ยุคสมัยที่ผู้นำส่วนใหญ่บนดาวเคราะห์ดวงนี้มีแต่ผู้ชายสุดแข็งแกร่งนั้นอาจเลือนรางลงไปนานแล้ว ความเท่าเทียมในหลายมิติทำให้มนุษย์ไม่ว่าเพศสภาพไหน ๆ ก็สามารถขึ้นกุมบังเหียนเพื่อบริหารองค์กรหรือประเทศได้ แม้ภายนอกคล้ายจะเป็นแบบนั้น แต่การเป็นผู้นำผู้หญิงนั้นกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เนื่องจากผู้นำผู้หญิงมักถูกกล่าวหาด้วยภาพเหมารวมความเป็นหญิงบางอย่าง เช่น ผู้หญิงนั้นเจ้าอารมณ์ ไม่มั่นคง ไม่เด็ดขาด ผู้หญิงไม่แข็งแกร่งพอ ผู้หญิงไม่มีความรู้เรื่องการบริหารดีเท่าผู้ชาย ฯลฯ รวมไปถึงความกดดันที่ผู้นำผู้หญิงต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองมากกว่าผู้นำผู้ชาย เพื่อให้ทุกคนในองค์กร (หรือแม้แต่ระดับประเทศ) ยอมรับ Abbie Griffith Oliver ผู้ช่วยศาสตราจารย์จาก Georgia State University ทำงานวิจัยสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันพบว่าเมื่อพูดถึง “ผู้นำที่พวกเขาชื่นชม” คนจำนวน 80% จะนึกถึงผู้ชาย และเมื่อ Abbie Griffith Oliver ถามนักศึกษาในชั้นเรียนว่าคิดอย่างไรกับผู้นำผู้หญิง มีเพียง 5% เท่านั้นที่พอจะนึกถึงผู้นำหญิงออกสักคน แน่นอนว่ามีผู้นำหญิงในหลายองค์กรที่ทำให้เห็นว่าผู้หญิงเองก็สามารถบริหารจัดการได้ดีไม่แพ้ผู้ชาย แต่เมื่อ COVID-19 ที่ถือเป็นวิกฤตการณ์สำคัญระดับโลกมาเยือน ทั้งโลกต่างได้เห็นบทบาทของผู้นำหญิงชัดเจนขึ้น เนื่องจากหลายประเทศที่มีผู้นำหญิงเป็นผู้บริหารนั้นสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 หรือแม้แต่มีจำนวนผู้เสียชีวิตน้อยกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ ผู้นำหญิงจากหลายประเทศถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง ทั้ง Angela Merkel จาก Germany, Jacinda Ardern จาก
“ผู้นำ” คือแกนหลักสำคัญของประเทศ องค์กร หน่วยงาน ผู้คนจำนวนมากไว้วางใจเลือกผู้นำคนใดคนหนึ่งขึ้นมา เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพและความสามารถเต็มเปี่ยม แต่การเป็นผู้นำไม่ได้หมายความแค่การนำพาประเทศหรือองค์กรให้ไปข้างหน้าแค่ในช่วงเวลาอันสงบสุขเท่านั้น แต่หมายความว่าในสภาวะคับขัน ภัยมา หรือถูกจู่โจมแบบฉับพลัน ผู้นำจะสามารถรับมือกับเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นได้สมกับที่ผู้คนไว้วางใจ การบริหารจัดการในสภาวะวิกฤตก็สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญมากไม่แพ้กันคือ “การสื่อสาร” ในสถานการณ์สุดตึงเครียด ในสภาวะที่ประชาชนหวาดกลัว การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพและทรงพลังจากผู้นำนั้นมีส่วนสำคัญที่ทำให้หลายอย่างคลี่คลาย หรืออย่างน้อยที่สุดก็ควรเรียกความเชื่อมั่นจากฝูงชนให้พร้อมเผชิญอุปสรรคไปพร้อมกัน Angela Merkel วิกฤตล่าสุดที่คนทั้งโลกกำลังเผชิญความท้าทายร่วมกันคือวิกฤตไวรัสโควิด 19 ที่กำลังน่าเป็นห่วงในหลายพื้นที่ ผู้นำแต่ละชาติมีมาตรการรับมือ ป้องกันและแก้ไขแตกต่างกันไป รวมถึงสปีชกับประชาชนในชาติตัวเองที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของแต่ละคนด้วย Angela Merkel สมุหนายกแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (ที่ปกติว่ากันว่าเธอไม่ได้ออกมาแถลงอะไรลักษณะนี้บ่อยนัก) แถลงข่าวผ่านทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2020 โดยสปีชครั้งนี้ของเธอได้รับการกล่าวขวัญไปเป็นวงกว้างทั้งความตรงไปตรงมา มีเหตุมีผล เห็นอกเห็นใจผู้คน และสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้คนไปได้พร้อม ๆ กัน Angela Merkel ระบุว่าตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 มา ไม่มีอุปสรรคใดที่คุกคามประเทศของเราได้มากขนาดนี้ ซึ่งทำให้เรายิ่งต้องร่วมมือกัน แม้หลายคนจะเคยกังวลว่าถ้าเป็นผู้นำแล้วออกมาพูดว่ามีปัญหาตรง ๆ จะทำให้คนมองว่าเราไม่มีประสิทธิภาพหรือเปล่า? Angela Merkel ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าการยอมรับว่านี่คือปัญหาที่หนักหนาที่สุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
พอเริ่มทำงานมาได้สักพักหนึ่ง ดูเหมือนเส้นทางการทำงานก็น่าจะไปได้สวย แถมบริษัทก็ยิ่งเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แล้วในที่สุดวันนี้ก็วนมาถึง วันที่ได้เลื่อนตำแหน่งและก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าคนอย่างเต็มตัว แม้ลู่ทางความสำเร็จจะอยู่เพียงเอื้อมมือ แต่การเป็นหัวหน้าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ใครหลายคนคิด งานวิจัยจาก CEB เผยว่า 60% ของผู้บริหารใหม่ต้องเจอกับความล้มเหลวตั้งแต่ 24 เดือนแรกที่พวกเขาเพิ่งเริ่มงานในตำแหน่งนี้ ซึ่งสาเหตุหลักก็เพราะผู้บริหารมือใหม่ไม่ได้ผ่านการฝึกฝนเกี่ยวกับวิธีการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนวิธีการจัดการกับคนในองค์กรอย่างเป็นระบบ แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นกับคุณ ถ้านำ 3 เทคนิคนี้ไปปรับใช้ในการทำงาน อย่าเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเร็วเกินไป ไม่ว่าระบบการบริหารของหัวหน้าคนเก่าจะยุ่งเหยิงขนาดไหน แต่หนุ่ม ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนที่จะเปลี่ยนแนวทางการบริหาร เพราะบางบริษัทที่นำกลยุทธ์ใหม่มาใช้ทันทีอาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป คุณต้องเข้าใจก่อนว่าพนักงานส่วนใหญ่ยังคุ้นชินอยู่กับระบบเดิม ๆ การที่นำกลยุทธ์หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่มาใช้ อาจทำให้กลยุทธ์นั้น ๆ ถูกลืมไปอย่างง่ายดาย เราแนะนำให้ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนจากระบบเล็กไปสู่ระบบใหญ่ หรือแสดงให้คนในบริษัทเห็นว่าทำไมการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถึงสำคัญ และพนักงานทุกคนจะมีส่วนร่วมกับภาพรวมที่ใหญ่กว่าได้อย่างไร