Life

MOTIVATHLETE: จิตวิญญาณของนักสู้และเบื้องหลังการกลับมาของ CONOR MCGREGOR

By: SPLESS January 27, 2020

“สำหรับผมมันไม่เกี่ยวกับเงิน ผมอยู่ในจุดที่สามารถทำเงินได้ตลอดชีวิต และเงินมากแค่ไหนก็หยุดความกระหายครั้งนี้ไม่ได้ ความต้องการที่จะแข่งขัน ความสนุกและการใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ รวมถึงสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในชีวิต”

คือคำพูดที่ คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ (Conor McGregor) พูดถึงเหตุผลในการกลับมาฟาดปากในกรงแปดเหลี่ยมอีกครั้ง หลังห่างหายไปตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2018 การกลับมาคราวนี้แสดงให้เห็นว่าเขาหิวกระหายการต่อสู้ในศึก UFC 246 เมื่อวันนี้ 19 มกราคมคมที่ผ่านมา และเกรียนไอริชก็ไม่ได้มีดีแค่ฝีปากเท่านั้น เขาใช้เวลาเพียง 40 วินาทีเอาชนะ Donald ‘Cowboy’ Cerrone ชายผู้ครองสถิติชกชนะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ UFC ได้ในยกแรก

NYT

แม้การต่อสู้ครั้งนี้ถูกขาใหญ่คาดการณ์ไว้แล้วว่า The Nototrious น่าจะเอาชนะ CowBoy ได้ แต่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นเวลา 40 วินาทีของยกแรกแบบนี้ พร้อมท่าทางที่สุขุมมากขึ้น กวนตีนคู่แข่งน้อยลง แถมขนาดของกล้ามเนื้อยังอยู่ในสภาพเยี่ยม แต่อะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จของในการกลับมาครั้งนี้กันแน่?

Mark J. Rebilas-USA TODAY Sports

ย้อนกลับไปในปี 2019 หลังจากคอเนอร์ แม็คเกรเกอร์และทีมงานรู้กำหนดการแข่งขัน แม้จะยังไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้คือใคร แต่เวลานั้นแคมป์เก็บตัวของ The Notorious ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง โดยเหลือเวลาไม่ถึง 5 เดือนและมีเรื่องที่ต้องทำสารพัด ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมฝึกซ้อมรวมถึงการรักษาน้ำหนักร่างกาย

อย่างที่ทราบกันดีว่าตั้งแต่คอเนอร์เข้ามาแข่งใน UFC ตัวเขาเป็นนักสู้ที่ต้องปรับน้ำหนักตัวบ่อยมาก ตั้งแต่น้ำหนักตัว 145 ปอนด์ สมัยชกในรุ่น Feather Weight  สู่น้ำหนัก 155 ปอนด์ ตอนชกกับ Eddie Alvarez และน้ำหนัก 168 ปอนด์ ตอนฟาดปากกับ Net Diaz สุดท้ายคือน้ำหนักตอนต่อยมวยสากลกับฟลอยด์ด้วยน้ำหนัก 153 ปอนด์

The Sun

การเพิ่มน้ำหนักขึ้นมาที่ 170 ปอนด์เพื่อกับสู้กับ Donald ‘Cowboy’ Cerrone จึงเป็นเรื่องท้าทายมาก โชคดีที่คอเนอร์มีนักโภชนาการหารฝีมือเยี่ยมอย่าง Georges Lockhart มาจัดการเรื่องการกินให้ โดยอาหารที่กินเน้นรักษาคุณค่าอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่น้ำหนักต้องไม่ลดลง  เช่นมื้อเช้าด้วยจับคู่ไข่เจียวกับอเมริกาโน่ร้อน รวมถึงอาหารว่างเป็นเนื้อไก่ กับเนยอัลมอนด์

มื้ออาหารอื่น ๆ จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนระหว่างเนื้อสัตว์คุณภาพอย่างไก่หรือปลา เครื่องดื่มเป็นน้ำมะพร้าวที่ให้พลังงานสูงหรือน้ำเปล่าเท่านั้น โดยคอเนอร์อนุญาตให้ตัวเองมี Cheat Day บ้างเพื่อผ่อนคลายร่างกายจากการฝึกซ้อมหนักซึ่งเกรียนไอริชเคยเอ่ยปากว่าสัปดาห์ทำน้ำหนักคือช่วงเวลาที่โหดที่สุด ต่อด้วยโปรแกรมซ้อมโดย The Nototrious ที่มีโปรแกรมซ้อม 2 ครั้งต่อหนึ่งวัน คือกลางวันตอน 11.00 น. และซ้อมค่ำตอน 19.00 น.

