Nike เตรียมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการ Sneaker อีกครั้ง หลังมีข่าวออกมาว่าพวกเขาเตรียมแต่งตั้งประธานบริษัทของ AIR JORDAN คนใหม่แทนที่ Larry Miller ซึ่งจะขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งบอร์ดบริหารและที่ปรึกษาของแบรนด์แทน โดยการรับตำแหน่งจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2019 ที่กำลังจะมาถึง และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญขึ้นในตลาดรองเท้า Sneakers ได้อย่างแน่นอน Nike ร่วงหล่นลงมาอยู่อันดับ 2 ในตลาดรองเท้าผ้าใบ โดยเสียตำแหน่งให้กับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Adidas ที่มีผลงานร้อนแรงตลอดทั้งปี ส่วน Air Jordan ก็มีส่วนแบ่งตลาดอยู่เพียง 9.5% ของตลาดทั้งหมดเท่านั้น ทำให้พวกเริ่มมองหาทางออกที่สามารถทำให้การตลาดของพวกเขาแข็งแรงมากขึ้น และหวยก็มาตกที่ Craig Williams นักธุรกิจมากประสบการณ์ ที่เคยร่วมงานกับแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย มารับไม้ต่อในการรีแบรนด์ให้สัญลักษณ์ Jump Man กลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง Craig Williams มาพร้อมโปรไฟล์ยาวเป็นหางว่าว ก่อนหน้าในปี 2005 เขาเคยรับตำแหน่งรองประธานอาวุโสของ Coca Cola และตำแหน่งประธานของ McDonald’s รับผิดชอบดูแลการเติบโตของร้านมากกว่า 37,000 สาขาในกว่า 100 ประเทศ นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านพลังงานนิวเคลียร์ของ
RALPH LAUREN กลายเป็นชาวอเมริกันคนล่าสุดที่ได้รับการแต่งตั้งยศอัศวิน และเป็นดีไซเนอร์จากเมืองลุงแซมคนแรกที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์นี้ จากการสร้างมาตรฐานที่ดีเยี่ยมให้กับวงการแฟชั่นของโลกมาตลอด 50 ปี รวมไปถึงช่วยเหลือและก่อตั้งมูลนิธิเพื่อการกุศลอีกมากมายตลอดระยะเวลาที่ผลงานของเขาโลดแล่นอยู่บนรันเวย์ Ralph Lauren ปัจจุบันอายุ 79 ปี ถูกรู้จักเป็นอย่างดีในฐานะดีไซเนอร์และมหาเศรษฐีใจบุญ เจ้าของอาณาจักร Ralph Lauren Corporation ผู้มีทรัพย์สินมากถึง 7.2 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งนอกจากแง่มุมที่เราเคยเห็นเขาชีวิตแบบหรูหรา ถึงขนาดจัดงานเปิดตัวคอลเลกชันเสื้อผ้าขึ้นใน Garage ส่วนตัวซึ่งมีทั้งรถคลาสสิกและซุปเปอร์คาร์สะสมไว้กว่า 70 คัน แต่ก่อนที่เขากลายเป็นชายที่ประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ Ralph Lauren ก็เป็นคนชอบทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์เป็นอยู่เสมอ แถมเรื่องที่ทำยังช่วยเหลือคนไม่ใช่เฉพาะแค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่รวมถึงในต่างประเทศและทวีปอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ช่วงชีวิตสมัยหนุ่มก่อนหน้าที่ตัวเขาจะก่อตั้ง Ralph Lauren Corporation ขึ้นมาในปี 1967 เขาเคยใช้เวลาเป็นทหารประจำการในกองทัพนานกว่า 2 ปี ก่อนออกมาทำธุรกิจเนื่องจากรู้ตัวว่ามีความหลงใหลในแฟชั่น ซึ่งแน่นอนว่าเขาทำมันออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนเกิดเป็นแบรนด์ Luxury Clothing มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น Polo Ralph Lauren ,
