คนรักกีตาร์ร้องจ๊าก! เมื่อ GIBSON บดขยี้กีตาร์รุ่น FIREBIRD X ทิ้งมากกว่า 100 ตัว

เป็นที่ฮือฮาในหมู่คนรักกีตาร์ทั่วโลก เพราะเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมนั้น มีคลิปสุดสะเทือนใจสำหรับนักสะสมกีตาร์ถูกปล่อยออกมาจากพนักงานเก่าของบริษัท Gibson แบรนด์กีตาร์ยักษ์ใหญ่ของโลก โดยในวิดีโอเป็นภาพกีตาร์ Gibson รุ่น Firebird X ถูกวางเรียงรายที่พื้นราว 200-400 กว่าตัว ก่อนจะถูกรถแบคโฮขับมาบดทับอย่างไร้ความปรานี บางตัวถึงกับหักเป็นสองท่อนหลุดติดล้อมาเลยทีเดียว ใครใจแข็งพอก็สามารถรับชมคลิปจริงที่เราแนบไว้ด้านล่างนี้ได้ แต่ถ้าไม่… UNLOCKMEN เตือนคุณแล้วนะ!!!

ชายเจ้าของคลิปนี้มีชื่อว่า BJ Wilkes เขาเคยทำงานที่ Gibson มายาวนานถึง 6 ปี หลังจากปล่อยวิดีโอตัวนี้ก็มีผู้คนแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในหมู่นักสะสมกีตาร์ หลายคนสงสัยว่า Gibson ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร? เพราะทางบริษัทก็มีนโยบายบริจาคกีตาร์อยู่เป็นทุนเดิม จนในที่สุด Youtuber สายรีวิวกีตาร์ชื่อดังช่อง The Guitologist ก็ได้ออกมาไขข้อสงสัยด้วยการโทรไปขอสัมภาษณ์ที่มาที่ไปของเหตุการณ์นี้ ซึ่ง BJ Wikes เผยว่าเขาไม่ได้คิดอะไรมากตอนโพสต์ เพียงแต่ถ่ายวิดีโอเก็บไว้เยอะมากสมัยทำงาน Gibson เขาจึงทยอยปล่อยวิดีโอเหล่านั้นออกมาเพื่อให้ผู้คนได้เห็นการทำงานของเขาก็เพียงเท่านั้น

คลิปสัมภาษณ์ BJ Wikes จากช่อง The Guitologist 

The Guitologist ถาม BJ Wikes ว่าทำไมรุ่น Firebird X ถึงต้องถูกทำลายด้วยวิธีนี้ เหตุใดไม่นำไปบริจาคเหมือนรุ่นอื่น? เขาก็ได้ให้คำตอบว่า มันเป็นกีตาร์ที่ห่วยแตก เสียงก็ไม่ดี ใช้เทคโนโลยีมากไป แถมยังนำระบบมาจาก Windows 98 เป็นรุ่นที่ขายไม่ค่อยดี ค้างสต็อกมาแต่ไหนแต่ไร แถมยังเป็นรุ่นที่ต้องใส่ถ่านจึงจะเปิดเครื่องใช้งานได้ จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยม อีกทั้งเขายังเสริมอีกว่าในมุมมองคนนอกอาจจะรู้สึกว่านี่เป็นของสะสม ไม่ควรจะทำลายทิ้ง แต่ในมุมมองของเขาสิ่งที่นำออกไปขายให้ลูกค้าก็ควรจะมีความสมบูรณ์แบบ 100% เช่นกัน

credit: http://legacy.gibson.com/

หากคุณตามข่าววงการกีตาร์ อาจจะพอทราบมาบ้างว่าก่อนหน้านี้สถานการณ์ของแบรนด์ Gibson ไม่ค่อยจะสู้ดี ทางบริษัทได้ยื่นขอล้มละลายต่อศาลในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากปัญหาทางการเงินและหนี้สินที่รุมเร้ากว่า 16,000 ล้านบาทในปี 2018 ซึ่งทาง Gibson หาทางออกด้วยการยื่นข้อเสนอต่อเจ้าหนี้ ‘เปลี่ยนหนี้สินให้เป็นทรัพย์สิน’ ต่อมาจึงถูกบริษัท Kohlberg Kravis and Roberts and Co. (KKR) และ Melody Capital เข้าครอบครองกิจการอย่างเป็นทางการ ส่วน CEO คนเก่าอย่าง Henry Juszkiewicz ก็ถูกลดตำแหน่งลงเป็นเพียงที่ปรึกษาเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองหลายคนจึงสงสัยว่า เหตุการณ์ทำลายกีตาร์ในวิดีโอคือก่อนหรือหลังยุคของ Henry Juszkiewicz กันแน่? โดยทาง BJ Wikes ให้คำตอบสิ่งนี้ว่าเกิดขึ้นหลังจาก Henry Juszkiewicz ได้ถอนตัวออกจากตำแหน่ง CEO ไปแล้ว อีกทั้งทาง Gibson ต้องย้ายโรงงานการผลิต ทีมงานจึงเข้าไปเคลียร์สิ่งที่คั่งค้างอยู่ให้เรียบร้อยก่อนจะถึงสิ้นปีเพียงเท่านั้นเอง

