CARNIVAL ออกคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด “Senioritis” สำหรับซีซั่น Fall/Winter 2018 นี้ โดยคอลเลคชั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ภาพยนตร์ และ Music Video ที่เล่าเรื่องถึงความคึกคะนอง ก๋ากั่น แสบซ่า ของวัยรุ่นในโรงเรียน High School ในยุค 90-95’s ที่ปัจจุบันก็ยังคงสามารถหาเปิดดูกันได้อยู่ ทั้งเสื้อผ้าที่วัยรุ่นชายหญิงเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกแต่วตัวกันมาอวดความเท่ ความ bold ในสไตล์ที่ชัดเจนของแต่ละกลุ่มแก๊งค์หลายคาแรคเตอร์ ทั้ง เด็กเนิร์ด เด็กหลังห้อง เด็กนักกีฬาทีมโรงเรียน เชียร์ลีดเดอร์ เด็กสเก็ตบอร์ดและดาวเดือนโรงเรียน ยังรวมไปถึง ช่วง Long Holiday Weekend ที่โรงเรียนหยุด เครื่องแต่งกายที่ต้องใส่ในวาระกิจกรรม Outdoor ต่าง ๆ ของพวกเขาอีกด้วย โดยคอลเลคชั่นนี้ยังคงเลือกใช้ เทคนิค และการวางคู่สีแบบ Color block แต่มีเทคนิคตัดต่อที่ยากขึ้น รวมถึงแมททีเรียลคุณภาพสูงจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เป็นต้น เพื่อเพิ่มความพิถีพิถันให้มากขึ้นในคอลเลคชั่นนี้ สำหรับ Items
เดินทางเข้าสู่ช่วงสิ้นปี ที่ปกติผู้ชายอย่างเราต้องก็มีค่าใช้จ่ายมากมายให้จัดการอยู่แล้ว แต่เหมือนบรรดาค่ายของเท้าต่าง ๆ จะอยากสร้างทางเลือกการใช้เงินให้เรามากขึ้น ด้วยการปล่อยรองเท้ารุ่นเด็ด ๆ ออกมาส่งท้ายปีโดยเฉพาะในคอลเลกชันของ Nike x Off-White ซึ่งตอนนี้ก็ถึงเวลาสำหรับรองเท้า 3 คู่สุดท้ายเสียทีตามข่าวลือของวงในที่ได้เปิดเผยมา NIKE และ OFF-WHITE™ ประกาศร่วมงานกันมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2017 ก่อนปล่อยคอลเลกชัน “THE TEN” ออกมาทักทายโลกสตรีทแฟชั่น ด้วยตารางการดรอปของแบบลากยาวตลอดทั้งปีกับรองเท้ากว่า 10 โมเดล ไม่ว่าจะเป็น Air Jordan 1, Blazer, Presto, Air Max 97, Air Max 90, Air Force 1, Air VaporMax และ Zoom Fly ซึ่งสร้างกระแสความนิยมได้มากน้อยแตกต่างกันไปแต่ไฮป์เป็นพลุแตกทุกคู่ และตอนนี้ก็ได้เวลาในการปล่อยของเดิมออกให้หมด เพื่อเตรียมตัวสำหรับผลงานชุดก็ไปในปี 2019 ล่าสุด Instagram ในชื่อ @dropinfos ได้เปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการว่า
หากพูดถึง Herschel Supply co หลายคนอาจติดภาพของแบรนด์ผู้ผลิตกระเป๋าแบ็คแพ็คและกระเป๋าเดินทางขวัญใจวัยรุ่นไปจนถึงคนทำงาน ซึ่งกำลังเติบโตและได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก แต่ที่จริงแล้วตลอดช่วงระยะเวลา 9 ปี นับตั้งแต่ Herschel ถูกก่อตั้งขึ้นพวกเขาก็ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับแค่เรื่องกระเป๋า แต่ยังพัฒนาตัวเองและกำลังขยาย Categories สินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น พร้อมกับตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มลูกค้าอยู่เสมอ ถ้าสงสัยว่าอะไรที่เป็นพื้นฐานของการเติบโตอันรวดเร็วและแข็งแกร่งของพวกเขา วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ UNLOCKMEN ได้มาพูดคุยกับคุณ Lyndon Cormack (ลินดอน คอร์แม็ก) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Herschel Supply co. ที่ได้แบ่งปันประสบการณ์เจ๋ง ๆ แบบ Exclusive