สานต่อความร่วมมือในฐานะพันธมิตรผู้สร้างสรรค์เสื้อผ้าทางการให้กับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยคอลเลคชันแคปซูลใหม่ นำเสนอแอคเซสซอรี่ลายกราฟิกที่มิกซ์สไตล์การออกแบบของ PAUL SMITH เข้ากับเรื่องราวอันเป็นตำนานของสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลกอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้อย่างลงตัว คอลเลคชันนี้ได้นำเสนอลายพิมพ์ภาพถ่ายสองลาย ทั้งลายผ้าพันคอวินเทจของสโมสรและลาย rosettes (ริบบิ้นรางวัล) พอล สมิธ ถือเป็นดีไซเนอร์คนแรก ๆ ในการนำภาพถ่ายมาพิมพ์ลงบนเสื้อผ้าในช่วงยุค 70-80 และลายพิมพ์ภาพถ่ายที่มีการนำมาใช้ใหม่ในคอลเลคชันนี้คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่พิสูจน์ความเป็นผู้บุกเบิกของเขา ในขณะที่ก็สามารถนำมาใช้เพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ด้วยในเวลาเดียวกัน คอลเลคชันนี้เป็นคอลเลคชันที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเน้นไปที่แอคเซสซอรี่ มีให้เลือกทั้งกระเป๋าใส่โน๊ตบุ๊ค กระเป๋าใส่ของ สมุดโน้ต กระเป๋าสตางค์หนัง กระเป๋าใส่บัตร รวมถึงเคสสำหรับใส่ iPhone 8 นอกจากนี้ ในคอลเลคชันยังมีการนำเสนอลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของพอล สมิธ นั่นก็คือลายทางหลากสีสันที่มีให้เห็นทั้งบนผ้าพันคอวูล และถุงเท้า และเพื่อทำให้เสื้อผ้าทางการดูสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ในคอลเลคชันนี้ยังมีกระดุมข้อมือเสื้อเชิ้ตลายทางที่มีให้เลือก 2 แบบ และเนคไทที่มีตราประทับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งแบบสีแดงและสีดำ พอล สมิธเป็นพันธมิตรผู้สร้างสรรค์เสื้อผ้าทางการให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นความร่วมมือระหว่างกันตั้งแต่ปี 2008 เมื่อพอล สมิธได้ออกแบบชุดสูทให้กับนักเตะและทีมงานของสโมสรได้ใส่ ในช่วงเวลาที่สโมสรก้าวไปคว้าชัยชนะในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบสุดท้ายที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย นับแต่นั้น นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ได้สวมใส่เสื้อสูทที่ตัดเย็บให้แบบเฉพาะบุคคลจากพอล สมิธ มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงการเข้าร่วมการแข่งขันเอฟเอคัพในปี 2018
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมากลุ่มไอดอลเกาหลีวง BTS ได้โดนถอดรายชื่อออกจากการแสดงในรายการเพลงญี่ปุ่นอย่าง Music Station โดยสถานีโทรทัศน์ชื่อดังอาซาฮี เนื่องจากภาพของสมาชิกในวงที่ใส่เสื้อ Atomic Bomb สกรีนภาพและความคิดเห็นเกี่ยวกับการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เมืองฮิโรชิม่า ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีผู้เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดดังกล่าวนับแสนคน รวมถึงข้อความบนเสื้อที่เขียนว่า Patriotism, Our history และ Liberation Korea เรื่องการปลดแอกชาวเกาหลีใต้ ก่อให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ร้อนแรงทั้งสองประเทศ ความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้นั้นมีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และไม่นานมานี้ ศาลเกาหลีใต้ได้ตัดสินให้บริษัทอุตสาหกรรมเหล็กของญี่ปุ่นจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ชาวเกาหลีใต้เป็นจำนวนเงิน 100 ล้านวอน หรือตีเป็นเงินไทยราว 3 ล้านบาท จากการบังคับใช้แรงงานในโรงเหล็กช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งคำตัดสินดังกล่าวก่อให้เกิดข้อพิพาทที่รุนแรงทั้งชาวเกาหลีและชาวญี่ปุ่น รวมถึงนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นอย่างนายชินโสะ อาเบะ ที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลเกาหลีใต้ เนื่องจากกฎหมายระหว่างประเทศและประเด็นดังกล่าวสิ้นสุดลงไปแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 แต่ทางเกาหลีใต้ยังคงออกมาเรียกร้องค่าเสียหายอยู่ ซึ่งประเด็นเสื้อเจ้าปัญหาของวง BTS อาจเรียกได้ว่าเป็นการโดนหางเลขไปด้วยจากเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว รวมถึงจังหวะที่พอดีเมื่อ BTS ได้ขึ้นแสดงในรายการเพลงของญี่ปุ่นช่วงที่ข้อพิพาทนี้ยังคงถกเถียงกันอยู่ เห็นได้จากการที่สมาชิกของวงได้สวมเสื้อดังกล่าวนานแล้ว แต่ดันพึ่งเป็นประเด็นที่นำมาถูกพูดถึงภายหลัง ไม่ใช่เพียงแค่ญี่ปุ่นกับเกาหลีเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแฟชั่นได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองนานแล้ว อย่างเช่นในสังคมอเมริกันช่วงยุค 80s ที่โด่งดังเรื่องแฟชั่นฉีกแนวที่มีไมเคิล แจ๊คสัน
การร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลงาน คือหนึ่งในรูปแบบการทำงานยอดนิยมของวงการแฟชั่นในปัจจุบัน เพราะนอกจากการย้ายค่ายสลับขั้วเพื่อสร้างผลงานร่วมกัน จะสามารถสร้างไอเดียดี ๆ และขยายฐานลูกค้าของแบรนด์ให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว หากมีจังหวะวางขายที่ดีพวกเขาอาจทำเงินมูลค่ามหาศาลได้ในเวลาไม่นาน เพราะมักจะเป็นผลงานแบบ Limited Edition เมื่อการคอลแลปส์เพื่อผลประโยชน์ยังดำเนินต่อไปเป็นเรื่องปกติของบริษัทแสวงหาผลกำไร แต่อีกด้านหนึ่งก็ยังมีการร่วมงานกันเพื่อช่วยเหลือเหล่าเด็ก ๆ ในสังคมที่รู้จักกันในชื่อ NIKE X DOERNBECHER FREESTYLE อยู่ด้วยเช่นกัน NIKE X DOERNBECHER FREESTYLE คือการร่วมมือกันระหว่าง Nike Inc. และ Doernbecher Children Hospital ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเด็กชั้นนำไม่กี่แห่งของประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวโครงการเกิดขึ้นจากแนวคิดของ Michael Doherty ในเวลานั้นยังรั้งตำแหน่ง Creative Director ให้กับ Nike อยู่ โดยเขาได้แรงบันดาลใจมาจากคำพูดของลูกชายที่ชื่อว่าคอนเนอร์ เกี่ยวกับการหาวิธีช่วยเหลือและสนับสนุนโรงพยาบาล ซึ่งคอนเนอร์ก็เสนอไอเดียอย่างน่าสนใจว่า อยากให้ผู้ป่วยเด็กได้มีส่วนร่วมกับการออกแบบรองเท้า Nike ของตัวเอง เพื่อนำไปประมูลและนำรายได้ทั้งหมดมอบเข้ามูลนิธิ 15 ปีที่ผ่านไป DOERNBECHER FREESTYLE สามารถหาเงินช่วยเหลือให้กับโรงพยาบาลได้ถึง 20 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ป่วยเด็กซึ่งกำลังรอความช่วยเหลืออีกจำนวนมาก และล่าสุดคอลเลกชัน NIKE X
