Entertainment

“DRIES” A film REINER HOLZEMER : สารคดีแรงบันดาลใจของดีไซเนอร์อิสระที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งยุค

By: LIT November 9, 2017

“แฟชั่นดีไซเนอร์ผู้เก็บตัวที่สุด ถ่อมตัวที่สุด ไม่รู้จักคำว่าการตลาด ไม่สนใจคำว่าเซเลบริตี้ ไม่คุ้นเคยคำว่าการโปรโมทตัวเอง และไม่ใส่ใจคำว่าเทรนด์” อาจฟังดูเป็นนิยามแปลกประหลาดเกินกว่าจะเชื่อได้ว่าเป็นจริงสำหรับแฟชั่นดีไซเนอร์คนใด แต่นี่แหละคือนิยามของ ดรีส แวน โนเทน (Dries Van Noten) ผู้ได้รับการยอมรับจากคนรักแฟชั่นทั่วโลกในฐานะ “ดีไซเนอร์อิสระที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งยุค”

และเพราะนิยามนั้นนั่นเอง Dries จึงเป็นหนังเรื่องแรกที่ดีไซเนอร์เจ้าของผลงานแสนละเมียดละไมผู้นี้ ยินยอมให้มีคนทำหนังถือกล้องเดินตามเข้าไปสำรวจเรื่องราวของเขา ตั้งแต่กระบวนการทำงานในห้องออกแบบไปจนถึงชีวิตส่วนตัวในบ้านแบบที่ไม่เคยมีใครได้รับอนุญาตมาก่อน ผู้กำกับ ไรเนอร์ โฮลซ์เมอร์ ใช้เวลาหนึ่งปีเต็มกับการติดตามดรีส แวน โนเทนตั้งแต่วันเริ่มต้นคิดผลงาน 4 คอลเล็กชั่นใหม่

ตั้งแต่ขั้นตอนการเฟ้นหาผ้า, การปัก และการพิมพ์ลายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จนถึงวันที่งานเหล่านั้นปรากฏต่อสายตาชาวโลกผ่านแค็ตวอล์คระดับ “พลาดไม่ได้” ในปารีสแฟชั่นวีค โดยระหว่างทางนั้น เราจะได้รับรู้ทั้งชีวิต ความคิด และจิตใจอันเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ของดีไซเนอร์ชั้นมาสเตอร์ผู้นี้ที่ยังสามารถรักษาสถานะความเป็น “นักออกแบบอิสระ” มาได้ตลอดการทำงานยาวนานถึง 25 ปี ท่ามกลางบรรยากาศการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลของโลกแฟชั่น

4 จุดเด่นที่ทำให้ “ดรีส” แตกต่าง

ไอริส แอพเฟล คุณทวดแฟชั่นไอค่อนผู้โด่งดังแห่งนิวยอร์ก บอกเราไว้ในหนังเรื่อง Dries ว่า “ดรีสไม่เหมือนแฟชั่นดีไซเนอร์คนไหนๆ ในโลก ซึ่งความแตกต่างนั้นคือสิ่งที่ฉันชอบมาก” อะไรคือความแตกต่างของดรีส แวน โนเทนที่ไอริสและใครต่อใครในแวดวงแฟชั่นกล่าวถึง?
กระบวนการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร : ดรีสไม่ดรออิ้ง เขาจะออกแบบโดยทำงานกับนายหรือนางแบบของเขาโดยตรง คล้ายประติมากรผู้ขึ้นโครงผลงานโดยใช้ผ้าและสิ่งประดับต่าง ๆ แล้วปรับแต่งมันสด ๆ ตรงหน้าจนกว่าจะได้งานสุดท้ายที่เขาพอใจ

แหล่งแรงบันดาลใจและวิธีบิดไอเดียตั้งต้นจนได้รูปลักษณ์ใหม่ : เขามักค้นหาแรงบันดาลใจจากผลงานหลากหลายของศิลปินแขนงอื่น ๆ เช่น ภาพจิตรกรรมนามธรรมของ แกร์ฮาร์ด ริกเตอร์, การแสดงบัลเลต์ของ พีนา เบาช์, งานเขียนของ มาร์แซล พรุสต์, งานอินสตอลเลชันดอกไม้ของ อาซุมะ มาโกตะ