รวมไปถึงบอกเล่าแนวทางและเบื้องหลังความสำเร็จของ Herschel ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงแผนอนาคต ใครเป็นแฟนกระเป๋าแบรนด์นี้ และอยากรู้ว่าชายผู้กุมบังเหียนแบรนด์ระดับโลกคนนี้ มีขั้นตอนการทำงานและพัฒนาตัวเองยังไงบ้าง บอกเลยว่าใครอยากสร้างแบรนด์แฟชั่นให้ไปไกลระดับโลกควรอ่านให้จบ รับรองเกิดประโยชน์แน่นอน ย้อนกลับไปในวันที่ก่อตั้ง Herschel อะไรคือแรงบันดาลใจการสร้างแบรนด์ขึ้นมา ? “ในทุกธุรกิจมักเริ่มจากปัญหาอยู่เสมอ แต่ก็โชคดีที่ปัญหาของเรานั้นง่าย เรื่องของเรื่องคือเราพบว่ารูปแบบของกระเป๋าสะพายมันดูธรรมดาและน่าเบื่อจนเกินไป เลยอยากสร้างกระเป๋าที่ถูกขับเคลื่อนด้วยสไตล์และความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงใส่ใจในรายละเอียดการผลิต และนับตั้งแต่วันที่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน Herschel ก็ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นในทุก ๆ วัน” อะไรคืออุปสรรคสำคัญในเวลานั้น
กลับมาอีกครั้งในการเปิดตัวครั้งที่ 3 ของโปรเจคการร่วมมือของ โทเอ แอนิเมชั่น และภาพยนตร์แอนิเมะชื่อดังระดับโลกอย่าง Dragon Ball Z กับ adidas Originals แน่นอนว่า Dragon Ball Z ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์แอนิเมะยอดฮิตระดับตำนาน และนับเป็นไอคอนแห่งวัฒนธรรมป๊อปร่วมสมัย มาตั้งแต่ปี 1989 ความร่วมมือกันในครั้งนี้จะเป็นการดึงเรื่องราวการต่อสู้ของเหล่าฮีโร่และวายร้ายที่มีความโดดเด่น 3 คู่ มาสร้างสรรค์และออกแบบรองเท้าสนีกเกอร์ ตามลำดับเรื่องราวของดราก้อนบอล แซด และการร่วมมือในครั้งนี้ อาดิดาส ออริจินอลส์ ได้หยิบ 7 โมเดลสำคัญที่ผ่านการเลือกสรรให้ตรงกับคาแรคเตอร์ของเหล่าตัวละครทั้ง 7 มาออกแบบ เริ่มจากคู่ต่อสู้ในตำนานอย่าง ซุนโงกุน (Son Goku) และ ฟรีเซอร์ (Frieza) ที่มากับรองเท้ารุ่น ZX 500 RM และ Yung-1 ตามมาด้วยคู่ของ ซุนโกฮัง (Son Gohan) และ เซล (Cell) ที่ปรากฏออกมาในรุ่น
Nike เตรียมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการ Sneaker อีกครั้ง หลังมีข่าวออกมาว่าพวกเขาเตรียมแต่งตั้งประธานบริษัทของ AIR JORDAN คนใหม่แทนที่ Larry Miller ซึ่งจะขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งบอร์ดบริหารและที่ปรึกษาของแบรนด์แทน โดยการรับตำแหน่งจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2019 ที่กำลังจะมาถึง และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญขึ้นในตลาดรองเท้า Sneakers ได้อย่างแน่นอน Nike ร่วงหล่นลงมาอยู่อันดับ 2 ในตลาดรองเท้าผ้าใบ โดยเสียตำแหน่งให้กับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Adidas ที่มีผลงานร้อนแรงตลอดทั้งปี ส่วน Air Jordan ก็มีส่วนแบ่งตลาดอยู่เพียง 9.5% ของตลาดทั้งหมดเท่านั้น ทำให้พวกเริ่มมองหาทางออกที่สามารถทำให้การตลาดของพวกเขาแข็งแรงมากขึ้น และหวยก็มาตกที่ Craig Williams นักธุรกิจมากประสบการณ์ ที่เคยร่วมงานกับแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย มารับไม้ต่อในการรีแบรนด์ให้สัญลักษณ์ Jump Man กลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง Craig Williams มาพร้อมโปรไฟล์ยาวเป็นหางว่าว ก่อนหน้าในปี 2005 เขาเคยรับตำแหน่งรองประธานอาวุโสของ Coca Cola และตำแหน่งประธานของ McDonald’s รับผิดชอบดูแลการเติบโตของร้านมากกว่า 37,000 สาขาในกว่า 100 ประเทศ นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านพลังงานนิวเคลียร์ของ
