Life

แพ้นม ≠ ไม่ย่อยแลคโตส! ไขความต่างสองอาการที่ทำให้หลายคนพลาดสารอาหารชั้นยอดรสชาติเยี่ยมจากนมโค

By: NTman April 27, 2020

เชื่อว่าหากพวกเรามานั่งจับเข่าคุยกันเรื่องนม ชายฉกรรจ์ชาว UNLOCKMEN อย่างเรา ๆ อาจคิดไปถึงไหนต่อไหน แต่ก่อนจะหลุดประเด็นไปไกล เราต้องขอดึงสติทุกคนกลับมาอย่างบริสุทธิ์ใจว่า เรื่อง ‘นม’ ที่จะคุยกันในวันนี้คือเรื่องราวของนมที่มาจากน้ำนมโคแท้ ๆ แหล่งสารอาหารรสชาติดีที่มีครบครันทั้งโปรตีน วิตามิน อีกทั้งยังอุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส และแร่ธาตุสำคัญจำเป็นต่าง ๆ อีกมากมาย

นม เป็นเครื่องดื่มชั้นยอดที่ไม่ใช่เฉพาะแค่ผู้ชาย แต่หมายความรวมถึงผู้คนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็กยันวัยชรา ที่เลือกซดกันจริงจัง ชนิดที่ว่าบางคนแทบจะดื่มนมแทนน้ำเพื่อเติมเต็มสารอาหารให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ ที่ระบุว่าควรดื่มนมให้ได้ประมาณ 2 – 3 แก้วต่อวัน

หรือในกรณีของสตรีมีครรภ์ รวมถึงผู้ที่ออกกำลังใช้งานร่างกายหนักหน่วง ยิ่งต้องโด๊ปนมเข้าไปให้ได้วันละ 1 ลิตรเป็นอย่างต่ำ และนอกจากประโยชน์ในแง่ของการเสริมสร้างร่างกาย หลายคนคงรู้กันดีว่าน้ำนมโคยังเป็นส่วนผสมในอาหาร ขนม นม เนย รสอร่อยมากมาย ที่แค่นึกถึงก็ชวนให้ท้องร้องในทันทีทันใด

แม้จะมีคุณประโยชน์มากมาย และเป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารอร่อยล้ำหลายเมนู แต่บนโลกกลม ๆ ใบนี้ ยังมีอีกหลายคนที่ต้องพลาดการลิ้มรสอาหารมากคุณค่าอย่างน้ำนมโคไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยอาการไม่สบายตัวหลังดื่มนมที่ชวนให้รำคาญใจ บางทีก็ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องอืด อึดอัด จนทำให้จำใจต้องตัดขาดไม่ญาติดีกับน้ำนมโคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เราอยากบอกว่าอาการไม่ถูกโฉลกกับนมอย่างที่กล่าวมาข้างต้น จริง ๆ แล้วสามารถแยกย่อยได้เป็น  2 ประเภท หนึ่งคืออาการแพ้นมซึ่งเกิดจากการแพ้โปรตีนในนมโค กรณีนี้ถือเป็นอาการรุนแรงน่าเป็นห่วง ควรหลีกเลี่ยงนมโคให้ไกล

ประเภทที่สอง หลายคนต้องพบเจอกับประสบการณ์ ท้องเสีย ผายลม เรอ หลังดื่มนม สาเหตุเพราะน้ำตาลแลคโตส ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมโคได้  แต่ในกรณีนี้ถือว่าไม่ร้ายแรงมากนัก ยังพอมีทางออกให้สามารถลิ้มรสความอร่อย พร้อมประโยชน์มากมายของน้ำนมโค รวมถึงผลิตภัณฑ์และอาหารอื่น ๆ ที่มีนมโคเป็นส่วนประกอบได้อยู่

และในวันนี้เราจะมาแนะนำ Tips เล็ก ๆ สำหรับแยกแยะอาการ เพื่อให้ทราบถึงความต่างของอาการแพ้นม และอาการไม่ย่อยแลคโตส เผื่อใครที่ขยาดในการดื่มนมจะได้ลองไปสำรวจตัวเอง และบอกต่อเพื่อนฝูง คนข้างกาย ให้รู้ดำรู้แดงกันไปว่าชีวิตนี้ฉันยังมีโอกาสได้ดื่มนมโคแสนอร่อยอยู่อีกหรือไม่!!

