Entertainment

Doc of the Month: Jimmy Savile: A British Horror Story ซาตานชั่วร้าย ภายใต้หน้ากากคนดี

By: Chaipohn May 11, 2022

ช่วงทศวรรษที่ 60s – 80s ประชาชนชาวอังกฤษในยุคนั้นไม่มีใครไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ Jimmy Savile ชายหนุ่มใจดีที่เปรียบเสมือน “สมบัติของชาติ”

ในทุกรายการที่เขาจัด ในทุกกิจกรรมที่เขาไป ล้วนสร้างแรงบันดาลใจ และแรงกระเพื่อมยิ่งใหญ่ให้กับผู้คนในยุคนั้นอย่างที่ไม่เคยมีใครคนไหนทำได้มาก่อน

หากแต่เมื่อเขาตายไป จากสมบัติของชาติที่ทุกคนหลงใหล กลับกลายเป็นซาตานที่น่าขยะแขยง เมื่อมีคนรื้อฟื้นคดีสุดฉาวที่เขาได้ลงมือข่มขืน กระทำชำเรา และพรากผู้เยาว์โดยมีผู้เสียหายรวมกันร่วม 500 ราย

และเรื่องราวของเขาถูกนำมาตีแผ่ในสารคดีสุดเข้มข้นที่ฉายใน Netflix ในชื่อ Jimmy Savile: A British Horror Story ผู้ชายที่มีด้านสว่างและด้านมืดแตกต่างอย่างสุดขั้ว


Jimmy Savile ไต่เต้าจากดีเจคลื่นวิทยุท้องถิ่นในแถบลักเซมเบิร์กตั้งแต่ปี 1958 ถึง 1968

จนในปี 1968 เขาได้ถูกเชิญมาจัดรายการที่ช่อง Radio 1 สถานีวิทยุชื่อดังของสหราชอาณาจักร ในรายการ Savile’s Travels เขาได้เดินทางไปพบปะผู้คนทั่วทั้งสหราชอาณาจักร ด้วยสไตล์การจัดรายการที่จัดจ้านและแตกต่างกับดีเจท่านอื่นๆ ทำให้ Jimmy โด่งดังในเวลาอันรวดเร็ว และการเดินสายไปพูดคุยในที่ต่างๆ ทำให้เขาสะสมฐานแฟนคลับได้อย่างรวดเร็ว

จากรายการวิทยุ Jimmy ก้าวเข้าสู่วงการทีวีอย่างร้อนแรง โดยคนส่วนใหญ่ปรามาสว่าดีเจวิทยุมักจะตายในรายการทีวี แต่ Jimmy กลับสร้างสีสันและความแปลกใหม่ให้กับวงการทีวีได้สั่นสะเทือนด้วยทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์แถมยังย้อมหัวสีแม้ทีวีจะขาวดำ และความเก๋าที่เจนจัดภายใต้การสูบซิการ์ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว จนทำให้เขาได้ปรากฏในรายการ Top of the Pop รายการเพลงชื่อดังในยุค 60s ยุคที่อุตสาหกรรมดนตรีอังกฤษกำลังอยู่ในจุดขาขึ้นสุดๆ แม้ว่าเขาจะอยู่ในวัยหลัก 4 ก็ตาม แต่ Jimmy ก็เป็นที่รู้จักในหมู่วัยรุ่นได้อย่างรวดเร็ว ไปจนถึงเหล่าศิลปินที่กลายเป็นตำนานในเวลาต่อมา ไม่ว่าจะเป็น The Beatle, The Rolling Stones, The Who และ Cliff Richards

จากนั้น Jimmy ก็สร้างปรากฏการณ์บนจอแก้วอีกครั้งในยุค ’70s ด้วยการทำรายการยอดฮิตที่ชื่อ Jim’ll Fix It รายการแนวฝันที่เป็นจริง ที่ให้เด็ก ๆ ได้สมหวังในสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ โดย Jimmy บอกว่าในช่วงเวลาที่พีคสุดนั้น มีจดหมายที่ส่งหารายการถึงสัปดาห์ละ 20,000 ฉบับเลยทีเดียว และรายการนี้ก็ยืนหยัดยาวนานบนจอทีวีกว่า 20 ปี

