลุกขึ้นเผชิญความผิดหวังใหม่อีกครั้ง” แล้วคุณล่ะพร้อมจะดื่มแก้เฮิร์ทแล้วหรือยัง? Fall in Love Wit
หนุ่ม ๆ หลายคนอาจจะชินกับการแต่งตัวแบบเดิม ๆ ไม่กล้าฉีกแนวเพราะกลัวว่าแต่งออกมาแล้วจะดูไม่มั่นใจ เลยเลือกจะแต่งตัวเหมือนเดิมซ้ำซากจนดูน่าเบื่อ วันนี้ UNLOCKMEN มีไอเดียการทวิสต์เสื้อผ้าด้วยการจับคู่ไอเท็มเครื่องแต่งกายจนเกิดเป็นสไตล์ใหม่ ๆ ให้หล่อ เท่ แต่ดูเป๊ะทุกสถานการณ์ 1.เรียบ เท่ ลุยงาน หนุ่ม ๆ ต้องใช้เวลา 5 วันต่อสัปดาห์ในการแต่งตัวไปกับการทำงาน ดังนั้น ชุดสูท และ ไท ดูจะเป็นชุดประจำของหนุ่มออฟฟิสไปเสียแล้ว แต่ในวันทำงานชิลล์ๆ ลองสลัดไทและกางเกงสแล็คตัวโปรดออกไป แล้วหันมาสวมเสื้อสูทกับกางเกงยีนส์สีเข้ม คู่กับรองเท้าสีขาว ก็ช่วยให้หนุ่มๆ ได้ลุคทำงานสบายๆ แต่มีความเรียบร้อยแฝงอยู่ Tip’s : เลือกสูทและกางเกงที่มีสีใกล้เคียงกัน ส่วนเนื้อผ้าไม่ต้องเป็นชนิดเดียวกันก็ได้ 2.วันหยุดสุดชิลล์ ใครจะคิดว่าแจ็กเก็ตกับเสื้อเชิ้ตที่หนุ่มๆ มักเลือกสวมใส่คู่กับกางเกงขายาวจนดูเป็นลุคกึ่งทางการ แต่เมื่อนำมาแมชต์กับกางเกงขาสั้นแล้ว ก็ทำให้วันหยุดสุดชิลล์ของหนุ่มๆ ดูเท่ มีสไตล์ แบบไม่ซ้ำใคร แถมยังสร้างเสน่ห์ชวนให้สาวๆ มองจนแทบละสายตาจากคุณไม่ได้ Tip’s: เลือกเสื้อแจ็กเก็ตที่มีลวดลายเด่นๆ แมชต์กับกางเกงขาสั้น โดยเลือกกางเกงให้สั้นเหนือหัวเข่า 3.ออกเดินทางอย่างมีสไตล์ หนุ่มรักการผจญภัย ชอบท่องเที่ยวในโลกกว้าง หลายคนมักเลือกชุดที่สวมใส่สบายและคล่องตัวต่อการเดินทาง
ถ้าให้เอ่ยชื่อหนังแข่งรถมาซักเรื่อง ชื่อของ Fast & Furious จะต้องแล่นเข้ามาในหัวด้วยความเร็วสูงอย่างแน่นอน ด้วยความสนุกของตัวหนังและจำนวนภาคที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มันขึ้นแท่นเป็นหนังขับรถที่มีความนิยมสูงสุดไปเป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าในปัจจุบันตัวหนังจะกลายสภาพเป็นหนังแอ็คชั่นเป็นที่เรียบร้อย แต่จุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่จะขาดไม่ได้ ก็คือรถยนต์สุดเจ๋งต่าง ๆ ที่โผล่เข้ามาตลอดเรื่อง โดยเฉพาะรถของตัวเอกอย่าง Dominic Toretto เพราะด้วยฝีมือในการแข่งรถ และภาพจำจากการเป็นรุ่นใหญ่ชอบใช้แต่รถอเมริกันล้วน ๆ วันนี้ UNLOCKMEN จะมานำเสนอ 10 ยอดรถที่เป็นอาชาศึกของ Toretto ตลอดทั้งซีรีส์ Fast & Furious ให้เลือดเดือดกัน 1970 Dodge Charger R/T = The Fast and The Furious เริ่มที่รถตัวแรงจากภาคแรก The Fast and The Furious ต้องยกให้ 1970 Dodge Charger R/T เป็นรถที่ดอมและพ่อของเขาช่วยกันสร้างขึ้นมา จนเกิดอุบัติเหตุคร่าชีวิตพ่อของดอมไป รถคันนี้จึงถูกเก็บไว้ในโรงรถข้างบ้านดอม จนกระทั่งเกิดเรื่องระหว่าง