วิธีนี้จะทำให้การบริหารงานของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นแน่นอน ไม่กลัวความล้มเหลว คนในองค์กรคือสิ่งสำคัญที่ทำให้บริษัทของคุณเดินหน้าต่อไปได้ การปลุกพลังให้คนในองค์กรจึงเป็นเรื่องสำคัญของผู้บริหารมือใหม่อย่างคุณ เมื่อใดที่พนักงานรู้สึกท้อแท้หรือสิ้นหวัง คุณต้องเป็นคนแรกที่เสนอตัวขึ้นมาช่วยเหลือพวกเขา กล้าที่จะลุกขึ้นมาเริ่มใหม่และอย่ากลัวกับการลองผิดลองถูก นี่เป็นหลักการเดียวกันกับ Thomas Edison ที่ล้มเหลวมาแล้ว 9 ครั้ง แต่ครั้งที่ 10 เขาก็สามารถผลิตหลอดไฟจนสำเร็จได้ เราหวังว่าหลักการนี้ก็สามารถนำไปปรับใช้กับผู้บริหารมือใหม่ทุกคนได้ด้วยเช่นกัน
การเป็นเจ้าคนนายคนได้ต้องสะสมพระเดชพระคุณและบุญบารมีจากชาติปางก่อน ความเชื่อจากประโยคที่ว่านี้อาจยังไม่เพียงพอสำหรับการเป็นหัวหน้าที่ดีในสายตาพนักงานทุกคน เพราะ ‘หัวหน้า’ เป็นอีกแรงขับเคลื่อนที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย และช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีความสุข นอกจากจะต้องใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญในการทำงานแล้ว อาจจะต้องอาศัยความสามารถในการปกครองคนด้วยเช่นกัน หนุ่ม ๆ บางคนอาจโชคดีที่ได้เจอกับหัวหน้าใจดี มีเหตุผล ยอมรับฟัง และเข้าใจหัวอกพนักงาน แต่เชื่อว่าคงมีผู้ชายหลายคนที่ต้องผจญกับหัวหน้าสุดทน จอมบงการ เอาแต่ใจ และไม่เคยเปิดอกรับฟังพนักงานตัวน้อย ๆ อย่างเราเลย จนบางครั้งก็เผลอคิดว่า ถ้าลาออกไปก็คงไม่ต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ทุกวี่วันละมั้ง ไม่ว่าคุณจะเป็นหัวหน้าที่พยายามคิดหาวิธีทำให้ลูกน้องทุกคนรัก หรือเป็นพนักงานธรรมดาที่ใฝ่ฝันว่าสักวันจะเป็นหัวหน้าที่ดีให้ได้ UNLOCKMEN อยากให้หนุ่ม ๆ มาเรียนรู้ 5 คุณสมบัติของหัวหน้าที่ดีที่ลูกน้องทุกคนจะต้องหลงรัก เชื่อว่ามันจะมีประโยชน์ต่ออาชีพการงานของพวกคุณอย่างแน่นอน! กำหนดวิสัยทัศน์ที่แน่วแน่ หากจะเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องทุกคนรัก คุณต้องมีวิสัยทัศน์การบริหารที่แน่วแน่และมั่นคง เพราะคงไม่มีลูกเรือคนไหนอยากล่มหัวจมท้ายกับกัปตันเรือที่ไม่รู้ว่าจะเดินเรือไปในทิศทางใด วิสัยทัศน์ในการบริหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่หัวหน้าทุกคนพึงมี แทนที่จะเร่งพนักงานให้ทำงานไปวัน ๆ อย่างไร้จุดหมาย ให้ลองกำหนดเป้าหมายยิ่งใหญ่เอาไว้ข้างหน้า เพื่อให้คุณและทีมมองเห็น รับรู้ และตั้งใจทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายและความสำเร็จร่วมกัน กำหนดความก้าวหน้าให้พนักงานแต่ละคน ไม่ว่าพนักงานคนไหนก็ต่างตั้งใจทำงานเพื่อความสำเร็จในอาชีพการงานด้วยกันทั้งนั้น อีกหนึ่งคุณสมบัติของหัวหน้าที่ลูกน้องทุกคนรัก คือต้องสามารถกำหนดเป้าหมายความสำเร็จให้กับพนักงานทุกคนได้ การกำหนดเป้าหมายให้พนักงาน นอกจากจะเป็นการวัดความก้าวหน้าและการเติบโตของพวกเขาแล้ว ยังกระตุ้นให้ทุกคนในทีมขยันและตั้งใจทำงานเพื่อความสำเร็จของพวกเขาแต่ละคน แถมการทำงานไปวัน ๆ กับการทำงานที่มีเป้าหมาย ก็คงให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างแน่นอน ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต
