CARS

BMW 3-SERIES E36 เจ้าแห่งความเร็วรุ่นเก๋าที่กาลเวลาไม่เคยทำให้สมรรถนะและคุณค่าลดน้อยลง

By: SPLESS December 19, 2018

ถ้าพูดถึง BMW 3-Series E36 เชื่อว่าผู้ชายหลายคนโดยเฉพาะรุ่นใหญ่วัยสามสิบบวกคงจะคุ้นเคยและรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะถ้าย้อนเวลากลับไปตอนสมัยหนุ่ม ๆ รถยนต์ในซีรีส์ดังกล่าวเป็นเหมือนกับพาหนะในฝันที่หากใครได้มาครอบครอง ก็จะกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนไปโดยปริยาย เรียกว่าเป็นรถที่ทำให้หลายคนเริ่มเก็บเงินกันอย่างจริงจังเพื่อจะได้ครอบครองเจ้านกแก้วคันนี้ ไม่ต้องแปลกใจหากจะเห็นรถ 3-Series ในรหัสเครื่อง E36 โลดแล่นอยู่บนท้องถนนของบ้านเราจนชินตา รวมถึงบางรุ่นที่ยิ่งกาลเวลาผ่านไป ยิ่งกลายเป็น Collectible Cars เป็นของสะสมที่มีคุณค่าทั้งทางจิตใจและมูลค่าราคาที่แข็งขึ้น ๆ

แต่อะไรคือสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ในสายการผลิตดังกล่าวของ BMW ได้รับความนิยมจากหนุ่ม ๆ ทั่วโลก วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ BMW 3 Series E36 สุดเก๋าคันนี้ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม


THE BEGINNING OF 3

BMW 3-Series E36 คือรถยนต์นั่งประเภท Compact Executive Car ที่ถูกผลิตขึ้นมาเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ของค่าย BMW คือระหว่างช่วงปี 1991-1999 เปิดตัวครั้งแรกในยุโรปช่วงปี 1990 และต่อด้วยในสหรัฐอเมริกาในปีถัดมา โดยรถรุ่นแรกของสายการผลิตคือรถสไตล์ Saloon 4 ประตู ก่อนจะต่อยอดและขยายโมเดลอื่นตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coupe, Convertible, Compact ,Wagon ไปจนถึงรถสายพันธุ์นักแข่งอย่างตระกูล M

จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ E36 ได้รับความนิยมไปทั่วโลกคือ ความสวยงามของดีไซน์ภายนอกแบบใหม่ที่ถูกเรียกว่า “Dolphin shape” ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำให้การทำงานของระบบ Aerodynamics มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าในรหัส E30 พร้อมกับโครงสร้างตัวรถที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการแบ่งน้ำหนักแบบ 50-50 สร้างสมดุลอันยอดเยี่ยมในการยืดเกาะถนน ปิดท้ายด้วยชุดอุปกรณ์ต่าง ๆ ในตัวรถเริ่มถูกเข้ามาแทนที่ด้วยชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทันสมัยมากขึ้น ทำให้มันกลายเป็นรถที่ได้รับความนิยมในทุกตลาดที่บุกไปเยือน

driving.ca

Evolution of 3-Series E36

BMW 3-Series E36 ยังเป็นรหัสตัวถังแรกที่มีการยกเครื่องขุมกำลังใหม่ แม้ใน 3 รุ่นย่อยอย่าง 316i, 318i และ 318is จะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบอยู่ก็ตาม แต่ในรุ่นอย่าง 320i, 323i, 325i และ 328i จะใช้เครื่องยนต์ 6 สูบขนาด 2.5 หรือ 2.8 ลิตร ปิดท้ายด้วยรุ่น M ซึ่งเริ่มใช้เครื่องยนต์รหัส S50B30 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตรในปี 1992 ก่อนจะพัฒนาเป็นรหัส S50B32 ขนาด 3.2 ลิตรในปี 1995 พร้อมเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ด้วยการติดระบบควบคุมการแปรผันของวาล์วที่เรียกว่า VAMOS ซึ่งจะทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของอัตราการเร่ง รวมไปถึงการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่สะอาดหมดจดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ E36 ยังเป็นรถยนต์ของ BMW รุ่นแรกที่มีการเปลี่ยนมาใช้ชุดเกียร์ Sequential M Gearbox (SMG) อีกด้วย

SuperPro Europe/bmwblog

ไม่ว่าจะขับเดิม ๆ ก็ได้ทั้งอารมณ์เท่และหรูหรา หรือจะแต่งให้ดูโหดขึ้นก็มีของเล่นให้เลือกเพียบ องค์ประกอบทั้งหมดนี้เองที่ทำให้ E36 กลายเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงมีอิทธิพลต่อการพัฒนาของสายการผลิตที่สำคัญของ BMW ในเวลาต่อมา แม้ตลาดรถยนต์จะพัฒนาไปแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่ปัจจุบันผู้คนทั่วก็โลกก็ยังคงนิยมที่จะเล่นและเก็บสะสมมันเอาไว้ในคอลเลกชันส่วนตัวอยู่เสมอ ซึ่งถ้าอยากเห็นภาพให้ชัดเจนมากขึ้น ไปทำความรู้จักกับรถในรหัส E36 ทรงมูลค่ามากในปัจจุบันที่เราอยากแนะนำให้รู้จักทั้ง 3 คันกันได้เลย

