FOXY LADY: วันฝนพรำกับ ‘เฟรนด์-จิราวรรณ’สาว FRIENDLY ที่ทำวันหม่นให้สดใส

กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการมาได้ 2 เดือนแล้ว ใครหลายคนคงกำลังเผชิญกับสายฝนและความหงอยเหงาหม่นเทาที่ไม่อาจควบคุมได้ ค่ำนี้ก็เช่นกัน

คืนฝนพรำ น้ำฉ่ำนอง ท้องฟ้าหม่น คนก็ต้องเหงาเป็นธรรมดา

แต่บนโลกนี้มีคนไม่กี่คน ของไม่กี่อย่าง ความรู้สึกไม่กี่แบบที่จะสามารถเปลี่ยนวันฟ้าหม่นฝนพรำให้กลายเป็นวันสดใสได้ในพริบตา “เฟรนด์-จิราวรรณ แสงทินทอง”FOXY LADY คนที่ 8 ของเราเป็นหนึ่งในคนนั้น คนที่เพียงชวนมาสนทนากันสั้น ๆ ในวันฟ้าหม่นฝนพรำก็ทำให้โลกรอบตัวเรากลับถูกฉาบทาให้สดใสและเต็มไปด้วยเสน่ห์ขึ้นได้

เพราะเราเชื่อว่าการอยู่ใกล้คนที่เต็มไปด้วยพลังบวกและ Friendly สามารถเติมพลังที่ร่อยหรอของเราให้กลับมาเต็มได้เหมือนเดิม และเฟรนด์-จิราวรรณ ก็เป็นสาว Friendly สมชื่อ จนเราอยากชวนทุกคนมารู้จักเธอเพื่อแบ่งพลังความสดใสเต็มเปี่ยมไปเยียวยาความหม่นเทาของฤดูฝนอันยาวนานไปด้วยกัน

“เป็นคนโพสิทีฟค่ะ เพราะว่าถ้าเกิดมีปัญหาอะไรเข้ามา จะคิดว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้” เฟรนด์เริ่มเล่าเรื่องตัวเองแข่งกับเสียงฝน แม้จะเริ่มสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่เราเชื่อว่าเป็นประโยคสั้น ๆ ที่บอกความเป็นเธอไว้ได้ครบ เพราะเธอฝ่าฝนมาเจอเราได้โดยไม่บ่นสักคำ แถมรอยยิ้มยังเป็นสิ่งแรกที่เธอมอบให้ เราจึงเชื่อหมดจดว่าสำหรับเธอ ทุกอย่างจะผ่านไปได้ และผ่านไปได้อย่างงดงามด้วย เราคุยกันเรื่อยเปื่อยตามปริมาณหยาดฝนที่รินลงมาเรื่อย ๆ ก่อนมาถึงคำถามที่ว่าคิดว่าเสน่ห์ของเฟรนด์อยู่ตรงไหน?

“เป็นคนเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ถ้าอยู่กับเพื่อนสนิทไปเลย จะเป็นคนตลกเฮฮา มีโจ๊กที่เล่นกันเองตลอด แต่ถ้าเป็นลักษณะภายนอกที่คนอื่นบอกคือขี้แมลงวัน”

เราอดเห็นด้วยไม่ได้ว่าเสน่ห์ของเฟรนด์มีทั้งสิ่งที่อยู่ภายนอกและรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ประกอบร่างสร้างขึ้นมาจากความเป็นเธอ ทั้งความเข้ากับคนง่าย การเป็นคนสบาย ๆ และการเป็นสาวนักเดินทางผู้หลงรักทะเล

“เราชอบทะเล ชอบไปเฉย ๆ ไปอยู่ ไปเดินเล่น ไปถ่ายรูป พอไปเรื่อย ๆ  ก็เริ่มอยากไปทำกิจกรรมที่นั่น ดำน้ำ เล่นเซิร์ฟ ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนเราไม่ได้นึกถึงอะไรพวกนี้ แต่พอได้ลองเล่นก็รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ มันดี แล้วพอเรากลับมา กิจกรรมพวกนี้ทำให้เราอยากกลับไปอีก