พอมาอยู่ในฐานะหัวหน้า หรือมีลูกน้องเป็นของตัวเองแล้ว เท่ากับว่าเรามีภาระ มีหน้าที่ ที่มันกดดันเรามากเพิ่มขึ้น หลายคนเจ๋งพอที่จะเป็นหัวหน้าในฝันที่ลูกน้องทุกคนอยากทำงานด้วย แต่บางคนยังไม่ใช่ แถมกลายเป็นฝันร้ายของลูกน้องอีกต่างหาก ไม่ว่าคุณจะเป็นแบบไหน ลองทำความรู้จักกับเทคนิคดี ๆ ที่ UNLOCKMEN อยากแนะนำให้หัวหน้าทั้งหลาย ได้ใจลูกน้อง แบบคนมีกึ๋นเขาทำกัน เลือกของให้ถูกคน หากเราเต็มใจที่จะหยิบยื่นวัตถุดิบ อุปกรณ์ดี ๆ ของเจ๋ง ๆ ให้กับลูกน้องของเรา อย่าลืมว่าแค่อุปกรณ์เจ๋ง ๆ มันยังไม่พอ ต้องเลือกให้มันเหมาะกับคน ๆ คนนั้นด้วย หมั่นถามความต้องการของพวกเขาอยู่เสมอว่าเขาขาดอะไรในการทำงาน หรือต้องการอะไรเพิ่มเติมที่จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานออกมาดีขึ้น พวกเขาจะได้เป็นนักรบที่พร้อมไปด้วยอาวุธที่แต่ละคนถนัด ทีนี้ออฟฟิศของเราจะไม่ใช่แค่ที่ทำงาน แต่มันจะเป็นพื้นที่ที่พวกเขารู้สึกสนุกที่จะทำในสิ่งที่เขาถนัด กับอุปกรณ์เจ๋ง ๆ ที่รอพวกเขาที่ออฟฟิศ สร้างโอกาสดี ๆ ให้โอกาสพวกเขาได้พักยืดเส้นยืดสาย ให้เขาได้พักสายตา รีเฟรชตัวเองให้กลับมาสดใสอีกครั้ง หรือโมเมนต์อื่น ๆ ให้พวกเขากลับมามีกำลังใจอีกครั้ง อย่างในการประชุม ประเด็นไหนที่โดนปัดตกไป ลองให้โอกาสเขาได้เสนอประเด็นนั้นอีกครั้งแบบเต็มที่ ให้เขาเลิกกังวลกับเรื่องในอดีต และปัญหาที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต และเต็มที่กับเรื่องที่อยู่กับเขาในปัจจุบัน นั่นทำให้ออฟฟิศกลายเป็นสถานที่ที่มีโอกาสดี ๆ เกิดขึ้นเสมอ
เมื่อเดือนเมษายนกำลังคืบเคลื่อนมาถึงพร้อมหอบลมระอุแห่งฤดูร้อนมาด้วย ก็เป็นที่รู้กันดีว่านอกจากวันหยุดยาว เทศกาลสงกรานต์และการพักผ่อนแล้ว สิ่งที่มาพร้อม ๆ กับเดือนเมษายนของทุกปีคือ “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ” และปีนี้ก็เช่นกัน โดยงานมีระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 8 เมษายน 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่ถ้าผู้ชายคนไหนยังงง ๆ ไม่รู้จะอ่านอะไรดี เรามีหนังสือ 5 เล่มที่ผู้นำประเทศต่าง ๆ แนะนำให้อ่านกัน Barack Obama : The Power Barack Obama อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ที่มักเจียดเวลามาอ่านหนังสืออยู่เสมอและมักแนะนำหนังสือที่เขาอ่าน เผื่อใครอยากจะอ่านตามบ้างให้เป็นประจำ สำหรับหนึ่งในหนังสือที่เขาแนะนำในปี 2017 ที่ผ่านมาคือ The Power ของ Naomi Alderman ไม่ต้องกลัวว่าจะเครียดเกินไปเพราะ The Power เป็นวรรณกรรม sci-fi ฝีมือนักเขียนชาวอังกฤษ ที่ว่าด้วยอำนาจที่เรามักเคยชินว่ามันอยู่ในมือผู้ชาย แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้หญิงสามารถพัฒนาความสามารถจนสามารถปล่อยไฟฟ้าออกมาจากนิ้วมือได้ และกลายเป็นเพศที่มีอำนาจควบคุม! แค่จินตนาการก็สนุกแล้วใช่ไหมล่ะ? แต่ภายใต้ความเครียดผู้ชายอย่างเราต้องได้ขบคิดอะไรบางอย่างแน่นอน ถ้าไม่อยากพลาดความสนุกและประเด็นเรื่องอำนาจและความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างเพศก็ไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้เช่นกัน
