Guide

SINGLE MALT 101: รู้จักโลก “ซิงเกิลมอลต์”แบบรอบด้านเพื่อการดื่มอย่างมีระดับของผู้ชาย

By: PSYCAT February 19, 2018

“ความรักทำให้โลกหมุนหรอ? ไม่ใช่เลย วิสกี้ต่างหากที่ทำให้โลกหมุนเร็วขึ้นเป็นสองเท่า” นี่คือคำกล่าวของ Compton MacKenzie นักเขียนชาวสก็อตแลนด์ที่ UNLOCKMEN มั่นใจว่าผู้ชายหลายคนอาจจะยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าโลกทั้งใบของเราจะขับเคลื่อนได้ด้วยวิสกี้จริงหรือ ? แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่หลงใหลในการดื่มอย่างมีระดับแล้วล่ะก็โลกแห่งวิสกี้ที่คุณควรไม่ควรพลาดและควรรีบกระโจนลงไปดื่มด่ำกับมันให้ลึกซึ้งก็คือโลกของ “Single Malt Scotch Whisky” นั่นเอง

มันไม่เพียงแต่จะทำให้โลกผู้ชายอย่างคุณหมุนไปข้างหน้าเท่านั้น แต่ Single Malt Scotch Whisky จะหมุนโลกทั้งใบแห่งการดื่มของผู้ชายเข้าสู่ศิลปะแห่งการดื่มวิสกี้สุดคลาสสิกจนไม่อาจลืมได้ลง การทำความรู้จักกับ Single Malt Scotch Whisky อย่างรอบด้านในวันนี้จึงเป็นก้าวแรกในการเข้าสู่โลกแห่งซิงเกิลมอลต์ที่จะยกระดับการดื่มได้แบบที่ผู้ชายทุกคนจะต้องตกหลุมรัก

WHAT IS SINGLE MALT ?

ก่อนที่จะก้าวเข้าไปสู่โลกของ Single Malt Scotch Whisky ผู้ชายอย่างเราไม่ควรพลาดที่จะทำความรู้จักกับโลกของวิสกี้กันก่อน โดยวิสกี้ที่เราอาจดื่มบ่อย ๆ แต่ไม่ทันได้ทำความรู้จักนั้นคือเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ที่กลั่นมาจากธัญพืชหมัก จากนั้นนำมาเก็บรักษาไว้ในถังไม้

Single Malt Scotch Whisky ก็นับเป็นวิสกี้ชนิดหนึ่งเช่นกัน แต่ความโดดเด่นและพิเศษมากคือ Single Malt Scotch Whisky ทำมาจากข้าวบาร์เลย์มอลต์เพียงชนิดเดียวและยังมาจากโรงกลั่นโรงเดียวเท่านั้นอีกด้วย ใครที่หลงใหลในความคราฟต์บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง โดยเฉพาะในอดีตที่การทำมอลต์เต็มไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้ทั้งแรงงานและเวลา โลกของการดื่ม Single Malt Scotch Whisky จึงเป็นศิลปะแห่งการดื่มที่น่าหลงใหลที่สุดอย่างหนึ่ง

แต่ทำความรู้จัก Single Malt Scotch Whisky แบบผู้ชายมีระดับทั้งที ต้องลงลึกไปถึงคุณสมบัติของ Single Malt Scotch Whisky อย่างถ่องแท้ ซึ่งตามกฎเกณฑ์ของ Scotch Whisky Regulations 2009 นั้น Single Malt Scotch Whisky จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

1. ต้องผ่านการ หมัก กลั่น บ่ม ในประเทศสก็อตแลนด์
2. ต้องทำมาจากข้าวบาร์เลยมอลต์, น้ำ และ ยีสต์
3. ต้องทำการกลั่นด้วยทองแดง แบบ Pot Still
4. ต้องบ่มอยู่ในถังไม้โอ๊ก ที่ประเทศสก็อตแลนด์เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี
5. ต้องบรรจุขวดที่ประเทศสก็อตแลนด์ และ มีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่น้อยกว่า 40%