นอกจากที่เขาโดดเด่นในฐานะพิธีกรแล้ว สิ่งที่ทำให้ Jimmy ครองใจมวลชนชาวอังกฤษ คือการเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการทำงานการกุศล ตั้งแต่การวิ่งทั่วประเทศเพื่อระดมทุนช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และการจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือเด็กยากไร้ พร้อมกันนั้นยามว่างเขายังทำหน้าที่อาสาสมัครช่วยเข็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลอีกด้วย

จน Jimmy กลายเป็นพ่อพระที่ทุกคนให้ความไว้วางใจ เป็นคุณลุงใจดีของเด็ก ๆ ที่ช่วยเติมเต็มความฝันและจินตนาการได้อย่างดี จนเมื่อปี 1990 เขาได้รับมอบเครื่องราชฯ จนได้รับการแต่งตั้งเป็นท่านเซอร์จาก Queen Elizabeth ที่ 2 คือผลตอบรับความดีงามในตลอดชีวิตที่ของที่อุทิศตนเพื่อการกุศลอย่างแท้จริง

แม้จะมีข่าวฉาวอยู่เป็นระยะๆ แต่ความดีงามของเขาก็บดบังพฤติกรรมสุดแย่นั้นจนสิ้น และแน่นอนไม่มีใครเชื่อว่าผู้ชายแสนดีคนนี้จะทำอะไรที่แปดเปื้อนศีลธรรมได้อย่างเด็ดขาด

จนกระทั่งเขาจากโลกนี้ไปในวัย 84 ปี เมื่อปี 2011 ทุกอย่างก็ถูกเปิดโปง


เหตุการณ์ความอื้อฉาวของ Jimmy Savile นั้นไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดมาเนิ่นนาน ทั้งจากโรงพยาบาลที่เขาเป็นอาสาสมัคร, สถาบันจิตเวชที่เขาเป็นประธาน ไปจนถึงเหล่าคนที่มารับชมเขาตัวเป็น ๆ ในระหว่างอัดรายการ แต่แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อว่าชายหนุ่มโอบอ้อมอารี มีความเป็นมิตรไม่ถือตัวกับทุก ๆ คนบนโลกใบนี้ จะกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายได้ โดยเฉพาะข้อกล่าวหาว่า “เป็นพวกใคร่เด็ก” ยิ่งไม่น่าจะเป็นความจริงไปได้เลย เพราะเขานั้นทำรายการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนมาตลอด

ซ้ำร้าย สื่อหลายรายก็ได้รับกลิ่นไม่ดีของ Jimmy แม้แต่ Sunday Mirror หนังสือพิมพ์ทรงอิทธิพลของอังกฤษ ได้พบกับเหยื่อตัวเป็น ๆ แล้วพยายามที่จะเปิดโปงความชั่วร้ายนี้ให้สาธารณชนได้รับรู้ แต่ก็ถูกเบรคจากอิทธิพลมืดที่ตั้งใจจะปกปิดข่าวนี้

แม้กระทั่งเหยื่อที่ต้องทนทุกข์กับการถูกข่มขืนก็ไม่สามารถปริปากได้เลย เพราะพ่อแม่ของเหยื่อก็ไม่เชื่อในสิ่งที่ลูกสาวพูด ทำให้เธอต้องอยู่กับความทรมานมาอย่างยาวนาน