ชอบเล่นเซิร์ฟ ไปลองเล่นมาแล้ว ตอนนี้ก็เล่นได้อยู่ แต่ยังเล่นไม่ดีเท่าไหร่ จริง ๆ เมื่อก่อนเป็นคนไม่ทำกิจกรรมพวกนี้ เพราะเคยคิดว่าตัวเองเล่นกีฬาก็ไม่ดี ศิลปะก็ไม่ดี เล่นดนตรีก็ไม่ดีอีก คิดว่าตัวเองไม่ชอบอะไรสักอย่าง

พอใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ แล้วไม่มีความชอบอะไรเลย รู้สึกว่าต้องลอง เลยลองแบบไม่ได้คิดอะไร แค่อยากลองดู พอลองแล้วก็ชอบ เริ่มลองทำหลายอย่างขึ้น ปีนเขา พอลองทำแล้วมันก็มีบางอย่างที่ชอบ มีบางอย่างที่ไม่ชอบจริง ๆ แต่ทำให้เรารู้ว่าเราอยากลองทำอะไรอีกหลายอย่าง”

ตัวตนของสาวเฟรนด์ที่ Friendly คนนี้จึงเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของนักผจญภัยซุกซ่อนอยู่ เฟรนด์รักการกระโจนลงไปลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ บางครั้งเธอเจอสิ่งที่ชอบ บางครั้งไม่ แต่สิ่งที่เธอคิดว่าสำคัญที่สุดคือการได้ลอง

ไม่ต่างจากการทำความรู้จักผู้คนใหม่ ๆ ที่เธอมักเข้ากับคนที่เจอครั้งแรกได้เร็ว แต่บางครั้งเธอเองก็มีโลกส่วนตัวเหมือนกัน และที่สำคัญเธอไม่ได้อยากมีเพื่อนมากมายนับไม่หมด เธอจะ Friendly แค่ไหน แต่เธอก็ต้องการเพื่อนที่รักและเข้าใจตัวตนเธอจริง ๆ มากกว่า

“การเป็นคน Friendly ข้อดีคือทำให้เราเข้ากับคนอื่นง่าย ต่อให้เจอครั้งแรกก็พูดคุยได้ ปรับตัวเข้าสังคมได้ ข้อเสียคือบางทีการที่เรามีเพื่อนพาเราไปรู้จักใครสักคน การที่เราเข้ากับเขาได้ ทำให้เขาคิดว่าเขาก้าวก่ายเข้ามาในกรอบได้ ซึ่งมันมากเกินไป เพราะถ้าไม่สนิทมาก เราก็อยากจะคุยแค่เรื่องผิวเผินก่อน”

“เราเคยมีประสบการณ์ไม่ดีเรื่องเพื่อนมาด้วย เรารู้สึกว่าเพื่อนไม่ต้องมีเยอะ แต่อยากมีจำนวนหนึ่งที่สนิททำอะไรด้วยกันได้อย่างสบายใจ”

“เราไม่อยากได้คนที่คบกันไปเรื่อย ๆ คบกันมานาน แต่สุดท้ายแล้วเขาอาจจะไม่ได้ชอบอะไรเรามากมาย แต่เขาไม่ยอมพูดกับเราตรง ๆ เรารู้สึกว่าถ้าเป็นเพื่อนกันจริง ๆ มีอะไรก็ต้องพูดกันตรง ๆ ดีกว่าไปพูดกับคนอื่นจนทำให้เกิดความแตกแยก รู้สึกว่ามันไม่ควรเป็นแบบนี้ การเจออะไรแบบนี้มันทำให้มุมมองเรื่องเพื่อนของเราเปลี่ยนไป ตอนนี้เราเลยมองว่าจำนวนมันไม่เกี่ยว”

“เพื่อนที่ดีคือเพื่อนที่กล้าพูดตรง ๆ ถ้ามีปัญหาหรือปรึกษา ไม่จำเป็นต้องซัพพอร์ตหรือเห็นด้วยหมด ถ้าไม่โอเคต้องกล้าจะแนะนำ”