มุมมองในเรื่องธุรกิจและลูกค้า : ดรีสต้องการออกแบบเสื้อผ้าให้ขับเน้นบุคลิกเฉพาะตัวของผู้สวมใส่แต่ละคน เขาอยากให้ลูกค้าเห็นเสื้อผ้าของเขาเป็นเหมือนเครื่องใช้ที่อยู่ร่วมกันไปได้ยาวนานและสามารถปรับประยุกต์สวมปนเปกับแบรนด์อื่น ๆ หรืองานของดีไซเนอร์คนอื่นได้ เขาจึงมักเรียกเสื้อผ้าของเขาว่า “แฟชั่นที่มีจิตวิญญาณ” และไม่ต้องการให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตแบบอุตสาหกรรมใหญ่ยักษ์

เขาคือเทพแห่งการรื้อสร้าง (master of deconstruction) : เพราะงานของเขามักเป็นการผสมผสานขององค์ประกอบต่าง ๆ ที่ดูเหมือนไม่น่าจะมาอยู่รวมกันได้ บ่อยครั้งที่เขาหยิบสิ่งที่เป็นต้นทางของแรงบันดาลใจมาบิด เปลี่ยน แล้วประสานเข้าด้วยกันจนอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน หรืออาจกล่าวได้ว่า “ดรีสเปลี่ยนความอัปลักษณ์และความไม่สมบูรณ์แบบ ให้กลายเป็นความงามและความสมบูรณ์แบบ” นั่นเอง

รู้จักดรีส แวน โนเทน

เกิดในแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ปี 1958 โดยเป็นผู้สืบเชื้อสายรุ่นที่ 3 ของตระกูลช่างตัดเสื้อ ปู่ของดรีสสร้างชื่อเสียงในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสองจากการนำเสื้อผ้ามือสองมาปรับเปลี่ยนให้ใช้งานต่อได้ ซึ่งกลายเป็นการเริ่มต้นกระแสความนิยมเสื้อผ้าสำเร็จรูปในแอนต์เวิร์ป ต่อมาในปี 1970 พ่อของดรีสเปิดแฟชั่นบูติกขนาดใหญ่ขึ้นในชานเมืองแอนต์เวิร์ป ตามด้วยสาขาที่สองในตัวเมืองโดยจำหน่ายคอลเล็กชั่นของ Ungaro, Ferragamo, Zegna และในเวลาเดียวกัน แม่ของเขาก็เปิดร้านแฟรนไชส์ของ Cassandre พร้อมเก็บสะสมผ้าลูกไม้และผ้าลินินไปด้วย

การเกิดในครอบครัวที่แทบจะมีอาชีพตายตัวรอคอยอยู่ในอนาคต อาจถูกคนรุ่นใหม่มองเป็นได้ทั้งภาระและโอกาส โชคดีของดรีสที่เป็นอย่างหลัง เพราะการร่ำเรียนในโรงเรียนเยซูอิตช่วยให้เขามีจิตใจแข็งแกร่งแน่วแน่และมองชีวิตตามความเป็นจริงในด้านบวก เขาจึงรับโอกาสทางครอบครัวไว้และดื่มด่ำกับมันมาตั้งแต่ยังเยาว์ ในวัยเด็กเขากับพ่อได้เข้าชมโชว์และ คอลเล็กชั่นมากมายทั้งในมิลาน, ดุสเซลดอร์ฟ, ปารีส ซึ่งทำให้ได้เรียนรู้ทั้งด้านการค้าขายและด้านเทคนิคของอาชีพนี้ อย่างไร ก็ดี ไม่นานต่อมาเขาก็ตัดสินใจได้ว่า เขาสนใจงานดีไซน์แฟชั่นมากกว่าการขายเสื้อผ้า ในปี 1976 ขณะอายุ 18 ปีเขาจึงเข้าเรียนสาขาแฟชั่นดีไซน์ที่ Royal Academy of Fine Arts ในแอนต์เวิร์ป พร้อมๆ กับเริ่มรับงานฟรีแลนซ์ออกแบบให้กับผู้ผลิตเสื้อผ้าในเบลเยียมไปด้วย ซึ่งประสบการณ์จากการได้ทำงานจริงนี้กลายเป็นสิ่งมีค่ามหาศาลเมื่อเขาเริ่มผลิตและขายผลงานของตัวเองในเวลาต่อมา

หลังเรียนจบ ดรีสยังคงทำงานฟรีแลนซ์ต่อ ก่อนจะเริ่มผลิตคอลเล็กชั่นเบลเซอร์, เชิ้ต, กางเกงเป็นของตนเองและประสบความสำเร็จทันทีที่เปิดตัวในปี 1986 ด้วยการจำหน่ายให้แก่ลูกค้าหรูหราอย่าง Barneys New York, Pauw ในอัมสเตอร์ดัม และ Whistles ในลอนดอน เดือนกันยายนปีเดียวกัน ดรีสเปิดร้านเล็กๆ ในชื่อตัวเองที่แอนต์เวิร์ปและขายเสื้อผ้าทั้งของชายและหญิง