กลายเป็นปีแห่งการครอสโอเวอร์ข้ามสายร่วมงานกันระหว่างแบรนด์เสื้อผ้าทั่วโลกไปแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ Timberland ที่พึ่งร่วมงานกับ Off-White ไปหมาด ๆ เมื่อต้นปี ก่อนล่าสุดจะตัดสินใจร่วมมือกับแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาคลาสสิคอย่าง Champion เพื่องานคอลแลปส์ 2 ชุดใหม่ที่กำลังปล่อยออกมาพร้อม ๆ กัน ภาพตัวอย่างบางส่วนของ “Luxe Pack” และ “Sport Pack” 2 คอลเลกชันล่าสุด ที่เกิดจากการความร่วมมือกันของ Timberland และ Champion ถูกส่งออกมาตอกย้ำข่าวลือ หลังจากมีภาพของ 6-Inch Boot ที่มีโลโก้ของทั้งสองค่ายแปะไว้หลุดออกมา ซึ่งในคอลเลกชันนี้ดูเหมือนจะมี Items ที่น่าสนใจมากกว่ารองเท้าหลายชิ้นเลยทีเดียว TIMBERLAND X CHAMPION มีการเปิดเผยรายละเอียดคร่าว ๆ บางส่วนคือในแคปซูล “Luxe Pack” จะประกอบไปด้วยเครื่องแต่งกายที่ผสมผสานระหว่างแนวทางของทั้งสองแบรนด์เข้าด้วยกัน และถ่ายทอดออกมาผ่านทาง Sportwear ไม่ว่าจะเป็น Tees ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบแขนสั้นและยาว นอกจากนี้ยังมี Fleece-Line Hoodies และ Jogger Pants รวมกันอยู่ในคอลเลกชันด้วย แต่ในส่วนของแคปซูล “Sport Pack” จะเน้นไปทาง Premium
หลังจากที่ Kim Jones ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษได้เคยสร้างความฮือฮาให้กับโลกแฟชั่นด้วยการส่ง Louis Vuitton x Supreme ออกสู่สายตาไปเมื่อปี 2017 แต่ในปีนี้โจนส์ได้โบกมือลา Louis Vuitton เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อต้นปี และได้เปิดตัวคอลเลกชั่นเดบิวต์ในฐานะ Artistic Director คนใหม่ของ Dior บนรันเวย์ Spring/Summer 2019 ได้อย่างน่าประทับใจ คอลเลกชั่นเปิดตัวของโจนส์ในครั้งนี้ถือเป็นการผลิกโฉม Dior Homme ครั้งใหญ่ เพราะเมื่อนึกถึง Dior Homme ก็คือสไตล์เรียบหรูที่มาพร้อมกับสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ตามสุภาพบุรุษแบบดิออร์ ซึ่งโจนส์ก็ไม่รอช้าที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้แก่แบรนด์โดยเปลี่ยนคอนเซปต์จากสุภาพบุรุษขรึมมาเป็นสุภาพบุรุษที่มีลุคสบายๆ ที่ยังคงความเนี๊ยบเท่อยู่ ด้วยการหยิบโทนสีพาสเทลอย่างขาวครีม ชมพูอ่อน และฟ้า รวมไปถึงลายดอกต้อนรับซัมเมอร์มาผสมกับโทนสีเข้มแบบดั้งเดิมของดิออร์ และได้เปลี่ยนชื่อเรียกจาก Homme ให้กลายเป็น Men เพื่อสร้างความรู้สึกที่เข้าถึงง่ายขึ้นอีกด้วย แรงบันดาลใจในการเปลี่ยนสไตล์ของ Dior Homme ให้กลายเป็น Dior Men ของโจนส์นั้นได้มาจากการศึกษาไลฟ์สไตล์และการทำงานของผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง คริสเตียน ดิออร์ ที่ต้องคลุกคลีอยู่ในแวดวงแฟชั่นทั้งชายและหญิง เพื่อนำเสนอแฟชั่นที่ไม่มีการแบ่งเพศ พร้อมตอบรับกับกระแสเฟมินีนที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน นอกจากการเปลี่ยนดีไซน์เสื้อผ้าในทิศทางใหม่ที่สร้างความฮือฮาแล้ว