ฝนยังไม่มีทีท่าจะหยุดตก ตอนที่บนสนทนาเดินทางมาถึงเรื่องที่หนักขึ้น แต่ดูเหมือนแววตาของเฟรนด์ไม่ได้ฉายแววเหนื่อยอ่อนเลย เราจึงถามเธอต่อว่าเวลามีคนมาแสดงความคิดเห็นในทางล่วงละเมิดหรือแซวเธอเวลาเธอลงรูป โดยเฉพาะรูปใส่ชุดว่ายน้ำตอนไปเที่ยวทะเล เธอรับมืออย่างไร?

“บางทีเราแต่งตัวไปทะเล เวลาลงรูปที่บ้านก็เห็น มันไม่ได้แย่มาก ถ้าที่บ้านไม่ได้มาว่า เราจะคิดว่าขนาดที่บ้านเราเขายังโอเคเลย คนอื่นที่ไม่รู้จักกัน เราไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ”

“คนเรามีภูมิต้านทานไม่เหมือนกัน มีแนวคิดไม่เหมือนกัน บางคนคอมเมนต์ไปโดยไม่คิดว่าคนอ่านจะรู้สึกยังไง มันอาจทำให้เกิดแผลอะไรบางอย่างในใจคน ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้น

ไม่ควรพูดจาละเมิดอยู่แล้ว เราไม่รู้ว่าที่เราพูดออกไป คนที่อ่านจะคิดหรือรู้สึกอะไร มันไม่ควรสร้างแผลให้ใคร เราอาจจะมีความคิดแบบนี้ แต่ความคิดมันควรเก็บไว้ ไม่จำเป็นต้องแสดงออกไปโดยตรง”

เราเว้นระยะให้เธอนั่งมองอะไรเรื่อยเปื่อย ฝนกำลังซาเม็ดลง ก่อนจะชวนเฟรนด์ออกไปเดินเล่นหลังฝนกระหน่ำ เราถามคำถามสุดท้าย เผื่อใครจะอยากรู้ว่าสาว Friendly อย่างเฟรนด์มีทัศนคติเรื่องความรักอย่างไร?

“ไม่มีสเปกข้างนอก ดูที่ทัศนคติ ไม่ต้องมีทัศนคติเหมือนกัน แต่ก็อย่าต่างกันคนละขั้ว ชอบคนที่โตกว่าเพื่อที่จะดึงเราไปในทางที่โตขึ้น ดีขึ้น มีคำแนะนำให้ได้

เราคิดว่าควรมีไลฟ์สไตล์ที่เข้ากันได้ บางคนอาจคิดว่าไม่สำคัญที่ต้องชอบหนังแนวเดียวกัน ฟังเพลงแนวเดียวกัน สำหรับเราสำคัญ เพราะถ้าเราดูหนังเรื่องหนึ่งเราอิน แต่เขาไม่อิน สุดท้ายมันจะไม่มีบทสนทนากันต่อเลย ไม่มีความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน ถ้ามีสิ่งที่ชอบเหมือนกันเขาเปิดเพลงดี ๆ ให้เราฟังมันก็เป็นเรื่องดี ๆ แล้ว”

บทสนทนาจบลงตอนฝนเม็ดสุดท้ายหล่นลงมาจากฟ้าพอดี เราชวน“เฟรนด์-จิราวรรณ แสงทินทอง” FOXY LADY ของเราเดินเล่นกันอีกนิด ก่อนส่งเธอกลับ เฟรนด์โบกมือลาเราและเช่นเคยด้วยสายตาที่เน้นย้ำสิ่งที่เธอพูด “ทุกอย่างจะผ่านไปได้” ไม่ว่าจะฟ้าหม่น ฝนพรำ หรือวันเหงา ๆ ก็ตาม

ติดตามความสดใสเปี่ยมเสน่ห์ของเฟรนด์ต่อได้ที่ friendlyjirawan

PHOTOGRAPHER: Krittapas Suttikittibut