“เรากำลังฝากชีวิตไว้บนใยแก้ว” คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าตัวเองเป็นเพียงฝุ่นผงในจักรวาลกว้าง ๆ ของเครือข่ายโลกดิจิทัล และคิดว่าในห่วงโซ่สังคมเสมือนนี้เราจะไม่ใช่คนโชคร้ายที่สุด ข้อมูลของเราคงไม่มีใครต้องการ แต่ความจริง Data เล็กน้อยที่คุณกรอกลงไปไม่ว่าจะผ่านช่องทางไหนก็ตาม มันมีมูลค่า ซื้อขายได้ และเพิ่มความเสี่ยงให้คุณกลายเป็นผู้โชคร้ายตกเป็นเหยื่อทางโจรกรรมชนิดที่พร้อมจะเป็นข่าวหน้าหนึ่งเสมอ เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ กันไว้ย่อมดีกว่าแก้ ชาว UNLOCKMEN ลองมาเช็กกันดูว่าเรื่องราวเหล่านี้คุณเคยรู้แล้วหรือยัง หากรู้แล้ววิธีป้องกันที่มีอยู่ดีพอหรือเปล่า ขายใคร ราคาเท่าไร? ข้อมูลของเราเขาเอาไปขายใคร? สำหรับคนที่เคยสงสัย เราขอให้คุณย้อนกลับมาคิดดูว่าคุณเคยรับโทรศัพท์สายแปลกเพื่อเสนอขายประกันบ้างไหม หรือมีหน่วยงานไหนติดตามข้อมูลการเข้าสำรวจเว็บไซต์ของคุณแล้วโทรมาเสนอให้บริจาคในองค์กรและมูลนิธิบ้างหรือเปล่า กระทั่งการรับ SMS ที่ไม่ได้สมัครก็ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการนำข้อมูลของคุณมาหาประโยชน์ บริษัทจอมตื๊อนี่ล่ะที่อยากซื้อข้อมูลของคุณ ส่วนราคาซื้อขายในตลาดก็ถูกมากจนเสียจนอยากจะจ่ายไปวาร์ปหาสาว ๆ เลย “สำหรับเบอร์ที่ขายกันนั้น จะขายกันทีเป็นร้อย ๆ เบอร์ ราคาเบอร์ที่ได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงว่า จะซื้อกันในราคาเบอร์ละเท่าไร 1 บาท 5 บาท 10 บาท ถ้าเบอร์ของพวกเศรษฐีมีสตางค์หน่อย ก็จะแพงขึ้นมาอีก” เผื่อคนที่ยังไม่รู้ ข้อมูลที่คุณไม่ได้ยินยอมส่งต่อ เขาซื้อขายจากแหล่งที่คุณยินยอมพร้อมใจให้ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงินที่คุณไปกรอกข้อมูลไว้ หรือการตอบแบบสอบถามที่ไหนสักที่ที่ใช้ของฟรีล่อใจคุณตอบ จากนี้คุณจึงควรอ่านเอกสารให้ละเอียด โดยเฉพาะเมื่อเจอคำที่ระบุในเอกสารว่า “ขออนุญาตเปิดเผยข้อมูล” ก็ให้หยุดอ่านให้ดีอย่าเพิ่งอนุญาตไปสุ่มสี่สุ่มห้า
ปัญหาโลกแตกที่ผู้ชายอย่างเราไม่เคยจะหลีกเลี่ยงได้ นั่นคือ “ผู้ชายเป็นเพื่อนกับผู้หญิงได้ไหม?” แต่ในเมื่อโลกแห่งความจริง ไม่ว่าจะได้หรือไม่ได้ เราก็จำเป็นต้องมีเพื่อนต่างเพศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนมหา’ลัย เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนของเพื่อน ฯลฯ แต่ปัญหามันไม่หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อคุณมีแฟนสาวที่คอยมอนิเตอร์สาว ๆ รอบตัวเราตลอดเวลา ว่าคนไหนดูสนิทเป็นพิเศษ คนไหนดูมีอะไรในกอไผ่ บางครั้งมันก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าหากเธอได้สงสัยแล้ว คุณจะโดนสอบปากคำแบบที่ FBI ยังต้องยอม UNLOCKMEN ขอเสนอทางออกแบบวิน-วิน ให้คุณวางตัวกับเพื่อนผู้หญิงได้แบบที่แฟนสาวก็ไม่ลำบากใจ พาทั้งสองคนมาทำความรู้จักกัน ถ้ามีโอกาส ควรพาแฟนและเพื่อนมาทำความรู้จักกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนชายหรือเพื่อนหญิง โดยแนะนำสถานะระหว่างกันให้ชัดเจน คนนี้แฟนนะครับ คนนี้เพื่อนนะครับ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเรากล้าเปิดตัวให้คนอื่นรับรู้เรื่องของเรา กล้าให้เพื่อนสาว ๆ ใกล้ตัวรู้ว่าคุณมีเจ้าของหัวใจแล้ว ดีไม่ดี ทั้งแฟนและเพื่อน อาจจะเป็นเพื่อนกันได้อีกด้วย ไม่เล่นถึงเนื้อถึงตัว บางครั้งเราเองและเพื่อนอาจไม่ได้คิดอะไร อยากแกล้ง อยากเล่น ให้มันสนุก ๆ เท่านั้น แต่ว่าการแตะเนื้อต้องตัวกันบ่อย ๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติ มันอาจไม่ปกติสำหรับแฟนสาว ใครจะทนได้หากเห็นแฟนหนุ่มของตัวเองหยอกล้อกับสาว ๆ แบบสนิทใกล้ชิดขนาดนั้น ลองใจเขาใจเรา
John Mayer ชื่อนี้ถูกจัดอยู่ในยอดนักดนตรีผู้มีสำเนียงกีต้าร์สุดแสนโรแมนติกมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และคงไม่มีใครสงสัยในพรสวรรค์ทางด้านดนตรีอันเหลือล้นของผู้ชายคนนี้อีกแล้ว แต่นอกเหนือจากฝีไม้ลายมือชนิดหาตัวจับยาก John Mayer ยังขึ้นชื่อในเรื่องพฤติกรรมห่าม ๆ สุดแปลกแบบที่ชาวบ้านชาวช่องไม่ค่อยจะมีกัน ไหนจะชื่อเสียงด้านความเป็น Bad Boy และ Playboy คือภาพจดจำของชายผู้นี้ แต่ในบรรดาข่าวกอสซิปทั้งหลาย ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องหมายการค้าของ John Mayer คือสไตล์การแต่งตัวสุดจัดจ้านและเต็มไปด้วยเซ้นส์ที่ไม่เหมือนใคร โดยเขานั้นเป็นแฟนตัวยงของแบรนด์อย่าง Visvim และมีคอลเลกชันนาฬิกาอีกจำนวนมาก ซึ่งหากเราย้อนไปดูไอเทมหลาย ๆ ชิ้นที่ได้รับความนิยมล้วนเกิดจากตัวเขาแทบทั้งสิ้น อาทิ เสื้อแจ็กเกตสไตล์กิโมโน รองเท้า Chealsea Boost และอีกมากมาย ดังนั้นเพื่อเป็นข้อยืนยันในความอัจฉริยะด้านการแต่งกายของเขา ทีมงาน UNLOCKMEN จะพาไปชม Outfit คูล ๆ ของ John Mayer ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่ามีสไตล์ไหนที่ถูกใจทุกท่านกันบ้าง Pretty in Pink ผู้ชายหลายคนกลัวการใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส โดยเฉพาะสีหวานแหววอย่างโทนชมพู แต่ John Mayer ได้พิสูจน์แล้วว่าหากคุณเป็นชายทั้งแท่งจะใส่สีอะไรก็ไม่สำคัญ ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมงาน UNLOCKMEN