ด้วยคุณสมบัติที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถันและใส่ใจรายละเอียดจึงทำให้ Single Malt Scotch Whisky ได้รับการยกย่องให้เป็นเครื่องดื่มระดับพรีเมียมแบบดั้งเดิมของประเทศสก็อตแลนด์ และกลายเป็นเครื่องดื่มที่ผู้คนทั่วโลกต่างเทใจให้
ความน่าหลงใหลของ Single Malt Scotch Whisky คือรสชาติสุดเฉพาะตัวจากแต่ละโรงกลั่นที่มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกันออกไป ทำให้เกิดความน่าค้นหาจนการดื่ม Single Malt Scotch Whisky ถือเป็นศิลปะสุดมีระดับอีกอย่างหนึ่งเลยทีเดียว

SINGLE MALT SCOTCH WHISKY’S REGIONS

ความน่าค้นหาและศิลปะแห่งการดื่มที่โลกของ Single Malt Scotch Whisky จะมอบให้กับผู้ชายอย่างเราอีกอย่างก็คือเขตที่มาของ Single Malt Scotch Whisky นั้น ๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องแบ่งเขตที่มาด้วย ? ตอบให้คลายสงสัยและเอาไว้ตอบให้คนอื่นฟังในวง Single Malt Scotch Whisky ได้อีกด้วยว่าแต่ละเขตที่มานั้นมีความโดดเด่นและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น Single Malt Scotch Whisky ที่ได้จากแต่ละเขตจึงมีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว โดยสามารถแบ่งเขตที่มาของ Single Malt Scotch Whisky ได้เป็น 5 เขต

