Entertainment

FASHION x FILM: “โหด เลว ดี 1986” ตำนานจากฮ่องกงที่เป็นมากกว่าภาพยนตร์มาเฟียเฉือนคม

By: TOIISAN January 17, 2020

สำหรับหนุ่ม ๆ ช่วงอายุ 25 ปีขึ้นไป จำนวนไม่น้อยต่างก็ต้องเคยได้ยินหนังชื่อว่า ‘โหด เลว ดี’ หนังฮ่องกงจากปี 1986 กันมาบ้าง บางคนอาจแค่เคยได้ยิน บางคนเคยดูแล้วก็เลือนหายจากความทรงจำไปตามกาลเวลา แต่เราเชื่อว่าต้องมีอย่างน้อยสักหนึ่งคนแน่ ๆ ที่จดจำเรื่องราวของ ‘อาเห่า’ ‘อาเฉีย’ และ ‘เสี่ยวหม่า’ ได้แม่นเหมือนเพิ่งนั่งดูโหด เลว ดี เมื่อวานนี้ 

คำบอกเล่าจากปากคนรุ่นก่อนที่เราได้ยินบ่อย ๆ การันตีความโด่งดังรวมถึงความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ คงไม่ต้องพูดถึงคำวิจารณ์และรายได้ที่ใครต่างก็รู้ว่าอยู่ในระดับยอดเยี่ยม แต่ UNLOCKMEN ไม่ได้มาพูดถึงเบื้องหลังที่ใครเขาเคยพูดมาซ้ำ ๆ

เราจะเล่าถึงการแต่งตัวที่ทำให้เกิดกระแส มองภาพรวมแฟชั่นของตัวละครในเรื่องโหด เลว ดี ว่าทำไมการแต่งตัวเห็นแล้วชวนเหงื่อแตกที่หลายคนมองว่าเชยในเรื่องถึงยังมีให้เห็นจนถึงปัจจุบัน

 

‘เสี่ยวหม่า’ แฟชั่นไอคอนของสุภาพบุรุษยุค 80 

เรื่องราวของภาพยนตร์โหด เลว ดี เกิดขึ้นมาจากความคิดที่ต้องการนำเสนอมุมมองทางการเมืองผ่านหนังของผู้กำกับ จอห์น วู ที่บังเอิญเจอกับฉีเคอะจนกลายมาเป็นผู้อำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ พวกเขามองว่าคนหนุ่มสาวในช่วงเวลานั้นต้องการศรัทธา พวกเขาสับสน เลยอยากเล่าเรื่องราวของ Gangster ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ ทั้งที่กฎเหล็กของพวกนักเลงในเวลาเดียวกันก็คล้ายกับเผด็จการ

โหด เลว ดี II

ถ้าเล่าเรื่องราวดราม่า เสียดสีสังคม ความสัมพันธ์ของลูกผู้ชาย และการหักหลังของกลุ่มเพื่อนแบบโดด ๆ คงไม่มีใครอยากดูกันเท่าไรนัก เพราะมันทั้งหนักชวนให้ปวดหัว มีคนเคยพูดไว้ว่า “ชีวิตเราก็เศร้าจะตายห่าอยู่แล้ว ถ้ามาดูหนังพวกนี้อีกก็คงหมดอาลัยตายอยาก” ดังนั้น การเล่าเรื่องของจอห์น วู ต้องใช้ปัจจัยอื่นเพื่อทำให้คนอยากนั่งดูหนังเรื่องนี้ไปจนจบ และนอกจากนั่งดูไปจนจบแล้วคนดูต้องเอาหนังเรื่องนี้ไปคุยต่อกับคนอื่นให้ได้ 

สิ่งที่เขามองเห็นคือนักแสดง มุกตลก ฉากแอกชัน รวมถึงเรื่องมองข้ามไม่ได้อย่าง ‘แฟชั่น’ โดยเฉพาะกับโจว เหวินฟะ ผู้รับบท ‘เสี่ยวหม่า’ ลูกน้องบ้าเลือดที่รักพี่เห่าหมดใจ เขาเป็นชายมุทะลุไม่กลัวตายจนถึงขั้นควงคู่ไปกราดยิงชาวแก๊งเพื่อล้างแค้นให้พี่เห่า จนสุดท้ายตัวเองกลายเป็นชายพิการขากะเผลก (คนเรียกเขาว่าไอ้เป๋ดีเดือด) แต่ถึงอย่างนั้นแฟชั่นของเขาทำให้ผู้ชายในช่วงเวลานั้นบ้าคลั่งไปเลย