กระทั่งการมาถึงของอินเตอร์เน็ตในช่วงกลางของทศวรรษที่ ’90s เริ่มมีหญิงสาวหลายรายรวมตัวกันในเว็บบอร์ดเพื่อบอกเล่าถึงประสบการณ์ความชั่วร้ายของ Jimmy ให้รับรู้ แต่แน่นอนว่าไม่มีใครแตะต้องเขาได้เลย Jimmy ในวัย 75  พยายามเดินสายทำความดีต่อไปเพื่อปิดบังขยะที่ซุกไว้อยู่ใต้พรมนั้น และเริ่มเป็นที่สังเกตว่าชายหนุ่มผู้มีชื่อเสียงคนนี้แม้จะเป็นคนเปิดเผย ร่าเริ่ง สนุกนานในทุก ๆ ทาง แต่เรื่องส่วนตัวของเขากลับมืดดำและชวนฉงนอย่างไม่น่าเชื่อ รวมไปถึงการแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่า “เขาเกลียดเด็ก” ดูเป็นพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาทำมันมาตลอดชีวิต

กว่าเรื่องราวฉาวโฉ่ของ Jimmy Savile จะปรากฏชัดและจำนนด้วยหลักฐาน ก็ต่อเมื่อเขาสิ้นลมในวัย 84 ปี เมื่อหนังสือพิมพ์หลายฉบับ พยายามที่จะขุดคุ้ยเรื่องราวของเขา จนกระทั่งเหยื่อหลายรายต่างลุกฮือขึ้นเรียกร้องความยุติธรรมที่ถูกสังคมกดทับมาอย่างยาวนาน

แล้วก็พบข้อมูลอันน่าตกใจ เมื่อพบว่าเหยื่อส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นเยาวชนที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่พร้อมกับความคับแค้น บางคนต้องทนอยู่กับบาดแผลทางจิตใจที่โดนคนที่สังคมยกย่องว่าเป็นคนดีกระทำย่ำยีจิตใจ โดยไม่มีใครเชื่อสิ่งที่พวกเธอพยายามจะพูด และที่ช็อคยิ่งไปกว่าคือเหยื่ออายุน้อยที่สุดคือเด็ก 5 ขวบ รวมถึงผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้


และเมื่อเรื่องราวฉาวโฉ่ของเขา ถูกปูดขึ้นมา พร้อมกับเหยื่อจำนวนเกือบหนึ่งพันรายที่ออกมาแฉความเลวร้ายของผู้ชายคนนี้ แน่นอนว่ามันได้สร้างความผิดหวังให้กับชาวสหราชอาณาจักรทั้งประเทศ บางคนก่นด่าและรุมประณามทุก ๆ คนที่เอื้อให้เขาได้ทำผิด ตั้งแต่สถานีโทรทัศน์ / ทนายความ / ตำรวจ รวมไปถึงผู้ใกล้ชิดทุกคน ต่างถูกรถทัวร์ลงจอดรุมด่าในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด แม้แต่คนใกล้ชิดบางคนก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มจิตใจดีงามที่มาพร้อมเสื้อผ้าสีฉูดฉาด, ซิการ์ และรอยยิ้มที่เป็นมิตรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขานั้นคือปีศาจในคราบนักบุญก็ตาม

ถึงขนาดมีการเรียกร้องให้ถอดป้ายถนน Savile’s View รวมไปถึงขุดศพของเขาออกไปให้ไกลจากเมือง เพื่อลบล้างความอัปยศครั้งประวัติศาสตร์นี้ให้หมดลง

แม้ว่า Jimmy Savile จะหมดลมหายใจไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาทิ้งไว้คือความโหดร้ายที่ฝังลึกลงไปในจิตใจของผู้ที่ถูกกระทำยังคงอยู่ต่อไป และกระบวนการยุติธรรมที่เปื้อนเปรอะไปด้วยราคีที่ใช้เงินและอำนาจมิชอบปิดบังไว้

แต่สุดท้าย ก็ไม่อาจจะหนีเวรกรรมที่ก่อเอาไว้ได้

รับชมเรื่องราวฉาวโฉ่ของ Jimmy Savile ได้ในสารคดี “Jimmy Savile: A British Horror Story” ความยาว 2 ตอนจบ ได้แล้ววันนี้ทาง Netflix

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line