Life

GUIDE : รวมที่สุดของเก้าอี้ทำงานปี 2022 ที่ต้องนั่ง! จัดอันดับโดย Forbes

By: GEESUCH September 9, 2022

ปี 2022 ช่วงเวลาที่ทุกคนเริ่มปรับตัวให้เข้ากับ Covid19 ได้ดีขึ้น การทำงานที่เคยถูกเปลี่ยนเป็นแบบ Work From Home 100% ก็เริ่มกลับสู่การทำงานการทำงานแบบ Work In Office กันอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ไหน สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับงานที่ต้องนั่งอยู่กับที่ก็คือ ‘เก้าอี้’  

คำที่เรามักจะได้ยินกันตลอดเมื่อต้องการจะซื้อเก้าอี้ในยุคนี้ คือ Ergonomic Chair หรือเก้าอี้เพื่อสุขภาพที่ออกแบบตามหลัก ‘สรีรศาสตร์’ ใส่ใจหลัง คอ บ่าของเราราวกับเป็นคนรัก และเก้าอี้ที่ดีในปี 2022 ต้องมี 3 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้ 

ต้องปรับระดับได้ (Adjustability)

อันดับแรกและพื้นฐานที่สุดเลย เก้าอี้ที่ดีต้องออกแบบโดยคำนึงถึงหลัก ‘สรีรศาสตร์’ ที่เอาความถูกต้องที่เหมาะสมกับร่างกายและระดับความสบายที่ถูกต้องของเราซึ่งต่างกันเป็นที่ตั้ง ด้วยฟังก์ชันที่สามารถปรับระดับส่วนต่าง ๆ ได้ ตั้งแต่ที่พักแขน (Armrest) ความสูง-ต่ำ ไปจนถึงความตื้น-ลึกในการพิงหลัง 

ต้องมีตัวตัวช่วยพยุงหลังส่วนล่าง (Lumbar Support) 

ในเก้าอี้ Ergonomic Chair สมัยใหม่แทบทุกตัวจะมีสิ่งที่เรียกว่า Lumbar Support มาให้ด้วย ซึ่งเจ้าสิ่งนี้จำเป็นอย่างยิ่งต่อการเป็นตัวช่วยแก้ไขอาการ Office Syndrome สำหรับคนที่ต้องนั่งทำงานทั้งวันยาว ๆ ลดอาการปวดหลังช่วงล่าง และปวดไหล่ที่จะเกิดขึ้น และสำหรับในเก้าอี้ตัวที่ดีมาก ๆ เรายังสามารถปรับระดับตัว Lumbar ให้ช่วยพยุงในส่วนที่ต้องการตามแต่สรีระของแต่ละคนได้ด้วย  

วัสดุ (Materials)

หลัก ๆ แล้ววัสดุของเก้าอี้ทำงานที่เราเจอกันก็จะใช้วัสดุอยู่ 2 แบบ คือ ‘หนัง’ และ ‘ผ้า’ เมื่อพูดถึงความเหมาะสมในการเลือกใช้แล้ว เราอาจจะคำนึงถึง ‘สภาพอากาศ’ จากที่นั่งทำงานของเราได้ด้วย เช่น ถ้าหนาวมากก็ซื้อเบาะหนังเพิ่มความอบอุ่น แต่ถ้าร้อนหน่อยก็ซื้อแบบเป็นผ้าเพื่อความปลอดโปร่งและระบายอากาศได้ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สภาพอากาศก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียว และเป็นปัจจัยหลักอย่างแน่นอน อย่างที่บอกในข้อแรกเรื่องความสบายที่ต่างกัน บางคนก็อาจจะชอบพื้นผิวของหนัง และก็จะมีคนที่ชอบสัมผัสของผ้าก็ได้ แล้วถ้าจะพูดว่าแบบไหนดีกว่ากัน อันนั้นก็จะเป็นเรื่องของรายละเอียดของวัสดุเชิงลึกที่มาพร้อมกับความเหมาะสมจากรสนิยมความชอบของแต่ละบุคคลอีกด้วย 

UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปรู้จักกับเก้าอี้ทำงานที่เป็น The Best Of ของปี 2022 จัดอันดับโดยสื่อธุรกิจเบอร์ต้นของโลก Forbes ที่ไม่ได้เหมาะแค่กับพนักงานออฟฟิศเท่านั้น หากเราต้องนั่งทำงานกับโต๊ะแล้วละก็ ไม่ว่าจะที่ไหนเก้าอี้เหล่านี้ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมเสมอ 