แฟชั่นและการแต่งตัวที่ทำให้เสี่ยวหม่ากลายเป็นตัวละครสุดเท่โดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ ในเรื่อง มันต้องพึ่งองค์ประกอบร่วมหลายอย่างด้วยกัน ทั้งอินเนอร์ของนักแสดง บทละครที่ส่งให้สร้างชื่อ กับเสื้อโค้ตสีดำยาวเกือบถึงข้อเท้า เสื้อเชิ้ตที่เล่นลวดลาย ชุดสูท แว่นกันแดด และบุหรี่ 

ฉากแฟชั่นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดฉากหนึ่งในเรื่องคือฉากที่เสี่ยวหม่าเดินอยู่กลางถนน แม้วันนั้นจะเป็นวันที่แดดแรงจ้า แต่แฟชั่นของเสี่ยวหม่าก็ยังจัดจ้านอยู่เสมอ เขาแต่งตัวจัดเต็มทั้งเสื้อเชิ้ตติดกระดุมถึงเม็ดบนสุดพร้อมกับผูกเนคไทสีเข้ากัน เสื้อกั๊กที่บางครั้งก็เลือกสีพื้นอย่างดำ น้ำตาล และกรมท่า แต่บางฉากก็ใช้เสื้อกั๊กที่มีลวดลาย จุดเด่นที่ทำให้แฟชั่นของโหด เลว ดี ต่างจากแฟชั่น Gangster เรื่องอื่น ๆ คือพวกเขามักไม่ยัดเสื้อกั๊กเข้าไปในกางเกงแต่ปล่อยให้เซอร์ ๆ แทน และสวมทับด้วยเสื้อโค้ตยาวเลยเข่าที่มักเป็นสีดำเสมอ (แต่ถ้าใครอยากใส่สีอื่นก็ไม่ติดขัดนะครับ)

โหด เลว ดี II

สูทกับเสื้อกั๊กที่อยู่นอกกางเกงสร้างลุคเซอร์ แต่ความจัดเต็มที่ถูกส่วนไว้ก็ยังไม่หายไปไหน ตัวละครในเรื่องมักใส่กางเกงแสลคทรงหลวม จากนั้นเลือกเข็มขัดหนังเส้นเก่งเพื่อทำให้กางเกงหลวมพอดีกับตัว เมื่อสังเกตดี ๆ เราแทบไม่เห็นตัวละครในเรื่องใส่เสื้อยืดคอกลมเลย เพราะแฟชั่นหลายเลเยอร์ทำให้ผู้สวมใส่เท่ได้มากกว่า เป็นได้ทั้งชุดทางการและกึ่งทางการ แถมยังเสริมความมั่นใจได้อีกด้วย

ส่วนทรงผมของแก๊งมาเฟียฝั่งเอเชียจะไม่ค่อยเนี้ยบเท่ากับชาวแก๊งฝั่งตะวันตกอย่างหนังเรื่อง The Godfather (1972) หรือซีรีส์ที่เล่าเรื่องมาเฟียในเกาะอังกฤษเรื่อง Peaky Blinders มาเฟียฮ่องกงในรูปแบบโหด เลว ดี มักทำผมปัดเป๋แต่ทิ้งปอยผมเล็กน้อยตรงหน้าผาก เวลาไม่จริงจังก็ปล่อยให้ปรกหน้าผาก แต่ก็ยังมีบางคนที่ปัดข้างเรียบแปล้หรือปาดเจลเสยขึ้นไปเลยให้ไม่วุ่นวาย ยิ่งฉากเผาเงินเพื่อจุดบุหรี่กับปอยผมเล็กน้อยนี่โคตรเท่แบบสุด ๆ