Fashion Week สำหรับ Menwears ในฤดูกาล Spring/Summer 2019 ที่จัดขึ้นใน 4 มหานครแห่งแฟชั่นอย่าง Milan, London, New York และ Paris ก็ได้สิ้นสุดลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายคนอาจจะไม่ได้ติดตามแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะ UNLOCKMEN มาเผยทิศทางของแฟชั่นในปีหน้าว่ามีเทรนด์อะไรมาแรงบ้าง ด้วยการรวบรวม Street Style Trend 2019 ที่น่าสนใจไว้ดังนี้ 1. NEON TONE กลับมาฮิตอีกครั้งกับแฟชั่นนีออนไม่ว่าจะเป็นโทนสีเขียวหรือสีส้ม ที่คาดว่าจะยังคงได้รับความนิยมไปจนถึงปีหน้า เพราะไม่ว่าจะเป็นแบรนด์สตรีทไปจนถึงแบรนด์ไฮแฟชั่นอย่าง Prada และ Dior ต่างก็หยิบเฉดสีนีออนมาแต่งแต้มบนผลงานกันอย่างสนุกสนาน รวมถึงสีนีออนนั้นเข้ากันได้ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มผิวขาว หรือผิวแทน สามารถเสริมสร้างความเท่ไม่เหมือนใครในงานปาร์ตี้หรือสะท้อนแสงไฟด้วยสีนีออนกันได้อีกยาว ๆ 2. SPORTSWEAR SUNGLASSES สำหรับแฟชั่นต้อนรับซัมเมอร์ หนึ่งไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับฤดูกาลนี้ก็คือแว่นกันแดด ซึ่งแว่นทรง Sportswear ในปีนี้ถือว่าได้รับความนิยม มาแรงแซงแว่นรูปทรงอื่นไปมาก ทั้ง Prada, CMMN
หลังจากประสบความสำเร็จมากมายไปกับรองเท้าคอลเลกชัน “THE TEN” ที่กินเวลาปล่อยของนานเป็นปี ๆ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของโครงการร่วมอย่าง Nike และ Off-White™ จะยังไม่หมดมุก ล่าสุดพวกเขากำลังเตรียมปล่อยรองเท้าตระกูล Off-White x NIKE ในโมเดล Air Max 90 ออกมาอีกสองคู่ด้วยกัน ซึ่งจะสร้างความคึกคักให้กับตลาดรองเท้าในช่วงสิ้นปีนี้ได้อย่างแน่นอน ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า Off-White™x Nike คือหนึ่งในคอลเลกชันรองเท้าที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่าน ซึ่งเป็นผลจากการนำรองเท้าผ้าใบโมเดลในตำนานของค่าย Swoosh มาปัดฝุ่นออกแบบใหม่ด้วยการใส่มุมมองที่มีความเป็นสตรีตของแบรนด์ Off-White ลงไป ทำให้ชิ้นงานที่ปล่อยออกมาได้รับความนิยมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น Vapor Max, Zoom Fly mercurial, Air Presto หรือว่าจะเป็น Air max 97 การกลับมาอีกครั้งล่าสุดในรูปแบบที่หลายคนชื่นชอบเป็นพิเศษอย่าง Air Max 90 รองเท้าพิมพ์นิยมที่ถูกนำเสนอในสองโทนสีใหม่ ซึ่งจะแตกต่างจาก Off-White x NIKE Air Max 90 ตัวแรกอย่างไรไปดูกัน OFF-WHITE x
หลังจากวุ่นวายอยู่กับการออกแบบรองเท้าประจำตัวร่วมกับ Adidas มาสักพักใหญ่ ๆ ล่าสุดศิลปินมากความสามารถ Pharrell Williams ก็เตรียมพักงานสตรีตเพื่อเตรียมตัวออกแบบคอลเลกชันใหม่ร่วมกันห้องเสื้อโอ กูตูร์สุดหรูหราอย่าง Chanel แถมยังแอบได้ยินมาว่าการร่วมงานระหว่างครั้งนี้มีแผนจะใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่เปิดตัวคอลเลกชันอีกด้วย หลายคนทราบกันดีว่าศิลปินและโปรดิวเซอร์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Karl Lagerfeld ซึ่งเป็น Creative Director ของ Chanel มาเป็นเวลานานแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยทำงานร่วมกันแบบจริงจังมาก่อนนอกจากรองเท้า Chanel x Pharrel Williams x Hu NMD เมื่อปี 2017 เท่านั้น แต่ข่าวลือเรื่องการคอลแลปส์ของทั้งสองก็เริ่มหนาหูขึ้นอีกครั้งหลังจากที่มีรูปถ่ายของ Pharrell Williams ในงานเปิดตัวคอลเลกชัน ChanelCruise ที่กรุงเทพมหานครในวันพุธที่ 30 ตุลาคมที่ผ่าน เขาปรากฏตัวในเสื้อฮู้ดสีเหลืองสดซึ่งคาดว่าเป็นหนึ่งในงานออกแบบของเขาเอง มีการใส่รายละเอียดของความเป็น Chanel ลงไปตัวเสื้อเช่น CC logo ตรงหน้าอกซ้ายหรือ Coco N.5 ที่ถูกวางไว้ตรงกลางเสื้อ นอกจากนี้ยังปรากฏวิดีโอใน Instagram ที่ของผู้ใช้ที่ชื่อว่า dutchesscathy ซึ่งถ่ายระหว่างที่ศิลปินหนุ่มกำลังขึ้นแสดงอยู่ โดยจะเสียงตะโกนจากลุ่มคนดูในเชิงว่าต้องการเสื้อตัวที่เขาใส่ ซึ่ง
