BEING A LEADER NOT A BOSS: กระตุ้นลูกน้องแบบสร้างสรรค์ ได้ทั้งใจได้ทั้งงาน!

By: unlockmen July 13, 2018

พอมาอยู่ในฐานะหัวหน้า หรือมีลูกน้องเป็นของตัวเองแล้ว เท่ากับว่าเรามีภาระ มีหน้าที่ ที่มันกดดันเรามากเพิ่มขึ้น หลายคนเจ๋งพอที่จะเป็นหัวหน้าในฝันที่ลูกน้องทุกคนอยากทำงานด้วย แต่บางคนยังไม่ใช่ แถมกลายเป็นฝันร้ายของลูกน้องอีกต่างหาก ไม่ว่าคุณจะเป็นแบบไหน ลองทำความรู้จักกับเทคนิคดี ๆ ที่ UNLOCKMEN อยากแนะนำให้หัวหน้าทั้งหลาย ได้ใจลูกน้อง แบบคนมีกึ๋นเขาทำกัน

เลือกของให้ถูกคน

หากเราเต็มใจที่จะหยิบยื่นวัตถุดิบ อุปกรณ์ดี ๆ ของเจ๋ง ๆ ให้กับลูกน้องของเรา อย่าลืมว่าแค่อุปกรณ์เจ๋ง ๆ มันยังไม่พอ ต้องเลือกให้มันเหมาะกับคน ๆ คนนั้นด้วย หมั่นถามความต้องการของพวกเขาอยู่เสมอว่าเขาขาดอะไรในการทำงาน หรือต้องการอะไรเพิ่มเติมที่จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานออกมาดีขึ้น พวกเขาจะได้เป็นนักรบที่พร้อมไปด้วยอาวุธที่แต่ละคนถนัด

ทีนี้ออฟฟิศของเราจะไม่ใช่แค่ที่ทำงาน แต่มันจะเป็นพื้นที่ที่พวกเขารู้สึกสนุกที่จะทำในสิ่งที่เขาถนัด กับอุปกรณ์เจ๋ง ๆ ที่รอพวกเขาที่ออฟฟิศ

สร้างโอกาสดี ๆ

ให้โอกาสพวกเขาได้พักยืดเส้นยืดสาย ให้เขาได้พักสายตา รีเฟรชตัวเองให้กลับมาสดใสอีกครั้ง หรือโมเมนต์อื่น ๆ ให้พวกเขากลับมามีกำลังใจอีกครั้ง อย่างในการประชุม ประเด็นไหนที่โดนปัดตกไป ลองให้โอกาสเขาได้เสนอประเด็นนั้นอีกครั้งแบบเต็มที่ ให้เขาเลิกกังวลกับเรื่องในอดีต และปัญหาที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต และเต็มที่กับเรื่องที่อยู่กับเขาในปัจจุบัน นั่นทำให้ออฟฟิศกลายเป็นสถานที่ที่มีโอกาสดี ๆ เกิดขึ้นเสมอ

รู้จักเบื้องหลังของแต่ละคน

แต่ละคนต่างมีที่มาแตกต่างกันไป นั่นเป็นอีกเรื่องที่เราต้องเข้าใจธรรมชาติและเบื้องหลังของพวกเขา เพราะมันจะส่งผลต่อพฤติกรรม ความคิด รวมไปถึงการทำงานของพวกเขาที่จะส่งผลกับองค์กรของเราด้วย อย่างช่วงอายุของแต่ Generation ความสามารถพิเศษ รสนิยมเด่น ๆ ของคน ๆ นั้น

ยิ่งเรารู้จักเขามากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราดึงจุดเด่น ความสามารถของเขาออกมาได้ ทำให้เขาเจอความสามารถของตัวเองจากมุมของคนอื่นและนำจุดนั้นมาใช้กับการทำงานได้อีกด้วย

แรงจูงใจเล็ก ๆ ส่งผลในระยะยาว

ลองเซอร์ไพรส์หรือสร้างความประทับใจเล็ก ๆ อย่างของขวัญในวันเกิด วันทำงานวันแรก หรือโอกาสพิเศษอื่น ๆ ด้วยของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่จำเป็นต้องของแพง ไฮเอนด์ โชว์ป๋า โชว์รวย แต่ควรเป็นของที่แสดงถึงความใส่ใจอย่างของที่เขาชอบ เขาสนใจ หากยังไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวขนาดนั้น ลองเป็นการ์ดสักใบที่เขียนด้วยลายมือของคุณเอง เพราะคุณค่าของของขวัญมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับมูลค่า แต่มันขึ้นอยู่กับความใส่ใจ

ตอบคำถามให้ได้

คำถามที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการทำงาน ภาพลักษณ์ขององค์กร เป็นอีกสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้แบบชัดเจนให้ได้ นอกจากจะเพื่อประสิทธิภาพของงานแล้ว การที่เรามีจุดยืนชัดเจนแบบถามมาตอบไป (และตอบเหมือนกันทุกครั้ง) เป็นเรื่องที่คนระดับหัวหน้าควรมีอยู่แล้ว นอกจากนี้การตอบคำถามได้ยังสามารถแทรกการโชว์กึ๋นเข้าไปให้ดูเท่ขึ้นได้อีกแบบเนียน ๆ

ทุกคนมีค่าเท่ากัน

ความสามารถ ความถนัดของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน นั่นคือความจริง แต่ไม่ควรเอาจุดนั้นมาตัดสินคุณค่าให้แต่ละคน เพราะสิ่งที่ลูกน้องไม่อยากเห็นที่สุดคงจะเป็นความไม่เท่าเทียมจากหัวหน้า

เราสามารถมีคนโปรดของเราได้ แต่อย่าได้คิดนำเรื่องนั้นมาปะปนกับเรื่องงาน อย่าปฏิบัติกับใครเป็นพิเศษจนออกนอกหน้า อย่าเอาอคติจากคนที่ไม่สนิทกับเราไปลงกับเขาในเรื่องงาน ว่าเขาจะทำงานไม่ดีไปด้วย หรือจับผิดจุดเล็กน้อยของเขาซะตลอดเวลา เพียงเพราะว่าเขาไม่ใช่ “คนโปรด”

และคนที่จะลำบากใจที่สุดคงจะเป็น “คนโปรด” ของเรานี่แหละ อีกคนก็เจ้านาย อีกคนก็เพื่อนร่วมงาน ทำอะไรนิดหน่อยเราก็ชม ทั้ง ๆ ที่ประสิทธิภาพของงานอยู่ในระดับเดียวกันแท้ ๆ แต่มีเพียงคนโปรดเท่านั้นที่ได้รับคำชมจากเรา คนโปรดของเรานั่นแหละที่จะโดนเพ่งเล็ง

ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ในที่ทำงานของคุณ เพราะการทำงานร่วมกับคนในจำนวนที่มากขึ้น การซื้อใจคนเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงควร BEING A LEADER NOT A BOSS นั่นเอง

SOURCE 1,2