เปิดตัวได้แรงสะใจสมการรอคอย สำหรับ 2023 Honda Civic Type R ทุกอย่างดูดุดัน สวยงาม แต่ก่อนหน้านี้ Honda ยังไม่เปิดเผยข้อมูลตัวเลขสมรรถนะอย่างเป็นทางการ ในที่สุดวันนี้ก็มีการอัพเดทแรงม้าจากขุมพลัง 2.0-liter turbocharged four-cylinder จัดเต็มให้สะใจถึง 315 แรงม้า @ 6,500 rpm แรงบิด 310 lb-ft @ 2,600-4,000 rpm แรงขึ้นกว่ารุ่นก่อน 9 แรงม้า 15 lb-ft or torque เฉลี่ย output มากถึง 157.8 hp/liter กลายเป็นรถยนต์ Honda ที่แรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในทันที (ไม่นับ 2020 NSX ซึ่งตลาดโลกใช้แบรนด์ Acura) 2023 Honda Civic Type R ใช้เครื่องยนต์รหัส K20C1
โมเดลใหม่และเป็นโมเดลแรกจาก Bently ที่จะช่วยให้หลายคนไม่สับสนในรถ Bentley แต่ละรุ่น ด้วยดีไซน์ที่แตกต่างจากโมเดลปัจจุบัน เป็นรากฐานในการเดินทางสู่โลก EV ของค่ายสุดหรูค่ายนี้ แต่ข่าวดีที่ตัวนี้ยังใช้น้ำมันเผาไหม้อยู่เหมือนเดิม เป็นอีกไฮไลท์ที่พึ่งถูกเปิดตัวในงาน Monterey, California ด้วยแนวคิดการดีไซน์ที่ตีความขึ้นมาใหม่หมด ดูจากภาพนอกจะรู้สึกแปลกตาในความเป็น Bentley ทันที ซึ่งจากเดิมมักจะเน้นไปที่ความหรูหราและสปอร์ต แต่ Mulliner Batur คันนี้ให้กลิ่นอายความทันสมัยและสมรรถนะที่ดุดัน สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดคือสัญลักษณ์การดีไซน์โคมไฟหน้าสองดวงแยกที่สืบทอดใช้งานมาอย่างยาวนานกันจะหายไป แทนที่ด้วยไฟแบบใหม่ triple-beam light มีครบทุกไฟ พร้อมเส้นไฟ LED ฝังอยู่ในโคมเดียวกันหมด กระจังหน้าใหม่ที่ออกแบบให้เสริมมิติจากลวดลายที่ดุดันยิ่งขึ้น มาพร้อมล้อขนาด 22 นิ้ว ขุมพลัง twin-turbocharged 6.0-liter W12 เครื่องขนาดใหญ่ใส่แรงม้ามาเต็ม ๆ จากโรงงานถึง 710 แรงม้า แรงบิดสุดตาราง 1,000 นิวตันเมตร เรียกได้ว่าเป็น Bentley ที่แรงที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา ทรงตัวด้วยช่วงล่างสุดล้ำ advanced air suspension พร้อม electric
แม้การเป็น EV Muscle อาจจะไม่ใช่รถสำหรับทุกคน แต่ Dodge Charger Daytona SRT Concept คันนี้อาจจะทำให้หลายคนเปิดใจกันมากขึ้น Tim kuniskis, Dodge CEO บอกว่าโปรเจค Dodge EV Muscle คันนี้ หัวใจสำคัญที่สุดคือ มันต้องดูเหมือน Dodge และมันต้องให้ฟิลลิ่งการขับเหมือน Muscle car มีการปัดและมี aerodynamic ที่ดี ซึ่งดูเหมือนจะขัดกับความเป็น EV car อย่างสิ้นเชิง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นไปไม่ได้ ด้วยดีไซน์ที่เรียกว่า R-Wing R-Wing คือหลัก aerodynamic ที่คิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ด้านจรวด Gary Romberg ซึ่งเขาได้นำมันมาปรับใช้ในรถ Daytona สำหรับ NASCAR ดักอากาศผ่านช่องว่างด้านหน้าที่มี R-Wing ครอบเอาไว้ เพื่อบังคัมลมให้ไปเพิ่ม downforce ในย่านความเร็วสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ Dodge Charger Daytona