ใครมีแฟนแล้วอ้วนขอให้ยกมือขึ้น? UNLOCKMEN อยากบอกให้รู้ไว้ว่าไม่ใช่คุณแค่คนเดียวที่แฮปปี้ดี๋ด๋ากับความรักมากขึ้นแล้วน้ำหนักเพิ่มขึ้น เพราะนอกจากเหตุผลง่าย ๆ อย่างพากันกินไม่แคร์โลกแล้ว งานวิจัยยังบ่งชี้จากการสำรวจว่านี่คือเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องที่เราคิดเองเล่น ๆ อีกต่อไป (เอ๊ะ หรือเลิกซะเลย? จะได้ผอมลง) แต่ไม่ต้องลงทุนเลิกกันขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยว UNLOCKMEN จะเสนอหนทางให้ว่าทำอย่างไรถึงจะแก้ปัญหานี้ได้ มา มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน งานวิจัยจาก National Center for Biotechnology ค้นพบว่าการมีความสุขกับความรักมาก ๆ ทำให้น้ำหนักคุณเพิ่มขึ้นได้ โดยนักวิจัยติดตามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคู่รักจำนวน 169 คู่ ตลอดระยะเวลาที่กำหนดไว้ 4 ปี โดยตลอดระยะเวลา 4 ปี พวกเขาจะต้องชั่งน้ำหนัก 2 ครั้งต่อปี พร้อม ๆ กับที่ต้องแจกแจงรายละเอียดว่าพวกเขามีความสุข ความพึงพอใจมากแค่ไหนกับชีวิตคู่ของพวกเขา ผลการสำรวจออกมาชัดเจนว่าคู่ที่เปิดเผยว่าตัวเองสุดแสนจะมีความสุขกับชีวิตคู่ พวกเขาจะน้ำหนักขึ้น ในขณะที่คู่ที่ไม่ค่อยมีความสุขกับชีวิตคู่ตัวเองเท่าไหร่จะยังรูปร่างดีเท่าเดิม (แหม่ ได้อย่างเสียอย่างจริง ๆ ) นักวิจัยก็อธิบายว่าคนที่รู้สึกมั่นคงแน่นอน รู้สึกมีความสุขกับความสัมพันธ์ รู้สึกว่าได้เจอเนื้อคู่ที่ตามหามานาน
ยิ่ง 50 Shades Of Grey หนังไตรภาคสุดฮิตของสาว ๆ กำลังจะเข้าโรงมากเท่าไหร่ รสนิยมทางเพศแบบ BDSM ก็ยิ่งถูกพูดถึงมากเท่านั้น แม้ BDSM ในจินตนาการสาว ๆ หลังจากการดูหนังเรื่อง 50 Shades Of Grey จะดูโรแมนติกไปเสียทุกอย่าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าหนุ่ม ๆ อย่างเราก็มีภาพจำติดตาเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศแบบ BDSM ที่รุนแรง ดุเดือด ฟาดฟันมากกว่าหลายเท่า แต่ BDSM ในสมองหนุ่ม ๆ อย่างเราก็ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป เพราะภาพจำทั้งหลายที่เราคิดได้ก็ล้วนมีส่วนจากการประกอบสร้างมาจากหนังโป๊ที่เราดูทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงการมีรสนิยมแบบ BDSM จำเป็นต้องมีความสุขกับโซ่ แส้ กุญแจมือแค่นั้นไหม? ต้องเอาเทียนลนหรือเปล่า? ต้องมีการด่าแบบรุนแรงหยาบคายถุยน้ำลายใส่หรือไม่? วันนี้ UNLOCKMEN อยากให้ผู้ชายเปิดใจ แล้วมามอง BDSM กันใหม่ว่ามันอาจไม่ใช่อย่างที่คุณคิดด้วยซ้ำ BDSM ไม่จำเป็นต้องหยาบคาย ถุยน้ำลายใส่ การมีความสุขกับความเจ็บปวดหรือการถูกครอบงำสั่งการ และการมีความสุขที่ได้กระทำกับผู้อื่นมักถูกเหมารวมกับพฤติกรรมแย่ ๆ