ปี 1989 เขาโยกย้ายจากร้านเล็กๆ ไปสู่อาคาร 5 ชั้นซึ่งเคยเป็นห้างสรรพสินค้ามาก่อน ในย่าน Nationalestraat ที่กำลังตกอยู่ในสภาพค่อนข้างเสื่อมโทรม แถมยังเคยเป็นที่ตั้งของร้านคู่แข่งตัวเอ้ของปู่เขาอีกต่างหาก ดรีสเข้าไปซ่อมแซมปรับปรุงสถานที่โดยคงส่วนประกอบเก่าแก่ทั้งหลายเอาไว้ และน่าทึ่งมากที่ในที่สุดเขาก็ได้ช่วยให้พื้นที่แห่งนี้กลายมาเป็นย่าน บูติกหรูหราในปัจจุบัน จากจุดนั้นกิจการของดรีสเติบโตก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เขาเปิดโชว์รูมใหม่ในปารีสและสำนักงานในอาร์ตแกลเลอรีเก่าที่เลอ มาเรส์ ตามด้วยโชว์รูมที่สองในมิลาน และบูติกในปารีส, โตเกียว, สิงคโปร์, ดูไบ, ฮ่องกง รวมถึงเป็นพาร์ตเนอร์กับบูติกอีกกว่า 400 แห่งทั่วโลกในนิวยอร์ก, ลอนดอน, มิลาน, เบอร์ลิน, คูเวต, กาตาร์ และมอสโก

เดือนมิถุนายนปี 2000 ดรีสย้ายเข้าสู่โกดังพื้นที่ 60,000 ตารางฟุตใน Godefriduskaai ของแอนต์เวิร์ปซึ่งเคยเป็นที่พักของกองทัพเยอรมันและฝ่ายสัมพันธมิตรในช่วงสงคราม อาคาร 6 ชั้นหลังนี้ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโชว์รูม, แผนกออกแบบ, แผนกการตลาด, แผนกผลิต, ฝ่ายบัญชี และฝ่ายจัดจำหน่ายของดรีส รวมทั้งเป็นที่เก็บผลงานทั้งหมดที่ผ่านมาของเขาด้วย

การเติบโตโดยวางจังหวะก้าวอย่างไม่เร่งรีบและเต็มไปด้วยความมั่นใจเช่นนี้ สะท้อนถึงวิธีคิดของดรีสได้อย่างชัดเจน แม้การทำงานยาวนานถึง 25 ปีจะทำให้เขาก้าวขึ้นสู่สถานะแฟชั่นดีไซเนอร์แถวหน้า แต่เขากลับยังเลือกจะเป็นนักออกแบบอิสระไม่สังกัดค่ายใด ๆ เขายังคงลงทุนในทุกคอลเล็กชั่นด้วยตัวเอง และยังคงมุ่งมั่นค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ที่จะทำให้ผลงานของตนทั้งพัฒนาและยืนยง

“ผมไม่ชอบคำว่าแฟชั่น เพราะแฟชั่นคืออะไรที่พร้อมจะตายไปในเวลา 6 เดือน” ดรีส แวน โนเทนกล่าวไว้ใน Dries “ผมคิดว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ ต้องการคำอะไรสักคำที่ไร้กาลเวลากว่านั้น”

DRIES A film REINER HOLZEMER สารคดีแรงบันดาลใจที่จะพาเราเข้าไปตามดูกระบวนการคิด การออกแบบ การตัดเย็บ ตั้งแต่บนโต๊ะทำงาน ไปจนถึงหลังแคตวอล์คและสวนหลังบ้านของ “ดรีส วัน โนเทน” (Dries Van Noten) แฟชั่นดีไซเนอร์ผู้โด่งดังแห่งกลุ่ม The Antwerp Six (6 ดีไซเนอร์แถวหน้าแห่งแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม)

– ฉายรอบแรก : จันทร์ 20 พ.ย. 20:00 น. ที่ SF Central World
– ฉายจริง : เริ่มพฤหัสบดี 23 พ.ย.เป็นต้นไปในเครือ SF

เปิดจองบัตรล่วงหน้าแล้ว (เฉพาะสาขา Central World) สามารถจองได้ที่แอพ SF Cinema และ www.sfcinemacity.com

LIT
WRITER: LIT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line