RTR Spec 5 Mustang ม้าคลั่งเวอร์ชั่นล่าสุดจากสำนัก RTR ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเชี่ยวชาญในการจูนม้าป่าให้ดุดันไม่แพ้ Shelby ซึ่งรหัส Spec 5 หมายถึง Mustang ที่แรง ดิบ และโหดที่สุของ RTR ตัวเลข 750 horespower มาจากการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 5.0-liter Coyote V8 ของ Mustang GT version พร้อมเสริมความแรงด้วย Whipple sueprcharger system ให้เแรงบิดมากถึง 840 Nm of torque สามารถเลือกได้ว่าอยากขับชิล ๆ ด้วยเกียร์ automatic หรือเน้นสับเองด้วยเกียร์ manual เพื่อให้แน่ใจว่าม้าทั้งหมดจะถูกจับลงพื้นได้ครบถ้วน RTR จัดการเสริมช่วงล่างด้วย Tactical Performance coilover และ lowering springs ลดความสูงหน้าหลัง พร้อมติดตั้ง sway
Ferrari F40 เป็น Supercar ในฝันของผู้ชายทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม มันกลับถูกสร้างขึ้นให้เป็นรถ GT ไม่ได้ถูกออกแบบให้เป็นรถแข่งในสนาม แต่หลายคนก็มองเห็นศักยภาพของมัน รวมถึง Ferrari ที่ร่วมมือกับทีมแข่ง Michelotto เพื่อสร้าง race-ready F40 ขึ้นมาตามสเปกของ IMSA rules ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็มีทั้ง F40 Le Mans, F40 GT, F40 GTE แต่ Ferrari F40 Competizione คันนี้พิเศษกว่า ผลงานการปรับแต่งใหม่เกือบทั้งคันโดย Zanasi Group of Maranello สำนักแต่งซึ่งอยู่ห่างจากโรงงาน Ferrari แค่ไม่กี่ก้าว จึงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง และยังมีส่วนในการตกแต่ง Tailor-Made editions ให้กับ Ferrari เป็นประจำด้วย Ferrari F40 Competizione ถูกนำมาแยกและสร้างใหม่เพื่ออัพเกรดให้กลายเป็นรถแข่งระดับ 1,000 bhp ได้ชื่อว่าเป็น
พวกเราได้เห็น Ford Mustang edition สวย ๆ มาก็มากมาย แต่รุ่นปีที่สวยที่สุดของรถรุ่นนี้ต้องยกให้ First Generation ช่วงปี 1964-1973 เป็นรุ่นที่นำมา restore เดิม ๆ ก็คลาสสิค หรือจะนำมาปรับเป็น restormod ก็มีเสน่ห์ เช่นเดียวกับผลงานชิ้นนี้จาก “CAGED” Ringbrother 1964.5 Mustang Convertible ดูจากภายนอกหลายคนอาจคิดว่าเป็น Ford Mustang Convertible เดิม ๆ ทั้งคัน แต่ความจริงแล้วอุปกรณ์เกือบทั้งหมดถูกผลิตขึ้นมาใหม่จากสำนักแต่งใน Wisocnsin ชิ้นส่วนเดิมของรถคันนี้มีเพียงจุดเดือน คือฝาครอบดุมล้อตรงกลางเท่านั้น Chassis ของ Mustang Convertible ในยุคนั้นสร้างบน Ford Falcon Platform ถูกนำมาปรับเปลี่ยนใหม่เป็นตัวถังแบบ unibody platform ทำให้มีมิติทั้งความยาวและกว้างเพิ่มขึ้นอย่างละ 1 นิ้ว กระจังหน้าดูออกแบบใหม่พร้อมถอยลึกลงไปราวสองนิ้ว เพิ่มความหนาแน่นของอากาศสำหรับระบายความร้อนให้ขุมพลังใหม่ Ford Performance