ใกล้ช่วงสิ้นปีเข้ามาทุกที หนุ่ม ๆ คนไหนยังไม่มีโปรแกรมหยุดประจำปีก็เตรียมตัวจองตั๋วหาทริปพักผ่อนกันได้แล้วแต่สำหรับคนที่มีเป้าหมายแล้วก็ควรหากระเป๋ามาแพ็ครอไว้ได้เลย โดยเฉพาะคนชอบเที่ยวแบบพัก Hostel หรือลากกระเป๋าลุยไปทุกที่แล้วละก็ OFF-WHITE™ x RIMOWA คือหนึ่งในกระเป๋าที่เราอยากแนะนำให้นักเดินทางทุกคนควรหามาครอบครองเอาไว้ OFF-WHITE™ x RIMOWA “PERSONAL BELONGINGS” ผลงานจากการ Collaboration ชิ้นล่าสุดระหว่างแบรนด์ร้อนแรงที่สุดแห่งปีอย่าง Off-White™ กับแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตกระเป๋าเดินทาง (Luggage) จากประเทศเยอรมนีที่รู้จักกันในชื่อ RIMOWA โดยครั้งนี้นับเป็นผลงานชุดที่ 3 ซึ่งมาในรูปแบบ Metal cases ผลิตจากอลูมิเนียมคุณภาพดีซึ่งถือเป็น Signature ของแบรนด์ RIMOWA เลยก็ว่าได้ แต่ถ้าถามว่าทำไมอลูมิเนียมถึงได้กลายมาเป็นวัสดุหลักของพวกเขาได้ นั้นก็เพราะหลังจากโรงงานผลิตหลักของแบรนด์ถูกสร้างขึ้นได้ประมาณ 30 ปี แต่ทว่าในปี 1930 ก็เกิดเหตุไฟไหมครั้งใหญ่ขึ้นพร้อมกับเผาทำลายวัสดุหลักอื่น ๆ ที่ใช้ในการทำกระเป๋าไปจนหมดเหลือแค่เพียงแผ่นอลูมิเนียมเท่านั้น จากนั้นมากระเป๋าที่ผลิตจาก Metal จึงกลายมาเป็นผลงานมาสเตอร์พีซของพวกเขามาถึงปัจจุบัน เมื่อชิ้นงานพิเศษถูกเลือกมาอยู่ในมือของดีไซเนอร์หนุ่มสุดไฮป์เลยเกิดการรวมตัวกันออกมาเป็นกระเป๋าเดินทางในลุคสตรีตที่ดึงดูดทุกสายตาตั้งแต่ลากขึ้นเครื่องโดย OFF-WHITE™ x RIMOWA “PERSONAL BELONGINGS” มาพร้อมด้านยาว 57 เซนติเมตร,
เหลือเวลาแค่ 2 เดือนเท่านั้นก่อนจะจบปี 2018 สำหรับปีนี้หนุ่ม ๆ หลายคนคงจะเต็มอิ่มกับรองเท้านับร้อยคู่ที่ถูกปล่อยหมุนเวียนกันออกมาเรียกเงินในกระเป๋าเราตลอดทั้ง 10 เดือน แต่สำหรับคนที่พลาดก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะเดือนพฤศจิกายนเองก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะตั้งเป้าหมายการซื้อเอาไว้ เพราะรองเท้าแต่ละคู่ที่จะปล่อยออกมาวางขายในเดือนนี้สวยจนอยากเป็นหนี้แน่นอน Adidas Yeezy BOOST 350 V2 “Zebra” RE-STOCK กลับมาอีกครั้งสำหรับ Adidas Yeezy BOOST 350 “Zebra” สีที่เคยมีราคาแตะหลักครึ่งแสนมาแล้วในไทยเมื่อตอนเปิดตัวครั้งแรกซึ่งต้องมาดูกันว่ารอบนี้จะปล่อยออกมาเพียงพอกับความต้องการของเหล่า YEEZY MANIA เมืองไทยหรือเปล่า โดยจะวางขายพร้อมกันทั่วโลกวันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายนนี้ สำหรับหนุ่มไทยสามารถหาซื้อได้ตามช็อป Adidas Brand Center , Adidas Original Store Siam Center หรือผ่านช่องทางออนไลน์ในเว็บไซต์ adidas.co.th ส่วนเงื่อนไขการซื้อคงต้องรอฟังต่อไป หรือถ้าใครอยากลุ้นมันส์ ๆ ทาง Carnival Store ก็มีการขายแบบจับฉลากด้วยเหมือนกัน ราคาป้ายของเจ้าม้าลายอยู่ที่ประมาณ 8,800 บาท ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามจำนวนที่ถูกปล่อยเข้ามาในประเทศ เพราะเริ่มมีพ่อค้าคนกลางบางร้านเปิด Pre-order กันแล้วในราคาประมาณ 11,xxx -12xxx