หลังจากน้ำหนักร่างกายเริ่มคงที่ก็มาถึงโปรแกรมซ้อมมาตรฐาน โดยการซ้อมในช่วงนี้จะเน้นรักษาความฟิตและสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายซึ่งมี Dr. Julian Dalby และ Colin Byrne 2 นักกายภาพในทีมเป็นคนดูแล ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมบอดี้เวท สลับกับการกระโดดเชือก ชกกระสอบทรายและปั่นจักรยาน

ส่วนวันที่ต้องการเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนจะมีโปรแกรมเวทมาแทรกบ้างตามความเหมาะสม เป็นที่มาของกล้ามเนื้อแกนกลางตัวที่หนาขึ้น และขนาดของหัวไหล่ที่กลายมาเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญในการต่อสู้ครั้งล่าสุด แต่นักสู้ศิลปะป้องกันตัวที่เก่งไม่อาจชนะได้ด้วยร่างกายที่แข็งแรงเพียงอย่างเดียว โปรแกรมฝึกต่อสู้ในช่วงเย็นจึงยิ่งเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น

mogaz news en

โปรแกรมฝึกในช่วงเย็นของคอเนอร์จะเริ่มต้นตอน 19.00 น. เป็นช่วงซ้อมที่เน้นฝึกฝนเทคนิคการต่อสู้แขนงต่าง ๆ  รวมกับทีมที่มีทั้งโค้ชคู่บารมี John Kavanagh มาดูแลการซ้อมโดยร่วมสนับสนุนโดยโค้ช Owen Roddy ตำนานนักสู้ MMA ผู้เชี่ยวชาญบราซิลเลียนยิวยิตสูจากไอซ์แลนด์อดีตคู่ต่อสู้คนแรกในวงการของคอเนอร์มาร่วมซ้อมด้วย

Business Insider

นอกจากนี้ยังมีโค้ชมวยปล้ำที่ชื่อ Sergey Pikulskiy ผู้เคยเป็นนักกีฬาและผู้ฝึกสอนให้กับประเทศมอลโดวาดินแดนที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้  โค้ชมวยสากลอย่าง Phil Sutcliffe Snr และ Bra Brady มาเพิ่มทีเด็ดเรื่องการออกหมัด เรียกว่ามีมือดีด้านศิลปะการต่อสู้มาช่วยฝึกฝนให้มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น แถมส่วนใหญ่เป็นคนรู้ใจที่ทำงานร่วมกันตั้งแต่เข้า UFC ยุคแรก

EssentiallySports

แต่ที่ต้องยกเครดิตให้อีกคือกลุ่มคนที่คอยลับคมการต่อสู้ให้กับคอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ในทุกวัน ได้แก่คู่ซ้อมชกทั้ง Dillon Danis, Artem Lobov และ Peter Queally ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนซ้อมลงน่วมกับเกรียนไอริชตลอดระยะเวลาของการฝึก ที่สำคัญคือทุกคนต่างรู้หน้าที่ของตัวเองดีว่าตัวเองรับผิดชอบหน้าที่อะไรในแคมป์นี้ รวมถึงตัวคอเนอร์ที่ไม่เคยโอดโอยในการซ้อมเลยแม้แต่ครั้งเดียว

การซ้อมในทุก ๆ เป็นไปอย่างเข้มข้น แต่คอเนอร์มีวิธีลดความตึงเครียดระหว่างซ้อม โดยเขามีดีเจส่วนตัวชื่อ Bissett อาศัยอยู่ในเมืองดับบลิน ทำหน้าที่โปรดิวเซอร์เพลงและเสียงสำหรับประกอบการฝึกซ้อม เรียกว่าแคมป์เตรียมตัวสำหรับ UFC 246 ที่ผ่านมายิมของพวกเขาเต็มไปด้วยเสียงเพลงที่ทำให้การซ้อมผ่อนคลายมากขึ้น

ด้านการดูแลรักษาร่างกาย ทุกวันหลังฝึกซ้อมเสร็จคอเนอร์จะมีนัดกับ Vasile Bria นักกายภาพบำบัดที่ทำงานกับ The Nototrious มาตั้งแต่สมัยคว้าแชมป์รุ่น Featherweight คุณหมอมีชื่อเล่นว่า Dr. Pain เป็นชื่อเล่นที่เรียกเพราะการนวดและยืดกล้ามเนื้อหลายครั้งมาพร้อมความเจ็บปวด แต่ก็เพื่อให้ร่างกายของเขากลับมาพร้อมสำหรับการฝึกหนักครั้งต่อไปจะพลาดขั้นตอนนี้ไปไม่ได้

ทั้งหมดคือเบื้องหลังความสำเร็จในการกลับมาต่อสู้บนสังเวียน 8 เหลี่ยมอีกครั้งของคอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากความหลงใหลในการต่อสู้ของตัวเขาเองและกลุ่มคนรอบข้างที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือสร้างนักสู้ให้กลับมาเป็นที่ 1 บนสังเวียนอีกครั้ง แม้นักสู้ของพวกเขาจะเคยโดนฟาดปากหรือ Tap-Out บนสังเวียนมาแล้ว เพราะคนแพ้ที่แท้จริงในสายตาของพวกเขาคือ คนที่ไม่คิดจะต่อสู้หรือลงมือทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันต่างหาก

สำหรับหนุ่มที่เป็นแฟนหมัดของคอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ ต้องรอดูกันต่อไปว่าการต่อสู้ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นกับใคร และชัยเทพีแห่งชัยชนะจะยังคงเข้าข้างฝีมือของเขาและทีมหรือไม่ ในปีนี้มีอีกอย่างน้อย 1-2 ทัวร์นาเมนต์แน่นอนติดตามกันให้ดี

 

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line