CARS

10 MUSCLE CARS ยอดอาชาศึกตัวแรงของ DOMINIC TORETTO จากทุกภาคของ THE FAST FRANCHISE

By: unlockmen February 5, 2018

ถ้าให้เอ่ยชื่อหนังแข่งรถมาซักเรื่อง ชื่อของ Fast & Furious จะต้องแล่นเข้ามาในหัวด้วยความเร็วสูงอย่างแน่นอน ด้วยความสนุกของตัวหนังและจำนวนภาคที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มันขึ้นแท่นเป็นหนังขับรถที่มีความนิยมสูงสุดไปเป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าในปัจจุบันตัวหนังจะกลายสภาพเป็นหนังแอ็คชั่นเป็นที่เรียบร้อย แต่จุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่จะขาดไม่ได้ ก็คือรถยนต์สุดเจ๋งต่าง ๆ ที่โผล่เข้ามาตลอดเรื่อง โดยเฉพาะรถของตัวเอกอย่าง Dominic Toretto เพราะด้วยฝีมือในการแข่งรถ และภาพจำจากการเป็นรุ่นใหญ่ชอบใช้แต่รถอเมริกันล้วน ๆ วันนี้ UNLOCKMEN จะมานำเสนอ 10 ยอดรถที่เป็นอาชาศึกของ Toretto ตลอดทั้งซีรีส์ Fast & Furious ให้เลือดเดือดกัน

1970 Dodge Charger R/T = The Fast and The Furious

เริ่มที่รถตัวแรงจากภาคแรก The Fast and The Furious ต้องยกให้ 1970 Dodge Charger R/T เป็นรถที่ดอมและพ่อของเขาช่วยกันสร้างขึ้นมา จนเกิดอุบัติเหตุคร่าชีวิตพ่อของดอมไป รถคันนี้จึงถูกเก็บไว้ในโรงรถข้างบ้านดอม จนกระทั่งเกิดเรื่องระหว่าง Brian O’Connor ที่นำแสดงโดย Paul Walker ผู้ล่วงลับ ทำให้ดอมต้องนำเจ้าม้าแข่งที่มีเรี่ยวแรงกว่า 900 ม้า ออกมาหวดตัดสินปัญหากับสายลับตำรวจให้รู้แล้วรู้รอด แต่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม Dodge คันนี้ดันไปเฉี่ยวกับรถไฟ ทำให้พลิกคว่ำพังเหลือแต่ซาก แต่รถ Charger ปีนี้ก็ยังไม่วาย ถูกดอมเลือกไปขับในเหตุการณ์สำคัญอีกหลายครั้ง บอกได้เลยว่านี่เป็น Dodge Charger ที่ดอมขาดไม่ได้เลยจริง ๆ

 

1970 Plymouth Road Runner = The Fast and The Furious Tokyo Drift

ข้ามมาที่ภาค Tokyo Drift ซึ่งดอมไปโผล่ที่ญี่ปุ่นในตอนท้ายของเรื่อง เพื่อท้าแข่งกับ D.K. คนใหม่ Sean Boswell ที่รับบทโดย Lucas Black โดยครั้งนี้ดอมเลือกใช้รถ 1970 Plymouth Road Runner ที่เจ้าตัวบอกว่าได้มาจากการแข่งชนะ Han เพื่อนของดอมเมื่อหลายปีก่อน แต่ว่าเอารถตอนยาวแบบนี้มาใช้ในการแข่งดริฟท์ในลานจอดรถแคบ ๆ เป็นการบอกถึงความเหนือชั้นเวอร์ของดอมได้อย่างชัดเจน

 