Hon Ignition 2.0 (Best Overall) 
Size : 28.5 x 27 x 44.5 นิ้ว
Price : $637 (23,211.01 บาท)

Forbes ให้คำนิยามของเก้าอี้รุ่นนี้ว่า ‘เก้าอี้ไฮเอนด์ในราคาที่ถูกกว่า’ ด้วยฟังก์ชันที่ค่อนข้างครบครันไม่ต่างกับเก้าอี้ไฮเอนด์ตัวอื่น ๆ โดยตัววัสดุเบาะพิงหลังของตัวเก้าอี้ตัวนี้ จะใช้ผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้อย่างปลอดโปร่ง ไม่อับชื้นและทำให้ร้อนจนเกินไปเวลานั่ง พร้อมรองรับน้ำหนักได้ดีถึงแม้ว่าจะโครงสร้างจะทำด้วยพลาสติกทั้งหมดก็ตาม การใช้งานของ Hon Ignition 2.0 ตัวที่พักแขน (Armrest) สามารถปรับได้ทั้งความสูงและความกว้าง, เบาะรองนั่งก็สามารถปรับความสูง+ความลึกของเบาะรองนั่งได้, แถมยังมี Lum Bar Support ให้มาอีกด้วย


Alera Elusion Series Mesh Mid-Back (Best Chair With Armrests) 
Size : 26 x 26 x 43 นิ้ว
Price : $149 (5,429.56 บาท)

นี่คือเก้าอี้ที่สร้างขึ้นเพื่อคนรักในการพักแขน (Armrest) โดยเฉพาะ เพราะ Alera Elusion เขาใช้วัสดุของแผ่น Polyurethane เนื้อสัมผัสนุ่มสบายปูอยู่บนที่พักแขน อ่อนโยนต่อการรองรับน้ำหนักของแขนได้อย่างอย่าวนาน ไม่ต้องทนปวดแขนกับวัสดุพลาสติกแข็ง ๆ กันอีกต่อไป แล้วก็สามารถปรับระดับได้ทุกรูปแบบ ทั้งความสูง ไปจนถึงความกว้าง หลังทำงานเหนื่อย ๆ ก็สามารถเอาตัวเอนพิงบนเบาะผ้าตาข่าย พร้อมปล่อยแขนปล่อยใจบนเก้าอี้ตัวโปรดนี้ได้เลย


Nobelwell Office Chair (Best Budget)
Size : 21.2 x 18.9 x 45.3 นิ้ว
Price : $130 (4,729.40 บาท)

‘ราคา’ น่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยแรก ๆ ในการตัดสินใจเลือกซื้อเก้าอี้ทำงานสักตัว และสำหรับคนที่มองหาความคุ้มค่าแบบราคาถูกอยู่ นี่คือเก้าอี้ของคุณครับ ด้วยราคาที่คิดเป็นเงินไทยเพียง 4,729.40 บาท แต่ได้ความคุ้มค่าของวัสดุตาข่ายที่ระบายอากาศของพนักพิง ที่พิงศรีษะ แถมยังมี Lumba Support ที่สามารถปรับระดับได้อีกต่างหาก


Duramont Ergonomic Office Chair (Best Ergonomic Chair)
Size : 26 x 23.6 x 42 นิ้ว 
Price : $260 (9,467.64 บาท)  

คำว่า Ergonomic เป็นนามสกุลที่ขาดไม่ได้ เมื่อคุณกำลังมองหาเก้าอี้สักตัวเพื่อใช้สำหรับการนั่งทำงาน และการพ่วงด้วยรางวัล Best Ergonomic Chair ของแบรนด์ Duramont ทำให้สามารถมั่นใจได้เลยว่า เก้าอี้ตัวนี้เป็นเก้าอี้ที่ใส่ใจหลักสรีรศาสตร์อย่างสูงสุด 

เริ่มด้วยการมี Lumbar Support ที่เป็นห่วงกระดูกสันหลังของคุณ มาพร้อมกับเบาะรองนั่งแบบโค้งมนคอยรับน้ำหนักได้ทุกแบบ มีที่พักแขน (Armrest) และพนักพิงศรีษะ (Headrest) ที่สามารถปรับระดับได้ด้วย และสำหรับคนที่ไม่ชอบลุกบ่อย ๆ รีวิวจากผู้ใช้งานจริงบอกว่า ขาสแตนเลสและล้อของ Duramont มีความลื่นตัวในการไถสูงมาก เปรียบได้กับการไถโรลเลอร์เบลดเลยทีเดียว