 

BMW 3-Series Coupe 325i (1992-1999)

Bmwguide

หนึ่งในโมเดลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยความสนุกและเสียงอันไพเราะเวลาวิ่งอยู่บนท้องถนน ซึ่งเป็นเสน่ห์ของรถยุโรปเกียร์กระปุกที่หายากขึ้นทุกวันในบ้านเรา BMW E36 3-Series Coupe 325i เป็นรถยนต์สองประตูที่ได้รับการยอมรับทั้งเรื่องงานออกแบบและขุมพลังเครื่องยนต์​ i6 ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลัง 192 แรงม้า สูงสุดที่ 5900 รอบ/นาที สั่งงานด้วยชุดเกียร์ Manual 5-Speed ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 8.0 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 232 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยถือเป็นโมเดลที่มีการขยับของราคาตลอดเวลา เนื่องจากความนิยมของมันนั่นเอง

 

 BMW M3 Convertible (1995)

Carsbase

Convertible รุ่นพิเศษที่การันตีความแรงด้วยสัญลักษณ์ M ของดีของหายากที่นักสะสมต่างใฝ่ฝันจะเก็บไว้ในครอบครอง และแน่นอนว่าด้วยสไตล์เปิดประทุนที่โคตรคูลของมัน ทำให้ BMW M3 Convertible ในรหัสเครื่อง E36 กลายเป็นของแรร์ไปโดยปริยายจากจำนวนที่ผลิตออกมาไม่มากมายนัก มาพร้อมเครื่องยนต์ i6 ขนาด 3.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 282 แรงม้าสูงสุดที่ 7000 รอบ/นาที เป็นรถเครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง สั่งงานด้วยเกียร์ Manual 5 Speed ให้อัตราเร่ง 0-100 ใน 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง หล่อด้วยหลังคาอ่อนที่พร้อมเปิดรับลมและฟังเสียงเครื่อง M คำรามอย่างถนัดหู​ ถูกใจทั้งคนขับและคนรอบข้างที่ได้เห็น

 

BMW M3 CSL “Lightweight”  (1995)

Lbilimited

หนึ่งในรุ่นพิเศษของ BMW M3 E36 กับ “Lightweight” รถยนต์สมรรถนะสูงจากตระกูล M ที่ผ่านการรีดน้ำหนักจนตัวรถเบาสมชื่อรุ่น ด้วยน้ำหนักรวมเพียง 1,338 กิโลกรัม แต่ในด้านขุมกำลังของมันกลับไม่เบาตามด้วยเครื่องยนต์ i6 ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลัง 240 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยชุดเกียร์ Manual 5-Speed ที่จะสร้างอัตราการเร่ง 0-100 ใน 5.8 วินาทีและความเร็วสูงสุด 233 กิโลเมตร/ชั่วโมง หนึ่งใน Limited Edition ที่หามาครอบครองได้ยากขึ้นทุกวัน และราคาก็แข็งขึ้นทุกวันเช่นกัน

ส่วนไทยเมืองไทยเราเองก็มีแฟนคลับสาย Hardcore ที่หลงใหลในความเป็น BMW อยู่หลายคน หนึ่งในนั้นคือผู้กำกับมือเก๋าในวงการ พี่ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ที่หลังรักในความสวยงามและอารมณ์การขับขี่ที่แตกต่างของ BMW E36 มานาน พี่ต้องบอกว่าต่อให้มีรถผ่านมือเขาไปมากมายเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เคยมีคันไหนที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการขับขี่และคุณค่าที่มีต่อจิตใจได้เท่ารถ BMW

นี่คือเรื่องราวของเขาและ E36 Convertible คันงามซึ่งเป็นเหมือนกับคู่หูในทุกเส้นทาง

“คนขับรถ BMW คือคนที่รู้จักใช้รถ แต่คนขับรถ BMW เปิดประทุนคือ คนที่รู้จักใช้ชีวิต”

รถในฝันมันไม่ใช่รถที่แพง พี่มองว่า ตอนนี้พี่อยู่ในสถานะที่สาม ารถซื้อฝันของตัวเองได้ และสนุกกับมัน
การขับรถมันเป็นการบำบัดอย่ างหนึ่ง ทุกครั้งเวลาพี่คิดงานไม่ออ ก พี่จะขับรถออกไปข้างนอก

จุดมุ่งหมายไม่สำคัญ พี่สนใจแค่ว่าเวลาเราขับรถ เราจะไปไหนก็ได้

รถมันบ่งบอกถึงรสนิยม ความชอบ และตัวตนค่อนข้างสูง มันจะบ่งบอกถึง character ของคนคนนั้น

MY NAME IS YUTHLERT SIPPAPAK.
THIS IS MY STORY.
WHAT’S YOURS?

 

 

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line