2009 Dodge Challenger SRT8 = Fast Five-Fast & Furious 6

ควบ 2 ภาคติดเลยกับรถ 2009 Dodge Challenger SRT8 ที่ดอมใช้ขับหลังจากจบการปล้นที่ ริโอ เดอ จาเนโร ในภาค Fast Five โดยเจ้า Challenger คันนี้ได้มีบทสั้น ๆในตอนจบของ Fast Five และโผล่มาต่อเนื่องตอนเปิดเรื่องของ Fast & Furious 6 ที่ไบรอันได้ท้าดอมแข่งอีกครั้งกับรถ Nissan GT-R คันงาม ระหว่างทางไปเยี่ยมลูกชายคนแรกของไบรอัน ซึ่งถ้าดูตัวเลขแล้ว จำนวนม้า 425 ตัว จากเครื่องยนต์ 6.1-liter V8 ของ Dodge SRT8 คันนี้ดูจะเสียเปรียบตัวเลข 600 แรงม้าจากเครื่อง 3.8-liter twin-turbo V6 ของ GT-R แบบเต็ม ๆ แต่ที่เห็นว่าตามทัน น่าจะเป็นพลังของดอมล้วน ๆ ว่างั้นเถอะ

 

1969 Dodge Charger Daytona = Fast & Furious 6

รถในตำนานที่ผู้กำกับบอกว่าหน้าตาอัปลักษณ์จนไม่อยากจะใช้เข้าฉาก จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของ Fast & Furious 6 เลย กับเจ้า 1969 Dodge Charger Daytona ที่ดอมนำรถจากการแข่ง Daytona อันเลื่องชื่อมาใช้แข่งกับ Letty ที่รับบทโดย Michelle Rodriguez ในลอนดอน แรงและทนถึงขนาดใช้ขับไล่รถถังบนทางด่วนไฮเวย์ในสเปนได้ก็แล้วกัน แต่แน่นอนว่าผ่านการปรับแต่งโดยดอมอยู่แล้ว น่าเสียดายที่รถคันนี้เสียหายจากการที่ดอมขับพุ่งชนขอบสะพานไฮเวย์เพื่อช่วย Letty ชนิดซูเปอร์ฮีโร่ยังต้องอ้าปากค้างในความเวอร์วัง

 

1970 Dodge Charger R/T Off-Road = Fast & Furious 7

บางครั้งรถแรงอย่างเดียวก็คงไม่พอ เพราะต้องขับได้ทุกสภาพถนนด้วย ใน Fast 7 ที่พวกดอมต้องไปช่วยตัวประกันที่กำลังถูกส่งไปบนเทือกเขาคอเคซัส โดยทั้งทีมตัดสินใจโดดร่มโดยใช้ “รถ” ติดร่มชูชีพ แน่นอนว่ารถต้องไม่ธรรมดาเหมือนกันเพราะรถของดอมในภาคนี้เป็น 1970 Dodge Charger R/T รุ่นเดียวกับในภาคแรก แต่ถูกอัพเกรดช่วงล่างและล้อให้กลายเป็นรถ Muscle-Offroad คงกระพันไปซะงั้น วิ่งได้ทั้งทางหลักและทางดิน น่าเสียดายอีกเช่นกันที่เจ้ารถ Off-Road ต้องกลายเป็นเศษเหล็ก เพราะถูกดอมขับตกเขาเพื่อหนีการไล่ล่า

 

2015 Dodge Charger Fast & Furious 7

ยังอยู่ที่ Furious 7 ที่พวกดอมยกขบวนกันไปที่เมืองอาบู ดาบี เพื่อตามหาอุปกรณ์สำคัญ แน่นอนว่ามาเมืองคนรวยทั้งที ดอมและคณะต้องเปลี่ยนมาเป็นรถ Supercar ตัวแพงระยับมาขับให้สมกับฐานะเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม  ยกเว้นดอมคนเดียวที่แหวกแนวเลือกรถซีดานที่เหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะมันคือ 2015 Dodge Charger เปลี่ยนจากสองประตูเป็นสี่ประตู แน่นอนว่าชื่อชั้นระดับตำนาน แถมเป็นรถรุ่นโปรด ไม่ว่าจะสองหรือสี่ประตูดอมก็ขับได้หมด

 