  • Highland : Highland ถือเป็นเขตที่ใหญ่ที่สุดของ สก็อตแลนด์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือและตะวันตกของประเทศ เขตนี้มีโรงกลั่นตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ละโรงกลั่นล้วนมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมเฉพาะตัว โดยเอกลักษณ์ของ Highland นั้นวิสกี้ที่ได้มีกลิ่นหอม ๆ อวลของผลไม้ ดอกไม้ ไม้โอ๊ก และกลิ่นควันที่ไม่หนักมาก และด้วยความที่เป็นเขตที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดทำให้มีโรงกลั่นหลายโรงมาก แต่ละโรงกลั่นจึงมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ตัวอย่างแบรนด์ที่อยู่ในเขต Highland : Glenmorangie, Dalwhinnie, Oban
  • Speyside : Speyside เป็นเขตที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสก็อตแลนด์มีแม่น้ำที่ชื่อว่าแม่น้ำ Spey ไหลผ่าน ด้วยเหตุนี้เขตนี้จึงมีชื่อว่า Speysideแต่หากย้อนกลับไปในอดีตเขตนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของ Highland แต่เนื่องจาก Speyside เองก็มีโรงกลั่นของตัวเองอยู่จำนวนมาก โดยกำลังการผลิตวิสกี้นับเป็นประมาน 60% ของการผลิตวิสกี้ในประเทศสก๊อตแลนด์ ดังนั้นเขตนี้จึงแยกตัวออกมาจาก Highland สำหรับความโดดเด่นที่น่าสนใจของวิสกี้จาก Speyside คือมีรสชาติหวาน หอมน้ำผึ้งและวานิลลา เจือด้วยกลิ่นผลไม้แห้ง แอปเปิลเขียว ตัวอย่างแบรนด์ที่อยู่ในเขต Speyside : Macallan, Glenfiddich, Glenlivet
  • Lowland : เขต Lowland อยู่ทางใต้ของประเทศสก็อตแลนด์ ในปัจจุบันมีโรงกลั่นวิสกี้ที่ยังเปิดให้บริการอยู่เพียง 2 โรงกลั่นเท่านั้น สำหรับเอกลักษณ์ของเขตนี้คือวิสกี้จะมีกลิ่นและรสจะเบา ๆ หอมกลิ่นดอกไม้ จึงเหมาะมากสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มดื่มวิสกี้ เนื่องจากเป็นวิสกี้ที่ดื่มง่าย และมีกลิ่นควันน้อยเมื่อเทียบกับวิสกี้จากเขตอื่น ตัวอย่างแบรนด์ที่อยู่ในเขต Lowland : Glenkinchie, Auchentoshan
  • Islay : Islay เป็นเขตที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ทางตะวันตกของประเทศสก็อตแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นเขตที่มีดินอุดมสมบูรณ์และได้รับอิทธิพลจากทะเลมาช่วยในการบ่มวิสกี้ สำหรับเอกลักษณ์ของวิสกี้ที่ได้จากเขตนี้จะมีรสชาติเข้มข้น กลิ่น Peat Smoke ชัดเจน เจือด้วยไอทะเลและกลิ่นปลารมควัน ด้วยเอกลักษณ์เหล่านี้จึงทำให้วิสกี้เขต Islay ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มดื่มวิสกี้ แต่ใครที่อยากดื่มด่ำแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็บอกเลยว่าไม่ควรพลาด ตัวอย่างแบรนด์ที่อยู่ในเขต Islay : Ardbeg, Laphroaig, Lagavulin
  • Campbeltown : Campbeltown เป็นเขตที่ตั้งอยู่ในลักษณะเป็นเกาะทางทิศตะวันตกของประเทศสก็อตแลนด์ ซึ่งเขตนี้เคยมีโรงกลั่นอยู่มากกว่า 30 โรงกลั่น แต่ปัจจุบันปิดการให้บริการไป จนเหลือเพียง 3 โรงกลั่นเท่านั้น ส่วนเอกลักษณ์ของวิสกี้เขตนี้จะมีกลิ่นของ วานิลลา ท็อฟฟี่ เจือด้วยผลไม้แห้ง นอกจากนั้นยังมีติดกลิ่นควันและไอทะเลมาด้วย ตัวอย่างแบรนด์ที่อยู่ในเขต Campbeltown : Glengyle, Springbank
HOW TO PRESERVE SINGLE MALT SCOTCH WHISKY

ขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้ Single Malt Scotch Whisky มีรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นคือขั้นตอนการบ่ม โดยแต่ละโรงกลั่นก็มีกรรมวิธีการบ่มที่แตกต่างกันออกไป โดยการบ่มในถังไม้นั้นจะทำให้วิสกี้เปลี่ยนสีกลายเป็นสีน้ำตาลทอง รวมถึงเพิ่มรสชาติให้วิสกี้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น

การบ่ม Single Malt Scotch Whisky จะนิยมใช้ถังไม้โอ๊กที่ผ่านการบ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทอื่นมาก่อน เพื่อทำให้ Single Malt Scotch Whisky มีรสชาติที่แตกต่างน่าค้นหา สำหรับถังที่นิยมนำมาใช้หมักกันก็คือถังที่เคยหมัก American bourbon และ ถังที่เคยหมักไวน์ Sherry มาก่อน โดยถังที่เคยหมัก American bourbon มาก่อนจะทำให้ Single Malt Scotch Whisky มีรสชาติหวาน มีกลิ่นวานิลลา คาราเมล ในขณะที่ถังที่เคยหมักไวน์ Sherry มาก่อนจะให้รสชาติของผลไม้แห้ง แถมมีความเผ็ดของเครื่องเทศติดมาด้วย