กระแสแฟชั่นปี 2020 ที่มาแรงเราได้เคยเล่าไปแล้วใน ‘5 เทรนด์การแต่งตัวที่ผู้ชายควรรู้ปี 2020 มาดูกันว่าไอเทมไหนจะฮิตและอะไรต้องตกกระป๋อง’ หนึ่งในสไตล์ที่จะได้รับความนิยมในปีนี้คือการแต่งตัวแบบ ‘Oversized ใหญ่ไว้ก่อนจะดีเอง’ ซึ่งมันตรงกับแฟชั่นจากเรื่องโหด เลว ดี ที่ฉายตั้งแต่ปี 1986 เพราะแฟชั่นเป็นสิ่งที่มีวัฏจักรเป็นวงกลม สำหรับตอนนี้โอกาสที่จะหยิบเสื้อคลุมหลวม ๆ ไม่ว่าจะเป็น Blazer สูท หรือเสื้อโค้ตแบบหนุ่มมาเฟียสมัยก่อนมาใส่ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะกลายเป็นผู้ชายนำเทรนด์

แว่นกันแดดที่เสี่ยวหม่าใส่ในตอนนั้นเป็นแว่นกันแดดจากแบรนด์อแลง เดอลอง (Alain Delon) ที่ต้องสั่งนำเข้ามาจากฝรั่งเศส และเมื่อหนังเรื่องโหด เลว ดี ฉายไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ แว่นที่ว่าก็ขายดีจนของขาดตลาด บางคนที่ซื้อทันก็เอามาขายเก็งกำไร แว่นตากันแดดขายดีมากถึงขนาดอแลง เดอลอง ต้องเขียนจดหมายขอบคุณโจว เหวินฟะ ผู้รับบทเป็นเสี่ยวหม่า ทำเอาโลกแฟชั่นสำหรับสุภาพบุรุษฝั่งเอเชียปั่นป่วนไปช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว

แฟชั่นของเสี่ยวหม่ากลายเป็นตำนานถึงขั้นที่ว่าผู้กำกับระดับตำนานของฮอลลีวูดอย่างคเวนติน ทารันติโน (Quentin Tarantino) ที่มีผลงานดัง ๆ ทั้ง Kill Bill ทั้งสองภาค Django Unchained (2012) และ Once Upon a Time in Hollywood (2019) เคยเล่าไว้ว่าสมัยวัยรุ่นเขาไปเช่าเรื่องโหด เลว ดี จากร้านวิดีโอมาดูกับเพื่อน พอดูจบแล้วโคตรชอบถึงขั้นออกปากว่า

“ผมไปตามหาซื้อเสื้อโค้ตสีดำ คาบไม้จิ้มฟัน สวมแว่นกันแดด แต่งตัวเลียนแบบเสี่ยวหม่าอยู่สองอาทิตย์” – Quentin Tarantino

คำบอกเล่าของผู้กำกับระดับโลกการันตีความประสบความสำเร็จทางด้านแฟชั่นของหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งที่เป็นหนังนอกสายตาจากทางฝั่งเอเชีย แต่คนต่างเชื้อชาติ ต่างภาษาอย่างชาวตะวันตกก็ชื่นชอบสไตล์การแต่งตัวของโหด เลว ดี 

ถึงแม้โหด เลว ดี กับตัวละคร เสี่ยวหม่า จะได้รับการการันตีความสำเร็จมากเพียงใด ท้ายที่สุดผู้กำกับจอห์น วู ก็ยังรู้สึกว่าหนังของเขามันยังไม่สมบูรณ์แบบ มีเพียงตัวละครของโจว เหวินฟะ เท่านั้นที่โดดเด่น แต่คนอื่นในเรื่องก็ยังมีชีวิตเหมือนกับละครน้ำเน่าอยู่ดี ส่วนมุมมองแฟชั่นของหนังตัวเอง เขามองว่าแม้เสื้อโค้ทและสูทดำจะเท่โคตรเมื่ออยู่ในหนัง แต่สำหรับเมืองที่อากาศร้อนอบอ้าวอย่างฮ่องกงถ้าให้ใส่ทุกวันก็คงร้อนตับแตก โดยเฉพาะตัวบอสฝั่งผู้ร้ายที่จัดเต็มเพิ่มไอเทมเสริมอย่างผ้าพันคอพาดไว้ในเสื้อคลุม

แม้เสื้อโค้ตยาวกับเสื้ออีกหลายชั้นทำให้เราร้อนจนแทบเป็นลม แต่ถ้าใส่แล้วเท่เหมือนเสี่ยวหม่าและชาวแก๊งคนอื่น ๆ ในภาพยนตร์เรื่องโหด เลว ดี ก็ต้องยอมทนร้อนกันสักครั้งครับ เพราะพวกเขาเท่กันมากจริง ๆ 

 

SOURCE

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line