credit: https://msretailer.com

และเพื่อไม่ให้ทุกฝ่ายคาใจ The Guitologist ยังทำการส่งจดหมายไปสอบถามกับทาง Gibson โดยตรงถึงสาเหตุที่ตัดสินใจทำเช่นนี้ ทางประชาสัมพันธ์ของ Gibson ก็ได้ส่งจดหมายชี้แจงกลับมาว่า ‘กีตาร์รุ่น Firebird X นั้น ถูกผลิตออกมาขายตั้งแต่ปี 2009 – 2011 กีตาร์ตัวนี้มีคุณสมบัติที่ไม่สามารถกอบกู้ได้ อีกทั้งยังมีส่วนเสียหายที่อาจเป็นอันตราย ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำไปบริจาค’ แต่ภาพที่เห็นในวิดีโอกลับดูเหมือนเป็นกีตาร์ใหม่แกะกล่อง มากกว่าจะเป็นชิ้นที่เสียหาย ทำให้หลายคนวิเคราะห์ไปต่าง ๆ นานา บ้างก็ว่าเป็นเพราะกีตาร์รุ่นนี้ต้องใช้แบตเตอรี่ ระบบวงจรของมันอาจได้รับความเสียหายจริง ๆ จากเหตุการณ์น้ำท่วมโรงงาน Gibson เมื่อปี 2010 บ้างก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่าเป็นเพราะปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวแทนจำหน่าย แต่เกิดขึ้นกับตัวผู้ผลิตโดยตรง การนำมาลดราคาจะทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์ดูไม่ดี สร้างความไม่พอใจกับผู้ที่ซื้อไปแล้ว และทำให้เกิดกลุ่มลูกค้าที่รอซื้อเฉพาะตอนลดราคาเท่านั้น  ซึ่งก็สุดแล้วแต่วิจารณญานของท่านว่าจะเชื่อสิ่งใด

แต่ถึงกระนั้น Firebird X ก็ไม่เป็นที่รักของนักดนตรีมาแต่ไหนแต่ไร ถึงขั้นว่าเคยถูกเรียกว่า “Gibson ที่ถูกเกลียดมากที่สุดตลอดกาล” เลยทีเดียว คุณสามารถรับชมรีวิวและฟังเสียง Demo กีตาร์รุ่นนี้ได้จากคลิปวิดีโอทางด้านล่าง แล้วมาดูกันว่ามันแย่อย่างที่เขาพูดจริงหรือไม่…

ถึงการทำลายกีตาร์จะเป็นวัฒนธรรมที่อยู่คู่วงการดนตรีมาอย่างช้านาน แต่พอเป็นบริษัทผลิตกีตาร์ทำเองก็กลับทำให้เราใจหายอย่างน่าประหลาด การที่เหล่านักสะสมกีตาร์ทุกคนลงความเห็นตรงกันว่าควรจะนำไปบริจาคมากกว่าทำลายทิ้ง ก็นับว่าเป็นเรื่องดี ๆ ที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน แต่หากกีตาร์ตัวนี้มีชิ้นส่วนที่เป็นอันตรายอย่างที่ Gibson กล่าวอ้างก็นับว่าทำถูกแล้วที่ทางผู้ผลิตไม่นำไปส่งต่อให้ใคร

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่สะสมกีตาร์ ลองหาโอกาสส่งต่อกีตาร์ที่ไม่ใช้แล้วให้กับผู้อื่นดูสักครั้ง ไม่แน่ว่ากีตาร์ตัวนั้นของคุณ อาจจะให้กำเนิดศิลปินที่ยิ่งใหญ่สักคนในอนาคตก็ได้ ใครจะรู้?

Source: 1 / 2 / 3