WAYS TO ENJOY SINGLE MALT

  • NEAT : การดื่มแบบ Neat หรือการดื่มแบบเพียว ๆ เป็นการดื่มที่จะทำให้ผู้ชายอย่างเราเข้าถึงโลกแห่งกลิ่นและรสชาติของ Single Malt Scotch Whisky ได้อย่างเต็มที่มากที่สุด โดยสิ่งที่ผู้ชายอย่างเราต้องการสำหรับการดื่มแบบนี้ก็มีเพียงแก้ว จมูก และอย่าลืมลิ้มรสชาติของมันก่อนจะกลืนลงไป รับรองไม่มีผิดหวังแน่นอน
  • WATER : การดื่มแบบนี้เป็นการสัมผัสกับโลกของ Single Malt Scotch Whisky ในแบบที่ซับซ้อนขึ้นอีกระดับ โดยเป็นการดื่ม Single Malt Scotch Whisky ผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 โดยน้ำที่ผสมลงไปจะส่งผลให้กลิ่นแอลกอฮอล์เจือจางลง และเกิดการเปลี่ยนแปลงเนื้อสัมผัส ทำให้เราสามารถรับกลิ่นและความซับซ้อนเพิ่มไปอีกขั้น
  • ON THE ROCK : การดื่มแบบ ON THE ROCK เป็นการดื่มโดยการใน้ำแข็งก้อนใหญ่ 2-3 ก้อนลงไปใน Single Malt Scotch Whisky โดยการดื่มแบบนี้จะช่วยลดกลิ่นแอลกอฮอล์และการเบิร์นของแอลกอฮอล์
GLENMORANGIE SINGLE MALT SCOTCH WHISKY

ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วไม่อยากแค่อ่านอย่างเดียว แต่อยากสัมผัสโลกแห่งรสชาติของ Single Malt Scotch Whisky ด้วยตัวเองการเลือก Single Malt Scotch Whisky ที่ช่วยให้เราเพลิดเพลินกับการดื่มได้แน่ ๆ เป็นเรื่องที่ควรทำ โดย GLENMORANGIE SINGLE MALT SCOTCH WHISKY เป็น Single Malt Scotch Whisky ที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน

ด้วยความที่ Glenmorangie เป็น Single Malt Scotch Whisky จากเขต Highland จึงทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มก้าวเข้าสู่โลกของ Single Malt Scotch Whisky และ Glenmorangie ยังถือได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ผสมผสานระหว่างความชำนาญที่ส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่นตั้งแต่ปี 1843 และนวัตกรรมใหม่ที่ Glenmorangie นำสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการ Single Malt Scotch Whisky อยู่เสมอ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบ่มแบบ Extra matured โดยการที่นำ Single Malt ที่บ่มในถัง American bourbon มาบ่มต่ออีกครั้งในถังไวน์ Sherry, ถังไวน์ Port, และ ถังไวน์ Sauternes ซึ่งทำให้ Single Malt ของ Glenmorangie มีรสชาติลึกซึ้งน่าค้นหา

นอกจากนั้น Glenmorangie ยังมีหอกลั่นที่สูงที่สุดในประทศสก็อตแลนด์ (สูงเท่ากับยีราฟเลยนะ !) ทำให้ได้ Single Malt ที่รสชาติบริสุทธิ์ และมีความหนักแน่นของกลิ่นผลไม้และดอกไม้ซ่อนอยู่อย่างมาก

โลกของ Single Malt Scotch Whisky จึงเป็นโลกที่ไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังแน่นอน ทั้งความคลาสสิคที่จะยกระดับการดื่มของคุณให้เข้าถึงรสชาติแบบที่ผู้ชายไม่ควรพลาด ทั้งความเป็นเอกลักษณ์สุดพิถีพิถันจากโรงกลั่นในเขตต่าง ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญคนละแบบน่าค้นหา โดยเฉพาะ GLENMORANGIE SINGLE MALT SCOTCH WHISKY บนเขต Highland ถ้าไม่เริ่มลองก้าวเข้าไปดื่มด่ำโลก Single Malt Scotch Whisky สุดมีระดับวันนี้ รับรองว่าจะต้องพลาดอะไรดี ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line