Life

DAVID CASAREZ โฮมเลสที่คนออนไลน์รักและบริษัทในซิลิคอนวัลเลย์กว่า 200 บริษัทแย่งตัวสัมภาษณ์

By: anonymK July 31, 2018

เชื่อว่าขณะที่คุณกำลังเปิดอ่านบทความนี้ ส่วนใหญ่คงกำลังอยู่ในที่พักอันอบอุ่น มีงานให้ทำ มีเงินเดือนให้ใช้ แต่รู้หรือไม่ว่านอกรั้วบ้านของเราทุกวันนี้มีคนไร้บ้าน – ไร้ที่พึ่งหรือบุคคลที่เราเรียกว่าโฮมเลสเฉพาะในประเทศไทยนั้นมีมากถึง 70,539 คน (ผลสำรวจปี 2560) 

เมื่อโฮมเลสส่วนใหญ่คือคนที่เราเดินผ่านไปผ่านมาโดยไม่ค่อยสนใจพวกเขามากนัก แล้วอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ David Casarez ชายโฮมเลสที่ยืนริมถนนพร้อมป้ายกระดาษหนึ่งใบในแคลิฟอร์เนียได้รับความสนใจจากคนในสังคมออนไลน์

จนมีคนลุกมาถ่ายภาพ โพสต์ และรีทวีตข้อความถึงบริษัทในซิลิคอนวัลเลย์ให้ช่วยรับชายคนนี้เข้าทำงาน และผลของพลังโซเชียลครั้งนี้ก็ทำให้เขาดังเป็นพลุแตกชนิดที่บริษัทกว่า 200 แห่งในซิลิคอลวัลเลย์แห่กันเรียกให้เข้าสัมภาษณ์งานเลยทีเดียว

อะไรคือสิ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยนสถานะจากโฮมเลสหางานเป็นคนที่งานวิ่งเข้าหา ได้รับโอกาสต่างจากโฮมเลสคนอื่น เขาสมควรได้รับโอกาสนี้หรือเปล่า หรือเป็นแค่ความสงสารไร้เหตุผลของคนโซเชียล เราล้วงที่มาและเรื่องราวของเขามาบอกแล้วในนี้

 “Homeless, hungry 4 success, take a resume”

คุณเคยอ่านป้ายกระดาษที่อยู่ในมือโฮมเลสทั้งหลายบนสะพานลอยบ้านเราไหม เราเชื่อว่าคงต้องมีสักแว้บที่สายตาพลันเหลือบไปอ่าน แต่นี่ผู้ชายร่างใหญ่ ยืนถือป้ายกลางสี่แยกท่ามกลางแดดร้อน ด้วยข้อความโต ว่า  “Homeless, hungry 4 success, take a resume” หรือผมคือโฮมเลสที่โหยความสำเร็จ รับ Resume ผมไปทีครับทำไมเราจะไม่หยุดดูล่ะ

งานนี้ถือเป็นการขายตรงเรซูเม่ที่ฮุคเข้าตากรรมการได้โคตรทรงพลัง บวกกับเสื้อผ้าหน้าผมของเขาที่ดูสะอาดสะอ้านยังฉีกภาพจำของคำว่าโฮมเลสไปเสียเกลี้ยง ทำให้ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเขาถึงสอบผ่านโกยคะแนนความเห็นใจในสายตาของคนที่ผ่านไปผ่านมาทันที ก็ในเมื่อไม่ได้ขอข้าว ไม่ได้ขอเงิน งอมืองอเท้า และไม่น่ากลัว ทำไมเราจะไม่อยากรู้เหตุผลที่เขาต้องมาทำแบบนี้จริงไหม?

ตามฝันจนเป็นโฮมเลส

แน่นอนว่าประสบการณ์เองก็สำคัญ คนในซิลิคอนวัลเลย์ไม่ใช่คนไม่รู้ประสีประสาจ้างคนด้วยความสงสารอย่างแน่นอน หลังดูในใบ Resume จริง ก็พบว่าเขามีคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดา การศึกษาก็เรียนจบจากมหาวิทยาลัย Texas A&M หลังเรียนจบเคยทำงานในบริษัท General Motors เรียกว่าเป็นประวัติสวย ไม่ได้ขี้เหร่อะไรสักกะนิด

แต่เหตุผลที่ทำให้เขาต้องมาเป็นโฮมเลสเพราะการไล่ตามความฝันสู่การเป็นสตาร์ตอัพสาย Tech ทำให้เขาย้ายจาก Bay Area ใน Laredo เข้ามาในที่แห่งนี้ แต่ว่าโชคร้ายเมื่อฝันนี้ดันทำให้เขาถังแตกไปเสียก่อน ซ้ำร้ายยังเสียรถไปด้วย จนต้องระหกระเหินมาเร่ร่อนนอนใน Mountain View park

ทว่าความหวังที่ริบหรี่ก็ไม่ได้ทำให้เขาถอดใจ เขาเลยใช้เฮือกสุดท้ายนี้สละความอายไปยืนถือป้ายหน้าสี่แยก คิดทุกวิถีทางที่ทำให้นายจ้างมาเห็นเขาให้ได้ จนทำให้ประสบความสำเร็จในที่สุด ตอนนี้เขาเลิกถือป้ายแล้วไปนั่งอ่านอีเมลจากบริษัทที่ส่งมาเรียกตัวแทน

จากคนเคยเป็นตัวเลือกตอนนี้กลายเป็นผู้เลือกแทน

อย่างไรก็ตาม แม้บางกระแสจะโต้กลับว่าเขามีคุณสมบัติและโอกาสดีกว่าโฮมเลสคนอื่นเยอะแยะ แต่เลือกใช้ชีวิตแบบรนหาเรื่องให้ตัวเองเอง ไม่เห็นจะน่าสงสารตรงไหน

แต่เราก็มองว่าโอกาสที่เขาได้มันมาจากแรงขับเคลื่อนในตัวเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมด้วย ในฐานะคนที่ก้าวข้าม comfort zone มาทำตามความฝัน ล้มแล้วก็ยังพยายามลุกขึ้นใหม่โดยไม่งอมืองอเท้ารอให้โชคชะตาวิ่งเข้าหา

ตัวอย่างความมุทะลุในครั้งนี้ UNLOCKMEN คงไม่ขอแนะนำว่าเป็นสิ่งที่เราควรเอาอย่างทั้ง 100% เพราะคงไม่มีอะไรการันตีได้ว่าเราจะโชคดีอย่าง David ดังนั้น เรื่องราวที่ไม่เหมาะก็เก็บไว้เป็นบทเรียนที่ไม่ต้องทำตาม ส่วนอะไรที่ดีก็ให้เลือกเก็บไว้ใช้งาน ซึ่งงานนี้ผู้เขียนมองว่าเราควรเลือกวางแผนสำรองการตามฝันได้โดยไม่ต้องรอให้ถึงขั้นเป็นโฮมเลสที่ต้องสตาร์ตจากศูนย์แล้วเก็บเอาความไม่ย่อท้อมุ่งตามเป้าหมายมาไว้เป็นพลังและแรงบันดาลใจน่าจะดีกว่า

 

SOURCE: 1 / 2 / 3 

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line