แม้ช่วงหลัง ๆ มานี้ ชื่อของ Robert Pattinson อดีตแวมไพร์สุดฮ็อทจากภาพยนตร์มหากาพย์ Twiight จะดูดร็อปลงไปทั้งในเรื่องผลงาน และชื่อเสียง อาจเพราะว่าเขาไม่สามารถสลัดภาพบทบาท Edward Cullen ที่เป็นภาพจำสำหรับทุกคนไปได้ ทำให้ผลงานของเขาไม่เป็นที่พูดถึงมากนัก จนแทบจะไม่มีข่าวคราวใด ๆ ออกมาเลย แต่จากการที่เราเฝ้าสังเกตไลฟ์สไตล์การแต่งตัวของหนุ่มคนนี้ กลับพบว่ามีความสอดคล้องกับนิสัยคนไทยอย่างน่าประหลาดใจ กับการที่ไม่ชอบแต่งตัวอะไรเยอะแยะ เน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก จนบางทีก็ดูเหมือนจะเป็นคนขี้เกียจยุ่งยากในการแต่งตัว เน้นง่ายเข้าว่า หยิบจับอะไรได้ก็เอามาใส่ แต่ภายใต้ความง่ายก็ยังมีเซ้นส์ในการ Mix & Match สร้างสไตล์ที่เหมาะสมอยู่พอสมควร ดังนั้นทีมงานจึงได้พยายามรวบรวมสไตล์การแต่งตัวของ Robert Pattinson ว่ามีลุคไหนที่ชาว UNLOCKMEN จะสามารถนำมาเป็นไอเดียแต่งตัวสบาย ๆ ตามสไตล์หนุ่มสายชิลล์ Bomber Jacket เรียกได้ว่าเป็นไอเทมชิ้นโปรดของ Robert Pattinson ที่มักจะเลือกมาสวมใส่อยู่เป็นประจำ ซึ่งเราสามารถนำมาแต่งตามได้โดยอาจจะหา bomber jacket ที่มีเนื้อผ้าบาง เหมาะสำหรับอากาศบ้านเรา จากนั้นใส่ควบคู่กับเสื้อยืด และเพิ่มพร็อพอย่างหมวกไหมพรมสำหรับวันที่อากาศดี หรือจะเปลี่ยนเป็นหมวกแก๊บในวันที่อากาศร้อนก็ไม่ผิด ส่วนกางเกงใส่เป็นผ้าชีโน่ทรงหลวมเพื่อความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวไม่อึดอัด สำหรับผู้ชายสายชิลล์เหมือนกับ Robert
ไม่ว่าใครก็มีสิ่งที่ตัวเองหลงใหลมากกว่าหนึ่ง และถ้าเป็นไปได้ เราก็อยากทำให้สิ่งที่หลงใหลนั้นรวมเข้าด้วยกันได้ จะถือว่าเป็นที่สุดของการใช้ชีวิต เจเรมี่ มอนแทโร (Jeremy Monteiro) นักดนตรีชื่อดังระดับโลก ก็เป็นอีกคนที่สามารถนำเอาสิ่งที่ตนเองหลงใหลมารวมอยู่ด้วยกัน นั่นก็คือ J. Monteiro แบรนด์นาฬิกาที่มี DNA จาก Music และ Timepiece ซึ่งสามารถไปด้วยกันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ Jeremy Monteiro เป็นนักเปียโนแจ๊สที่มากไปด้วยความสามารถระดับต้น ๆ ของเอเชียคนหนึ่ง เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่นักเปียโนที่เก่งกาจ แต่เขายังเป็นนักแต่งเพลง นักร้องและโปรดิวเซอร์ที่ศิลปินนานาประเทศอยากร่วมงานด้วยจนได้สมยานามว่า “Singapore’s King of Swing” “ดนตรีแจ๊สไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่เจเรมี่หลงใหล เครื่องบอกเวลาอย่างนาฬิกา ก็เป็นสิ่งที่เขาหลงใหลด้วยเช่นกัน” ย้อนกลับไปในอดีต เขาได้รับนาฬิกาข้อมือเป็นของขวัญวันเกิดจากคุณพ่อตอนอายุ 16 ปี หลังจากที่ได้รับของขวัญชิ้นนั้น มันทำให้เขาเริ่มก้าวเข้ามาศึกษาเรื่องของกลไกลบอกเวลาควบคู่ไปกับการสั่งสมประสบการณ์ทางด้านดนตรีจนกลายมาเป็นนักเปียโนแจ๊สระดับโลก วันหนึ่ง Jeremy ไปเยี่ยมสตูดิโอของนักดนตรีแจ๊สท่านหนึ่งที่ร่วมงานด้วย ทำให้ได้เห็นโครงร่างของการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ สิ่งนั้นเหมือนเป็นการจุดประกายแรงบันดาลใจครั้งใหม่ให้ Jeremy มันทำให้ต่อมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และภาพนาฬิกาที่เดินตามจังหวะดนตรีก็ปรากฏขึ้นในหัวทันที วินาทีนั้นเขารู้แค่ว่าอยากทำให้ภาพในหัว ณ ตอนนั้น เกิดออกมาเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น และทั้งหมดนี้ก็คือจุดเริ่มต้นของเรือนเวลาที่ชื่อ “J. Monteiro” “J. Monteiro”