RALPH LAUREN กลายเป็นชาวอเมริกันคนล่าสุดที่ได้รับการแต่งตั้งยศอัศวิน และเป็นดีไซเนอร์จากเมืองลุงแซมคนแรกที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์นี้ จากการสร้างมาตรฐานที่ดีเยี่ยมให้กับวงการแฟชั่นของโลกมาตลอด 50 ปี รวมไปถึงช่วยเหลือและก่อตั้งมูลนิธิเพื่อการกุศลอีกมากมายตลอดระยะเวลาที่ผลงานของเขาโลดแล่นอยู่บนรันเวย์ Ralph Lauren ปัจจุบันอายุ 79 ปี ถูกรู้จักเป็นอย่างดีในฐานะดีไซเนอร์และมหาเศรษฐีใจบุญ เจ้าของอาณาจักร Ralph Lauren Corporation ผู้มีทรัพย์สินมากถึง 7.2 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งนอกจากแง่มุมที่เราเคยเห็นเขาชีวิตแบบหรูหรา ถึงขนาดจัดงานเปิดตัวคอลเลกชันเสื้อผ้าขึ้นใน Garage ส่วนตัวซึ่งมีทั้งรถคลาสสิกและซุปเปอร์คาร์สะสมไว้กว่า 70 คัน แต่ก่อนที่เขากลายเป็นชายที่ประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ Ralph Lauren ก็เป็นคนชอบทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์เป็นอยู่เสมอ แถมเรื่องที่ทำยังช่วยเหลือคนไม่ใช่เฉพาะแค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่รวมถึงในต่างประเทศและทวีปอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ช่วงชีวิตสมัยหนุ่มก่อนหน้าที่ตัวเขาจะก่อตั้ง Ralph Lauren Corporation ขึ้นมาในปี 1967 เขาเคยใช้เวลาเป็นทหารประจำการในกองทัพนานกว่า 2 ปี ก่อนออกมาทำธุรกิจเนื่องจากรู้ตัวว่ามีความหลงใหลในแฟชั่น ซึ่งแน่นอนว่าเขาทำมันออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนเกิดเป็นแบรนด์ Luxury Clothing มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น Polo Ralph Lauren ,
ดีไซน์ของรองเท้า NIKE นั้นมักเกิดจากความพยายามในการแก้ปัญหาให้กับนักกีฬา จุดเริ่มต้นมาจากการสังเกต ความซับซ้อนของการเล่นกีฬาและการเคลื่อนไหวจากนักวิ่งคนหนึ่ง จึงทำให้ในแต่ละปีไนกี้ได้ออกแบบทางเลือกใหม่ ๆ อยู่เสมอ ISPA เป็นโปรแกมที่เกิดขึ้นจากโปรเจกต์พิเศษของไนกี้ สปอร์ตแวร์ ในครั้งนี้ได้นำหลักการการทำงานของไนกี้ ซึ่งฟังความต้องการของนักกีฬามาเป็นโจทย์แต่มีความแตกต่างจากเดิมแทนที่จะเน้นเรื่องการหาทางให้นักวิ่งสามารถทำลายสถิติได้ ทางทีมงานหันมาสนใจเรื่องการรังสรรค์รองเท้าให้เหมาะสมกับสภาพพื้นมากยิ่งขึ้น ชามีส เอเดน (Shamees Aden) ดีไซเนอร์ของ ISPA กล่าวว่า การออกแบบในครั้งนี้เป็นการสังเกต “ผู้คนที่ต้องเดินทางวันละ 3-5 ไมล์” “ถ้าเน้นฟังก์ชั่นเป็นหัวใจสำคัญ สิ่งนั้นก็จะนำไปสู่ดีไซน์” นาธาน โจบ (Nathan Jobe) การสังเกตอาจนำไปสู่การผสมผสานส่วนประกอบต่าง ๆ ของรองเท้ารุ่นเก่า จนออกมาเป็นรองเท้าน้ำหนักเบา ที่ช่วยให้ความอบอุ่นท่ามกลางอากาศที่หนาวและเปียกชื้น แม้ว่าจะฟังดูเป็นเรื่องง่าย แต่กว่าจะรังสรรค์รองเท้าเช่นนี้ได้ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องวัสดุ พื้นรองเท้า และอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นอย่างมาก ในตอนแรกทาง NIKE ตั้งใจว่ารองเท้านี้จะตอบโจทย์ปัญหาที่เราตั้งใจจะแก้ และนั่นคือหัวใจของการทำงานของเราเสมอมา ไนกี้นำสิ่งที่ดีที่สุดมารวมกัน ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างนวัตกรรมโฟมรีแอค (REACT) มาผสมผสานกับวัสดุที่สวยงาม เพื่อรังสรรค์ทางเลือกที่ผู้คนมองหา ISPA