Herman Miller Sayl (Best Chair For Back Pain)
Size : 24.5 x 26 x 40.75 นิ้ว 
Price : $695 (25,304.26 บาท)  

ชาวปวดหลังจาก Office Syndrome มาอย่างยาวนานโปรดยืนขึ้น เอ้ย ๆ นั่งลงดีกว่าครับถ้าปวดหลังอยู่ นี่คือสุดยอดเก้าอี้ไฮเอนด์ตัวตำนานแห่งวงการ Ergonomic Chair ไม่มีใครไม่รู้จัก Herman Miller รุ่น Sayl

สำหรับแบรนด์นี้ก็เป็นที่รู้กันว่าดีไซน์เขาค่อนข้างแตกต่าง แถมฟังก์ชันเองก็โดดเด่นมากด้วย สำหรับวัสดุเบาะพิงจะเป็นตาข่ายยางยืด ซึ่งคุณ Yves Béhar ดีไซเนอร์เขาดีไซน์ทรงจากสะพาน Golden Gate และคิดค้นมาเพื่อให้เหมาะกับการนั่งของคนในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เรียกว่า Harmonic Tilt สามารถปรับทั้งเบาะพิง พนักแขน ไปจนถึงที่นั่งได้อย่างหลากหลายมาก เป็นเก้าอี้ที่สามารถ custom จนเจอท่านั่งของทุกคนได้ในที่สุดอย่างแน่นอน


Herman Miller Aeron (Best Splurge-Worthy Office Chair)
Size : 16.75 x 27 x 41 นิ้ว 
Price : $1320 (48,054.60 บาท)   

ยังคงอยู่กับ Herman Miller แต่คราวนี้เรามากันในรุ่น Aeron เพื่อนที่ดีของพนักงานออฟฟิศทุกคน ที่ต้องทำงานวันและ 8 ชั่วโมงต่อวัน หรือรากยาวเกินกว่านั้นในวันที่ลูกค้ามาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ตัวตาข่ายที่เป็นยางยืดของรุ่นนี้ถูกสร้างมาขึ้นเพื่อรองรับหลังของคนทำงานที่นั่งยาว ๆ โดยเฉพาะ และตามเอกลักษณ์ของเก้าอี้ Herman Miller มาพร้อมกับการปรับแบบ Harmonic Tilt ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ออฟฟิศแบบไหนก็ถูกใจ


Steelcase Gesture (Best Big And Tall Office Chair)
Size : 23 x 34 x 44 inches นิ้ว 
Price : $1351 (49,203.42 บาท)

บ่อยครั้งที่เก้าอี้ไม่ตอบโจทย์สำหรับคนนั่งทำงานทุกคน นั่งแล้วขาติดบ้าง ปรับอย่างไรก็ไม่ได้ตามหลักสรีรศาสตร์สักที แต่ Steelcase Gesture จะมาแก้ปัญหาการนั่งทำงานของทุกคน ด้วยรางวัล Best Big And Tall Office Chair และยังเป็นเก้าอี้ดีติดอันดับ Top 3 ของโลกด้วย

Steelcase Gesture เก้าอี้ที่ใช้เวลาในการพัฒนานานถึง 8 ปี! เพื่อให้การใช้งานเหมาะสมกับอากัปกิริยาต่าง ๆ ในการทำงานของคนยุคใหม่ ที่มี device ต่าง ๆ เป็นส่วนสำคัญในชีวิตการทำงาน ผ่านงานวิจัยสมัยใหม่และการทดลองใช้งานจริง ทั้งการที่สามารถปรับเบาะที่ละเอียดถึงความลึก (Seat Slider) ไปจนถึงการเป็นที่พักแขน (Armrest) ตัวแรก ๆ ของโลกที่สามารถปรับได้แบบ 360 องศา ทุกทิศทาง ไม่ว่าจะนั่งทำงานผ่าน Iphone, Ipad หรือ Tablet ก็ได้ทุกท่าที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ทั้งหมดได้เลย  


เพราะการมีเก้าอี้ทำงานที่ดี ก็ไม่ต่างอะไรกับการมีคนรักคอยซัพพอร์ตชีวิต : )

Source : 1 / 2

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line