ถ้าพูดชื่อ Ingvar Kamprad หลายคนอาจจะไม่คุ้นหู แต่ถ้าเราบอกว่าเจ้าของ IKEA ชาว UNLOCKMEN คงเริ่มร้องอ๋อแล้วหันไปคุยกับเพื่อนข้าง ๆ ว่า “คนที่เพิ่งจะเสียไปใช่ป่ะ?” เราตอบให้ได้เลยว่า “ใช่ คนนั้นล่ะ” ปู่เพิ่งจากเราไปอย่างสงบแล้วด้วยวัย 91 ปี ตามแถลงการณ์ของบริษัท หนนี้ทีมงานจึงอยากชวนชาว UNLOCKMEN ทุกคนมารำลึกความหลัง ตามรอยมรดกชีวิตและแนวคิดของคุณปู่สุดฮอต เพื่อใช้เป็นแรงบันดาลใจสู่การเป็นมหาเศรษฐีมีชื่อ หรือขอสมัครเป็นสาวกของศาสดาผู้ล่วงลับคนนี้ก็ได้ Who Is he? Ingvar Kamprad เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 1926 ใช้ชีวิตในฟาร์ม Elmtaryd ใกล้กับหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อ Agunnaryd เมือง Småland ทางตอนใต้ของสวีเดน ไลฟ์สไตล์ของปู่คือการขี้เกียจตัวเป็นขน เขาเป็นเจ้าของตำนานที่เป็นสร้างจากความธรรมดา ตอนเด็กก็เที่ยวเล่น ขี้เกียจลุกไปรีดนมในฟาร์ม ติดเหล้า เข้ารีต (ลัทธินาซีแต่ตอนหลังก็เลิกแล้ว) เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างที่พวกเราเคยเป็น หรืออาจจะเป็นมากกว่าที่เราคิดจะเป็นด้วยซ้ำ แต่ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของเบ้าหลอมการสร้าง IKEA ได้เป็นอย่างดี เพราะขี้เกียจจนอยากไปทำอย่างอื่นที่มันได้เงินง่ายกว่า
หลายคนคงคุ้นเลยกับงาน Super Bowl ที่เป็นงานแข่งอเมริกันฟุตบอลโดยถือเป็นไคลแม็กซ์ของฤดูกาลเลยก็ว่าได้ เอาจริง ๆ เราก็พอรู้กันอยู่แล้วว่าอเมริกันฟุตบอลเป็นที่ชื่นชอบของชาวอเมริกันแบบเข้าเส้นเลือดอยู่แล้ว แต่วันนี้ UNLOCKMEN จะมาบอกเล่าเรื่องราวของอีกหนึ่งดีเทลที่แรกอยู่ใน Super Bowl ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กับตัวเกมการแข่งขันเลย นั่นก็คือ Half Time Show นั่นเอง ว่าทำไมมันถึงต้องยิ่งใหญ่ และประสบความสำเร็จจนกลายเป็นเหมือนเวทีในฝันของศิลปินดัง ๆ มากมาย ทำความรู้จัก Super Bowl กันหน่อย ตัวการแข่งขันจริง ๆ คือการแข่งรอบชิงชนะเลิศของอเมริกันฟุตบอลสองลีก ระหว่าง AFL (American Football League) และ NFL (National Football League) ซึ่งเป็นทีมระดับอาชีพ จัดขึ้นในทุกปีในช่วงสิ้นเดือนมกราคมหรือไม่เกินต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยสถานที่การแข่งขันจะผลัดเปลี่ยนกันไปหลาย ๆ รัฐ แค่การแข่งกีฬาประจำปี ทำไมถึงดังพลุแตก? ชาวอเมริกันค่อนข้างให้ความสำคัญกับกีฬานี้เป็นอันดับหนึ่ง และการหาแชมป์ของกีฬาอันดับหนึ่งคงไม่ใช่แค่เรื่องจิ๊บจ๊อย จนเหมือนเป็นวัฒนธรรมหนึ่งของพวกเขาเลยก็ว่าได้ การได้มารวมตัวกันในสเตเดี้ยม เพื่อดูกีฬากับครอบครัว พูดคุย ปาร์ตี้ ดูคุ้น ๆ