1968 Dodge Charger Maximus = Fast & Furious 7

คันสุดท้ายของ Furious 7 ที่ดอมขับไปบอกลาไบรอันในตอนจบ เห็นหน้าตาไม่ค่อยต่างจากรถคันอื่น ๆ ของดอมเท่าไหร่ ใครจะไปรู้ว่าซุกเครื่องยนต์ 9.4-liter Twin-Turbo ความแรงถึง 2000 แรงม้า  อัตราเร่ง 0-100 ใน 2 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 418.43 km/h ซึ่งรถคันนี้เป็นรถที่ทีมงาน Fast & Furious ช่วยกันหามาเพื่อเป็นการรำลึกถึง Paul Walker นักแสดงในบท Brian O’Connor ที่ล่วงลับไป และขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งของ Fast & Furious จนช่วยพาให้หนังโด่งดังเป็นพลุแตกได้จนถึงทุกวันนี้

 

2018 Dodge Challenger SRT Demon = The Fate of the Furious

เปิดตัวทั้งหนังทั้งรถเลยกับ 2018 Dodge Challenger SRT Demon ใหม่ล่าสุดที่หนัง The Fate of the Furious เข้าโรงปุ๊บ ก็เปิดตัวรถคันนี้ทันที โดยรถคันนี้ได้ชื่อว่าเป็น Production car ที่มีอัตราเร่งดีที่สุดในโลกอีกด้วย จากขุมพลัง 840 hp จากเครื่องยนต์ V8 ที่ซ่อนอยู่ใต้กระโปรงหน้าที่มีช่องดักลมขนาดใหญ่ เป็นรถที่ดอมไว้วางใจ เลือกใช้ในปฏิบัติการชิงระเบิด EMP ในเมืองเบอร์ลิน

 

1971 Plymouth GTX = The Fate of the Furious

ยังคงอยู่ใน The Fate of the Furious กับหนึ่งในรถที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคนี้  1971 Plymouth GTX ที่ดอมใช้ระหว่างโจรกรรมรหัสนิวเคลียร์จากรัฐมนตรีกลางนครนิวยอร์ก และหลบหนีจากครอบครัวของตัวเองอย่างลำบากใจ ซึ่งยังคงเป็นที่ถกเถียงกันว่าสมรรถนะของรถคันนี้อยู่ที่เท่าไหร่กัน เพราะถึงแม้จะถูกตรึงด้วยฉมวกติดรถถึง 5 ตัวจากรถ 5 คัน แต่ก็ยังสามารถฉุดกระชากรถทั้ง 5 ได้ไม่ยาก น่าเสียดายที่มันมาจากไปอย่างไม่รอ เพราะมันถูกฉุดจนเพลาหลังรถหลุดกระจาย

 

1968 Dodge Ice Charger = The Fate of the Furious

ปิดท้ายด้วยคันสุดท้ายจาก The Fate of the Furious ซึ่งเป็นหนึ่งในรถที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคนี้อีกเช่นกัน กับ 1968 Dodge Charger ที่ผ่านการศัลยกรรมเสริมแผ่นเหล็กกันกระสุน ยางลุยหิมะ และเครื่องยนต์ขนาดใหญ่สุดแรงติดตั้งไว้ที่ท้ายรถ พร้อมท่อไอเสียขนาดใหญ่ติดกับระเบิด EMP ดอมใช้รถคันนี้บุกทะลวงเข้าไปเพื่อจุดระเบิด EMP และเปิดทางให้ครอบครัวสามารถยึดเรือดำน้ำได้ น่าเสียดายที่มันไม่รอดจากการระเบิด เพราะรถเสียหลักจากการที่ดอมขับล่อให้มิสไซล์ติดตามความร้อนพุ่งชนเรือดำน้ำ

เห็นแล้วเชื่อเลยว่าตัวละครอย่าง Dominic Toretto นั้นมีรถอเมริกันอยู่ในสายเลือดจริง ๆ ด้วยความดุดันสมเป็นม้าศึกของตัวละครหลักเลือดคลั่ง Fast & Furious อย่างแท้จริง คงจะแปลกตาไม่น้อยถ้าภาคต่อไป ผู้กำกับสั่งให้ดอมกลับมาขับ Civic Type-R หรือรถซิ่งเลือด JDM เหมือนภาคแรก ซึ่งเราเชียร์ให้เป็นแบบหลังมากกว่า อย่างน้อยมันก็อยู่ใกล้กับเรามากกว่า Muscle Car ที่ไม่ค่อยได้เห็นบนถนน Thailand สักเท่าไหร่

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line