 

แพ้นม ≠ ไม่ย่อยแลคโตส

อาการแพ้นมโค (Cow’s milk allergy): เริ่มต้นกับอาการแรก ที่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าค่อนข้างซีเรียส เพราะนมโคจัดว่าเป็นอาหารลำดับ 3 รองจากถั่วลิสงและถั่วเปลือกแข็งชนิดต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ถึงขั้นอันตรายต่อชีวิตได้ เพราะอาการแพ้นมเกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีต่อโปรตีนเคซีน และเวย์ในนมโค

หากมาเจอเข้ากับผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ คิดว่าโปรตีนจากนมเป็นสารอันตรายต่อร่างกาย จะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างสารแอนติบอดี้ชนิด  Immunoglobulin E (IgE) เพื่อป้องกันร่างกาย และอาจแพ้รุนแรงจนถึงขั้นทำให้ทางเดินหายใจแคบลง หรือคอบวมหายใจลำบาก ผิวหนังบวมแดง มีอาการคัน รวมถึงเกิดภาวะช็อกความดันโลหิตต่ำจนอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นหลังจากดื่มนม หรือรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมจากนมโค แล้วพบเจออาการดังต่อไปนี้

  • ผื่นคันตามร่างกาย
  • ผิวหนังบวมแดง (พบบ่อยบริเวณรอบปาก)
  • น้ำมูก น้ำตาไหล คัดจมูก หายใจติดขัด (มีเสียงวี้ดขณะหายใจเนื่องจากทางเดินหายใจบวมตีบ)
  • ท้องเสีย ถ่ายเหลวมีเลือดปน

ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าแพ้นมโคแน่ ๆ แม้ว่าอาการจะไม่ร้ายแรง แต่เราแนะนำให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทดสอบอาการแพ้ให้แน่ใจ ส่วนใหญ่จะทดสอบโดยการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Test) และ การตรวจเลือดเพื่อหาจำนวน Immunoglobulin E (IgE) ในเลือด

ซึ่งถ้าผลยืนยันออกมาว่ามีอาการแพ้นมโค เราต้องขอแสดงความเสียใจเพราะคุณต้องบอกลาน้ำนมโค รวมถึงอาหารทั้งหลายแหล่ที่มีนมโคเป็นส่วนประกอบ แล้วหันมาเลือกรับวิตามิน โปรตีน แคลเซียม จากนมพืชหรืออาหารชนิดอื่น ๆ ทดแทน

อาการไม่ย่อยน้ำตาลแลคโตส (Lactose intolerance): สำหรับอาการที่สอง อันนี้ไม่อันตรายถึงชีวิต แต่จะออกแนวสร้างความหงุดหงิดรำคาญให้กับการใช้ชีวิตประจำวันมากกว่า เพราะว่าอาการไม่ย่อยน้ำตาลแลคโตสนั้นเป็นอาการที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินอาหาร หลังจากดื่มนมไปสักครึ่ง – 2 ชั่วโมง ซึ่งทุกคนสามารถสำรวจอาการเบื้องต้นได้ ดังนี้

  • แน่นท้อง ท้องอืด
  • ปวดท้อง
  • เรอ/ผายลมบ่อย
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ท้องเสีย ถ่ายเหลว

ซึ่งอาการเหล่านี้มีสาเหตุเพราะลำไส้ไม่สามารถผลิตเอนไซม์แลคเตสสำหรับ ย่อยแลคโตสซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ที่อยู่ในน้ำนมโคได้มากเพียงพอ ทำให้น้ำตาลแลคโตสที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการย่อยและดูดซึมในลำไส้เล็กต้องถูกส่งต่อไปย่อยโดยขบวนการหมักที่ลำไส้ใหญ่ จนเกิดเป็นก๊าซมากมายในลำไส้ ส่งผลให้มีอาการท้องอืด ปวดท้อง เรอ ผายลมบ่อย คลื่นไส้อาเจียน เท่านั้นยังไม่พอ เพราะแลคโตสที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ จะดูดน้ำกลับเข้ามาสู่ลำไส้ ทำให้ท้องเสียหรือถ่ายเหลวได้อีกด้วย

แม้อาการไม่ย่อยน้ำตาลแลคโตสนั้นจะไม่รุนแรงถึงแก่ชีวิต แต่มันเป็นอาการที่พบได้ในผู้ใหญ่มากถึง 65-70% ของประชากรทั่วโลก ที่สำคัญมันยังพบมากสุดในประเทศแถบทวีปเอเชียเนื่องจากพื้นฐานด้านพันธุกรรม ที่เกิดจากวัฒนธรรมการกินของบรรพบุรุษชาวเอเชียที่ไม่ได้คุ้นชินกับการรับประทานอาหารจากนมเนยเหมือนคนยุคนี้

แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีข่าวดีสำหรับผู้ที่ไม่ย่อยน้ำตาลแลคโตส กับวิทยาการก้าวล้ำในปัจจุบัน ทำให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์จาก Meiji แบรนด์ที่ยืนหนึ่งเรื่องน้ำนมโคนั้นรุดหน้าไปอีกขั้น จนได้มาเป็น Meiji Lactose Free ซึ่งตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัยที่ชอบดื่มนม แต่ท้องไส้ไม่เอื้ออำนวย ให้สามารถดื่มนมและอาหารอื่น ๆ จากนมโคอย่างเอร็ดอร่อย ได้ประโยชน์ สบายท้อง ไม่ต้องกังวลเรื่องอาการข้างเคียงที่น่ารำคาญใจทั้งหลายอีกต่อไป

 

MEIJI LACTOSE FREE

เรียกได้ว่า Meiji Lactose Free คือทางออกที่ดีของผู้ไม่ย่อยน้ำตาลแลคโตสทั้งหลาย ที่เกิดมาเพื่อทลายข้อจำกัดการลิ้มรสนมโคสุดอร่อยให้เป็นจริงได้ ด้วยขั้นตอนการผลิตที่ผ่านกระบวนการเติมเอนไซม์เพื่อย่อยน้ำตาลแลคโตสมาแล้วเสร็จสรรพ ไม่ต้องลำบากรอฝากความหวังไว้กับเอนไซม์แลคเตสในร่างกาย จึงเหมาะมากสำหรับคนที่มีอาการท้องอืด แน่นท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียนเนื่องจากการไม่ย่อยน้ำตาลแลคโตส 

และไม่ใช่เพียงแค่ช่วยตัดปัญหาอาการย่อยแลคโตสไม่ได้เป็นปลิดทิ้ง แต่ Meiji Lactose Free ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณของนมโคแท้ที่เข้มข้น หอม มัน สดใหม่เหมือนยืนดื่มอยู่หน้าฟาร์มด้วยกระบวนการฆ่าเชื้อแบบพาสเจอร์ไรส์ ที่สะอาด ทันสมัย มั่นใจได้

พร้อมรสหวานธรรมชาติ ที่มาจากกลูโคส และ กาแลคโตส น้ำตาลเชิงเดี่ยวซึ่งเป็นผลผลิตที่เกิดจากการย่อยแลคโตส ที่ช่วยอัปเกรดความอร่อยกลมกล่อมแบบไม่ต้องเติมน้ำตาล ถือเป็นเอกลักษณ์ของนมชนิดนี้ ที่คนไม่ย่อยน้ำตาลแลคโตสก็ดื่มได้ ใครที่คุ้นเคยกับการดื่มนมเวอร์ชันปกติ หากได้มาลอง Meiji Lactose Free รับรองว่าจะติดใจ

นอกเหนือจากเรื่องของรสชาติ ทางด้านสารอาหารอย่างแคลเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน วิตามินบี2 และบี12 ก็ยังอยู่ครบถ้วน จะยกขวดกินเปล่า ๆ ก็อร่อย หรือจะนำไปเสริมเติมแต่งกับกาแฟดำแก้วโปรดให้กลายเป็นลาเต้รสนุ่มละมุน หรือเติมลงไปในชาหอม ๆ ชงดื่มเองที่บ้านก็เข้าท่า อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในขนม รวมถึงอาหารจานเด็ดชนิดอื่น ๆ แทนนมโคแบบธรรมดาได้อย่างเอร็ดอร่อยไม่เสียรสชาติ กินได้อย่างสบายใจ ไม่มีอาการไม่สบายท้องมารบกวนแน่นอน

ส่วนในวันเร่งด่วนที่ไม่มีเวลามากมายให้พิถีพิถันกับมื้ออาหาร แต่ต้องการเน้นความอิ่มอร่อยสบายท้อง ได้ประโยชน์จากนมโคแท้รสอร่อยแบบด่วน ๆ เราแนะนำให้จัด Meiji Lactose Free แบบพร้อมดื่ม ที่มีให้เลือกหลากรส ทั้งรสจืดที่มาพร้อมความอร่อยกลมกล่อมแบบธรรมชาติ และรสดาร์กช็อกโกแลตเข้มสะใจ พร้อมให้ทุกคนพุ่งตัวไปหาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านได้แล้ววันนี้

บอกเลยได้ลองแล้วจะรู้ว่าการดื่มด่ำรสชาตินมโคแท้ ๆ โดยไม่ต้องกังวลอาการไม่ย่อยน้ำตาลแลคโตสอีกต่อไปนั้นมันฟินขนาดไหน 

 

APPENDIX: 1/ 2/ 3/ 4/

NTman
WRITER: NTman
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line