สานต่อความร่วมมือในฐานะพันธมิตรผู้สร้างสรรค์เสื้อผ้าทางการให้กับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยคอลเลคชันแคปซูลใหม่ นำเสนอแอคเซสซอรี่ลายกราฟิกที่มิกซ์สไตล์การออกแบบของ PAUL SMITH เข้ากับเรื่องราวอันเป็นตำนานของสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลกอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้อย่างลงตัว คอลเลคชันนี้ได้นำเสนอลายพิมพ์ภาพถ่ายสองลาย ทั้งลายผ้าพันคอวินเทจของสโมสรและลาย rosettes (ริบบิ้นรางวัล) พอล สมิธ ถือเป็นดีไซเนอร์คนแรก ๆ ในการนำภาพถ่ายมาพิมพ์ลงบนเสื้อผ้าในช่วงยุค 70-80 และลายพิมพ์ภาพถ่ายที่มีการนำมาใช้ใหม่ในคอลเลคชันนี้คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่พิสูจน์ความเป็นผู้บุกเบิกของเขา ในขณะที่ก็สามารถนำมาใช้เพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ด้วยในเวลาเดียวกัน คอลเลคชันนี้เป็นคอลเลคชันที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเน้นไปที่แอคเซสซอรี่ มีให้เลือกทั้งกระเป๋าใส่โน๊ตบุ๊ค กระเป๋าใส่ของ สมุดโน้ต กระเป๋าสตางค์หนัง กระเป๋าใส่บัตร รวมถึงเคสสำหรับใส่ iPhone 8 นอกจากนี้ ในคอลเลคชันยังมีการนำเสนอลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของพอล สมิธ นั่นก็คือลายทางหลากสีสันที่มีให้เห็นทั้งบนผ้าพันคอวูล และถุงเท้า และเพื่อทำให้เสื้อผ้าทางการดูสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ในคอลเลคชันนี้ยังมีกระดุมข้อมือเสื้อเชิ้ตลายทางที่มีให้เลือก 2 แบบ และเนคไทที่มีตราประทับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งแบบสีแดงและสีดำ พอล สมิธเป็นพันธมิตรผู้สร้างสรรค์เสื้อผ้าทางการให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นความร่วมมือระหว่างกันตั้งแต่ปี 2008 เมื่อพอล สมิธได้ออกแบบชุดสูทให้กับนักเตะและทีมงานของสโมสรได้ใส่ ในช่วงเวลาที่สโมสรก้าวไปคว้าชัยชนะในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบสุดท้ายที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย นับแต่นั้น นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ได้สวมใส่เสื้อสูทที่ตัดเย็บให้แบบเฉพาะบุคคลจากพอล สมิธ มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงการเข้าร่วมการแข่งขันเอฟเอคัพในปี 2018
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมากลุ่มไอดอลเกาหลีวง BTS ได้โดนถอดรายชื่อออกจากการแสดงในรายการเพลงญี่ปุ่นอย่าง Music Station โดยสถานีโทรทัศน์ชื่อดังอาซาฮี เนื่องจากภาพของสมาชิกในวงที่ใส่เสื้อ Atomic Bomb สกรีนภาพและความคิดเห็นเกี่ยวกับการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เมืองฮิโรชิม่า ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีผู้เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดดังกล่าวนับแสนคน