ปีนี้เป็นปีที่ Porsche ให้ความสนใจใน motorsports มากเป็นพิเศษ ดูได้จากการเตรียมกลับสนามลงแข่งรายการ Formula 1 ด้วยการเข้าซื้อหุ้นทีม Red Bull F1 Team จำนวนถึง 50% ซึ่งคาดว่าจะประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ นอกจากนี้ยังใกล้จะเปิดตัว 2023 Porsche 911 GT3 RS รถแข่งรหัสใหม่อีกคัน เป็น Track Car ที่พัฒนาขึ้นเพื่อทำเวลาในสนามแข่งโดยเฉพาะ ขุมพลัง 4-liter flat-six 500 horsepower ดีไซน์ที่แตกต่างคือ rear wing ขนาดใหญ่ด้านหลัง และฝากระโปรงหน้าเจาะช่องระบายอากาศสุดดุดัน แสดงให้เห็นถึง DNA ของรถสมรรถนะสูงโดยเฉพาะ เตรียมเปิดตัววันที่ 17 สิงหาคมนี้ แต่คันที่เราอยากนำเสนอในครั้งนี้พิเศษยิ่งกว่า เป็นรหัสร้อนอีกคันที่ดีไซน์อย่างดุดันสำหรับสนามแข่งที่พัฒนาขึ้นตามโจทย์ของลูกค้า Porsche 911 GT3 R พัฒนาบนพื้นฐานของ 992-generation แต่ถูกอัพเกรดรายละเอียดใหม่หมดทั้งคัน มาพร้อมสมรรถนะ
นาทีนี้คงไม่มีข่าวเทคโนโลยีอะไรจะฮอตไปกว่าการรีวิว MacBook Air M2 ของ Apple บนสื่อออนไลน์-ออฟไลน์ทุกหัวอีกแล้ว (ใช้คำโบราณรู้อายุเลย) ก็เขาเล่นเปลี่ยนชิปประมวลผลตัวใหม่รุ่น M2 เรียกว่าล้ำสมัยที่สุดของ Apple บรรจุใส่ซีรีส์ MacBook Air อันกระทัดรัด ที่แรงจนไม่มีใครอดใจไหว แต่ออกรุ่นใหม่มาทั้งที จะอัพเกรดแค่ชิปประมวลผลก็ยังไงอยู่ ทาง Apple เลยออกสีใหม่ให้ตาวาวด้วยเลยละกัน พร้อมกับใส่ฟังก์ชั่นอีกมากมายเพิ่มเข้ามาด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่ารุ่นนี้จะสเป็กบางเบาเป็นอากาศเหมือนชื่อ หรือแรงอย่างที่เคลมจริง ๆ หลังจาก UNLOCKMEN ได้ทดลองใช้งานจริง พร้อมกับสัมภาษณ์ตัวเองแล้วว่าชอบอะไรกับเจ้าเครื่องนี้บ้าง ไปดูกัน ขอชมดีไซน์การใช้งานภายนอกก่อนเข้าตัวเครื่องกันเสียหน่อย มาในเรื่องของ ‘สี’ และน่าจะเป็นสีใหม่ที่คนอยากเห็นของจริงพร้อมอยากได้มากที่สุด อย่าง Starlight Color ซึ่งผลคือ เป็นอย่างที่หลายคนคิดครับ … สวย! สีของจริงมิติคนละระดับกับในรูปบน istudio เยอะ การันตีความสวยจากการพกไปนั่งทำงานที่ Star Buck แล้วคนที่ผ่านไปมามองตลอดเวลา MacBook Air M2 มาด้วยขนาด 13 นิ้ว
หลังปล่อย teasers ที่สร้างความฮือฮา พร้อมเคลมอย่างภาคภูมิใจว่าจะผลิตรถพลังงานไฟฟ้าที่หรูหราที่ทำให้ Mercedes-Benz และ Tesla ต้องอายกันไปเลยทีเดียว Cadillac Celestiq Electric Sedan เปิดตัวในฐานะ “Show Car and Not For Sale” เป็นรถไฟฟ้า concept สุดปังอลังการจาก GM ที่ได้แรงบันดาลใจจาก 1957 Eldorado Brougham เน้นเจาะกลุ่ม ultra luxury เน้นต่อสู้กับแบรนด์ระดับ Rolls-Royce หรือ Bentley กับระดับราคาราว $300,000 USD ถ้าตีเป็นเงินไทยก็ทะลุ 10 ล้านบาทแน่นอน ทุกอย่างที่ใส่มาเรียกว่าให้แบบไม่มีกั๊ก ภายในดีไซน์ให้มีทั้งความเป็นเลิศของ function และ form หน้าจอ pillar-to-pillar เต็มพื้นที่คอนโซลต่อขนาด 55 นิ้ว เทคโนโลยีการสร้างที่ล้ำสมัย ผสมผสานความหรูหรากับความคราฟต์ด้วยการผลิตด้วยมือ ตัวถังสไตล์ fastback คล้ายกับ
ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับการนำรถยนต์มาเชื่องโยงกับโลกของศิลปะ แต่ส่วนใหญ่เราจะเห็นเพียงดีไซน์สีหรือการตกแต่งภายนอกเท่านั้น ต่างจากรถยนต์กึ่งผลงานศิลป์ของดีไซน์เนอร์ชาวฝรั่งเศส Pierre Gonalons กับการออกแบบโปรเจคที่ชื่อว่า “Renault 5 Diamant” Renault 5 Diamant คือการใช้แรงบันดาลใจจากอัญมณีมีค่า นำมาใส่ในดีไซน์ของรถยนต์ Renault 5 ซึ่งในอีกความหมายคือการเชิดชูตำนาน rally