ความเป็นผู้นำไม่ได้หล่นมาจากบนฟากฟ้าเสียทีเดียว ต้องอาศัยทั้งความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และอีกหลากหลายส่วนผสมที่ปรุงจนกลมกล่อมลงตัว แต่ขึ้นชื่อว่าผู้นำหลายครั้งก็มาพร้อมกลับคำว่า อำนาจ และอำนาจที่กำอยู่จนล้นมือนั่นเองที่ทำให้ผู้คนในปกครองต่างหวั่นกลัว แต่การทำให้คนกลัวไม่ใช่เป้าหมายหลักของการเป็นผู้นำ วันนี้ UNLOCKMEN เอา 5 ลักษณะของผู้นำที่คนเคารพและเกรงใจมาให้ผู้ชายอย่างคุณลองเช็คดูหน่อยว่าคุณมีความสามารถพอที่จะเป็นผู้นำที่มีคุณภาพได้หรือเปล่า ไม่ตัดสินคน เป็นไปได้ว่าประสบการณ์ที่เราเจอคนมาจำนวนมากอาจมีส่วนทำให้เราพอจะมองออกได้ภายในปราดเดียวว่าคนคนหนึ่งที่มีลักษณะอย่างนี้ ลึก ๆ แล้วจะมีนิสัยใจคอที่ซ่อนไว้เป็นอย่างไร แต่ทั้งหมดที่เราผ่านมาไม่ได้แปลว่าจะตัดสินเหตุการณ์หรือคนตรงหน้าได้เสมอไป คนที่จะเป็นผู้นำที่ได้ความเคารพรักจากคนได้ จึงไม่มีนิสัยการตัดสินคนแค่มองเพียงปราดเดียว แต่ต้องมองให้ลึกซึ้งไปกว่านั้น ให้เวลา เหตุผล การกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์มากกว่าจะตัดสินเขาแค่เพราะเขาดูคล้ายกับคนบางคนที่เราเคยเจอมา รับฟังทุกความเห็นที่แตกต่าง เราอาจจะไม่เข้าใจทุกอย่างที่เขาเป็น ทุกอย่างที่เขาคิด หรือทุกอย่างที่เขาทำ แต่เราสามารถรับฟังเขาก่อนได้ ก่อนที่เราจะตัดสินเขา ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ผู้นำที่รับฟังความคิดของคนในปกครอง นอกจากจะจะได้ใจไปเต็ม ๆ ยังสร้างระบบการปกครองที่เป็นเหตุเป็นผล สร้างความรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจของทีมที่จะไม่มองหัวหน้าว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาไว้บนหิ้งแต่ไม่สามารถพูดคุยด้วยได้ เคารพความเป็นส่วนตัวของลูกน้อง การเป็นผู้นำทีม ผู้นำองค์กร หรือผู้นำอะไรก็ตาม ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นเจ้าของชีวิตคนภายใต้ปกครองของคุณ เป็นเรื่องดีที่ถ้าเขาจะเล่าอะไรให้คุณฟัง แต่ผู้นำที่จะสร้างความรัก เคารพ และความเชื่อใจ ต้องเป็นผู้นำที่ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกน้อง ทั้งชีวิตส่วนตัวที่เขาไม่อยากบอก วันลาพักผ่อนที่เขาลาอย่างถูกต้องตามกฏบริษัทแล้ว ควรมีระยะห่างที่พอดีไม่รุกล้ำเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับการทำงานโดยตรง วางอำนาจทิ้งไป แล้วใช้เหตุผลเข้าว่า อำนาจจากการบังคับให้กลัวเป็นอำนาจที่ไม่ยั่งยืนเท่าไหร่ หรือต่อให้ได้มาก็ยิ่งมีแต่ทำให้ร้อนใจ