รวมถึงข้อความบนเสื้อที่เขียนว่า Patriotism, Our history และ Liberation Korea เรื่องการปลดแอกชาวเกาหลีใต้ ก่อให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ร้อนแรงทั้งสองประเทศ ความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้นั้นมีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และไม่นานมานี้ ศาลเกาหลีใต้ได้ตัดสินให้บริษัทอุตสาหกรรมเหล็กของญี่ปุ่นจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ชาวเกาหลีใต้เป็นจำนวนเงิน 100 ล้านวอน หรือตีเป็นเงินไทยราว 3 ล้านบาท จากการบังคับใช้แรงงานในโรงเหล็กช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งคำตัดสินดังกล่าวก่อให้เกิดข้อพิพาทที่รุนแรงทั้งชาวเกาหลีและชาวญี่ปุ่น รวมถึงนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นอย่างนายชินโสะ อาเบะ ที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลเกาหลีใต้ เนื่องจากกฎหมายระหว่างประเทศและประเด็นดังกล่าวสิ้นสุดลงไปแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 แต่ทางเกาหลีใต้ยังคงออกมาเรียกร้องค่าเสียหายอยู่ ซึ่งประเด็นเสื้อเจ้าปัญหาของวง BTS อาจเรียกได้ว่าเป็นการโดนหางเลขไปด้วยจากเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว รวมถึงจังหวะที่พอดีเมื่อ BTS ได้ขึ้นแสดงในรายการเพลงของญี่ปุ่นช่วงที่ข้อพิพาทนี้ยังคงถกเถียงกันอยู่ เห็นได้จากการที่สมาชิกของวงได้สวมเสื้อดังกล่าวนานแล้ว แต่ดันพึ่งเป็นประเด็นที่นำมาถูกพูดถึงภายหลัง ไม่ใช่เพียงแค่ญี่ปุ่นกับเกาหลีเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแฟชั่นได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองนานแล้ว อย่างเช่นในสังคมอเมริกันช่วงยุค 80s ที่โด่งดังเรื่องแฟชั่นฉีกแนวที่มีไมเคิล แจ๊คสัน
การร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลงาน คือหนึ่งในรูปแบบการทำงานยอดนิยมของวงการแฟชั่นในปัจจุบัน เพราะนอกจากการย้ายค่ายสลับขั้วเพื่อสร้างผลงานร่วมกัน จะสามารถสร้างไอเดียดี ๆ และขยายฐานลูกค้าของแบรนด์ให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว หากมีจังหวะวางขายที่ดีพวกเขาอาจทำเงินมูลค่ามหาศาลได้ในเวลาไม่นาน เพราะมักจะเป็นผลงานแบบ Limited Edition เมื่อการคอลแลปส์เพื่อผลประโยชน์ยังดำเนินต่อไปเป็นเรื่องปกติของบริษัทแสวงหาผลกำไร แต่อีกด้านหนึ่งก็ยังมีการร่วมงานกันเพื่อช่วยเหลือเหล่าเด็ก ๆ ในสังคมที่รู้จักกันในชื่อ NIKE X DOERNBECHER FREESTYLE อยู่ด้วยเช่นกัน NIKE X DOERNBECHER FREESTYLE คือการร่วมมือกันระหว่าง Nike Inc. และ Doernbecher Children Hospital ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเด็กชั้นนำไม่กี่แห่งของประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวโครงการเกิดขึ้นจากแนวคิดของ Michael Doherty ในเวลานั้นยังรั้งตำแหน่ง Creative Director ให้กับ Nike อยู่ โดยเขาได้แรงบันดาลใจมาจากคำพูดของลูกชายที่ชื่อว่าคอนเนอร์ เกี่ยวกับการหาวิธีช่วยเหลือและสนับสนุนโรงพยาบาล ซึ่งคอนเนอร์ก็เสนอไอเดียอย่างน่าสนใจว่า อยากให้ผู้ป่วยเด็กได้มีส่วนร่วมกับการออกแบบรองเท้า Nike ของตัวเอง เพื่อนำไปประมูลและนำรายได้ทั้งหมดมอบเข้ามูลนิธิ 15 ปีที่ผ่านไป DOERNBECHER FREESTYLE สามารถหาเงินช่วยเหลือให้กับโรงพยาบาลได้ถึง 20 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ป่วยเด็กซึ่งกำลังรอความช่วยเหลืออีกจำนวนมาก และล่าสุดคอลเลกชัน NIKE X