racing อันยิ่งใหญ่เลอค่าของรถรุ่นนี้ ดีไซน์ธรรมดาถูกแทนที่ด้วยเส้นสายรายละเอียดของเครื่องเพชร ตั้งแต่ไฟหน้าถูกปรับดีไซน์เหมือนเพชรเม็ดใหญ่ ที่จับประตูได้แรงบันดาลใจจากตุ้มหูเพชร เป็นการคัสตอมรถให้กลายเป็นเครื่องเพชรติดล้อก็ว่าได้ ภายนอกสีสันสดใสอย่างมีสไตล์ด้วยโทน matte pink สีชมพูด้านที่หาดูได้ยากบนท้องถนน มีการเติมเม็ดสีทองจำนวนมากลงไปเพื่อเพิ่มมิติและแสงประกายทองวิบวับในเวลากลางวัน และจะกลายเป็นประกายสีน้ำเงินเข้มในเวลากลางคืน ภายในใส่รายละเอียดสุดบรรจงไว้ทุกจุด ของตกแต่งสั่งผลิตสำหรับผลงานชิ้นนี้โดยเฉพาะจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก แม้แต่พรมรถยังผลิตจากผ้าไหมโมแฮร์ของ Pinton ที่ใช้เส้นใยที่ได้จากแพะแอกอร่ามาทอเป็นผืน ส่วนเบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าสั่งพิเศษจาก Metaphores ห้องโดยสารตกแต่งปิดทองเพิ่มความหรูหราโดย Bertin-Aubert ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ พร้อมเพิ่มความทันสมัยบนคอนโซลด้วย phone dock สำหรับเชื่อมต่อ Smartphone ผลิตจากผ้าที่ใช้ขนม้าถักด้วยมือจาก Le Crin ปุ่มกดและที่จับเปิดประตูใช้ทองเหลืองปิดด้วยแผ่นทอง ส่วนพวงมาลัยได้ไอเดียจากเก้าอี้สุดหรู Loggia by Pierre Gonalons ซึ่งผลิตจากหินอ่อนและ
ขึ้นชื่อเรื่องสำนักแต่ง Supercar แม้แต่ Ferrari’s SF90 Stradale ระดับพันม้าของเดิมก็ยังแรงไม่สะใจ NOVITEC จับมาอัพเกรดใหม่ด้วยชุดแต่งรอบคันที่ดีไซน์ใหม่เป็น NOVITEC race-spec options ไม่ใช่แค่ออกแบบให้ภายนอกดูดี แต่เป็นการดีไซน์ที่เข้า wind tunnel เพื่อเน้นอัพเกรดทั้งความดุดันและประสิทธิภาพการควบคุมอย่างแท้จริง ด้วยการนำข้อมูลที่ได้มาใช้สร้าง body kit ตั้งแต่ front spoiler, detachable side skirts, rear diffuser, และ ducktail rear spoiler ทั้งหมดผลิตจาก carbon fiber จาก naked carbon fiber ทั้งช่วยเพิ่ม aerodynamic และ downforce ให้ดียิ่งขึ้น โดยที่ยังคงจุดเด่นของ SF90 Stradale เสริมความโหดขึ้นได้อย่างชัดเจน ขุมพลัง 4-liter twin-turbo V8 + three electric
ด้วยราคาของ Nissan Skyline GT-R ที่มีแต่แข็งและแพงขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะรถเดิม ๆ สภาพแห้ง ๆ กับมูลค่าระดับ Supercar ก็คงไม่มีใครอยากจะแงะแกะมันออกมา แต่ทุกอย่างย่อมต้องมีขั้นกว่าสำหรับคนที่มองหาความพิเศษกว่าใคร หนึ่งในนั้นคือสำนักแต่งในญี่ปุ่นที่ชื่อ Built By Legends (BBL) Built By Legends คือเจ้าแรกที่มีโปรแกรมการสร้าง Nissan Skyline GT-R ขึ้นใหม่แบบ restomod ทุกอย่างคือของแท้ตั้งแต่แหวนยันน็อต พร้อมเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ขาดหายไปในรถยนต์ยุค ’90s กระบวนการ restomod เริ่มตั้งแต่การตามหา chassis ของ Skyline GT-R แท้สภาพสวย เพื่อนำมาสร้างใหม่ทั้งหมดด้วย Mine’s-spec car ชุดแต่งทั้งภาพนอกและภายในจาก Mine’s เครื่องยนต์ RB26DETT ถูกนำมาจูนเพิ่มความจุเป็น 2.8 ลิตร มีแรงม้าให้เลือกสามระดับคือ 500, 550