กลายเป็นปีแห่งการครอสโอเวอร์ข้ามสายร่วมงานกันระหว่างแบรนด์เสื้อผ้าทั่วโลกไปแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ Timberland ที่พึ่งร่วมงานกับ Off-White ไปหมาด ๆ เมื่อต้นปี ก่อนล่าสุดจะตัดสินใจร่วมมือกับแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาคลาสสิคอย่าง Champion เพื่องานคอลแลปส์ 2 ชุดใหม่ที่กำลังปล่อยออกมาพร้อม ๆ กัน ภาพตัวอย่างบางส่วนของ “Luxe Pack” และ “Sport Pack” 2 คอลเลกชันล่าสุด ที่เกิดจากการความร่วมมือกันของ Timberland และ Champion ถูกส่งออกมาตอกย้ำข่าวลือ หลังจากมีภาพของ 6-Inch Boot ที่มีโลโก้ของทั้งสองค่ายแปะไว้หลุดออกมา ซึ่งในคอลเลกชันนี้ดูเหมือนจะมี Items ที่น่าสนใจมากกว่ารองเท้าหลายชิ้นเลยทีเดียว TIMBERLAND X CHAMPION มีการเปิดเผยรายละเอียดคร่าว ๆ บางส่วนคือในแคปซูล “Luxe Pack” จะประกอบไปด้วยเครื่องแต่งกายที่ผสมผสานระหว่างแนวทางของทั้งสองแบรนด์เข้าด้วยกัน และถ่ายทอดออกมาผ่านทาง Sportwear ไม่ว่าจะเป็น Tees ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบแขนสั้นและยาว นอกจากนี้ยังมี Fleece-Line Hoodies และ Jogger Pants รวมกันอยู่ในคอลเลกชันด้วย แต่ในส่วนของแคปซูล “Sport Pack” จะเน้นไปทาง Premium
หลังจากที่ Kim Jones ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษได้เคยสร้างความฮือฮาให้กับโลกแฟชั่นด้วยการส่ง Louis Vuitton x Supreme ออกสู่สายตาไปเมื่อปี 2017 แต่ในปีนี้โจนส์ได้โบกมือลา Louis Vuitton เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อต้นปี และได้เปิดตัวคอลเลกชั่นเดบิวต์ในฐานะ Artistic Director คนใหม่ของ Dior บนรันเวย์ Spring/Summer 2019 ได้อย่างน่าประทับใจ คอลเลกชั่นเปิดตัวของโจนส์ในครั้งนี้ถือเป็นการผลิกโฉม Dior Homme ครั้งใหญ่ เพราะเมื่อนึกถึง Dior Homme ก็คือสไตล์เรียบหรูที่มาพร้อมกับสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ตามสุภาพบุรุษแบบดิออร์ ซึ่งโจนส์ก็ไม่รอช้าที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้แก่แบรนด์โดยเปลี่ยนคอนเซปต์จากสุภาพบุรุษขรึมมาเป็นสุภาพบุรุษที่มีลุคสบายๆ ที่ยังคงความเนี๊ยบเท่อยู่ ด้วยการหยิบโทนสีพาสเทลอย่างขาวครีม ชมพูอ่อน และฟ้า รวมไปถึงลายดอกต้อนรับซัมเมอร์มาผสมกับโทนสีเข้มแบบดั้งเดิมของดิออร์ และได้เปลี่ยนชื่อเรียกจาก Homme ให้กลายเป็น Men เพื่อสร้างความรู้สึกที่เข้าถึงง่ายขึ้นอีกด้วย แรงบันดาลใจในการเปลี่ยนสไตล์ของ Dior Homme ให้กลายเป็น Dior Men ของโจนส์นั้นได้มาจากการศึกษาไลฟ์สไตล์และการทำงานของผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง คริสเตียน ดิออร์ ที่ต้องคลุกคลีอยู่ในแวดวงแฟชั่นทั้งชายและหญิง เพื่อนำเสนอแฟชั่นที่ไม่มีการแบ่งเพศ พร้อมตอบรับกับกระแสเฟมินีนที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน นอกจากการเปลี่ยนดีไซน์เสื้อผ้าในทิศทางใหม่ที่สร้างความฮือฮาแล้ว