Entertainment

God Save The Tupac แม้ตัวตาย แต่ตำนานไม่เคยจางหายไป

By: Thada June 17, 2016

เนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายครบรอบวันเกิดของสุดยอดแร็ปเปอร์ Tupac Amaru Shakur ซึ่งถ้าเขายังคงมีชีวิตอยู่ปีนี้เขาจะอายุครบรอบ 45 ปีพอดี แม้ว่าเขาจะจากเราไปมากกว่า 25 ปีแล้ว แต่ตำนาน West Side For Life ของเขาก็ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ เด็กรุ่นใหม่ๆ ก็ล้วนยังเอาเขาเป็น Idols  ปัจจุบันเพลงเก่าๆ ของ Tupac ก็ยังคงถูกรีรัน เอามา Master ใหม่และคงขายได้เรื่อยๆ และเพื่อเป็นการระลึกถึง Tupac วันนี้พวกเรา UNLOCKMEN จะขอเอาประวัติของ Tupac มาให้ได้รู้จักกัน

160616-tupac-5

Tupac Amaru Shakur เกิด 16 มิถุนายน ค.ศ. 1971 หรือมีอีกชื่อในวงการว่า 2Pac หรือ Makaveli เป็นแร็ปเปอร์ชาวอเมริกัน โดยเขาเกิดในย่าน East Halerm ซึ่งเป็นแหล่งเสื่อมโทรมใจกลาง New York พ่อแม่ของเขาเป็นกลุ่มกำลัง Black Panther Party หลังจากเขาเกิดได้เพียงไม่กี่เดือนแม่ของ Tupac ก็ถูกจับด้วยข้อหาเกี่ยวกับเคลื่อนไหวของกลุ่ม ทำให้ Tupac ต้องโตมากลุ่มกองทัพคนอื่นๆ ชีวิตของเขาอยู่กับเรื่องอาวุธ โจรกรรม ความรุนแรงตั้งแต่เด็กๆ

160616-tupac-13

จนมาถึงอายุ 12 เขาได้เข้าเรียน และทำให้ได้รู้จักศาสตร์ที่เรียกว่าละคร เพราะเขาได้เข้าไปแคสติ้ง และได้รับบท Travis ในละครเรื่อง A Rasing in th Sun ที่จะต้องเล่นยังโรงละคร Apollo Theater แล้วหลังจากนั้นครอบครัวของเขาก็ต้องย้ายไปยัง Baltimore ระหว่างที่อยู่ที่ Baltimore เขาต้องย้ายโรงเรียนถึงหลายครั้ง จนมาจบที่  Baltimore School for the Arts เขาศึกษาเกี่ยวกับบทกวี เพลงแจ๊ส

160616-tupac-15

ในระหว่างที่เรียนเขาได้รู้จัก Dana” Mouse” Smith และจุดเริ่มต้นของ Hiphop ก็เกิดขึ้น เพราะ Mouse ทำหน้าที่เป็นพาร์ทเนอร์คอย Beatbox ให้เขา Tupac แร๊ปจนชนะการแข่งขันมากมาย จนทำให้เขาได้รับการจดจำในฐานะเด็กที่ป๊อปปูล่าคนหนึ่งในโรงเรียน ด้วยอารมณ์ขัน ทักษะการแร๊ป รวมถึงนิสัยที่เข้ากับคนได้ง่าย

แต่แล้วเขาก็ต้องย้ายบ้านอีกครั้ง เมื่อครอบครัวเขาย้ายไปยัง Marin City , California บ้านสงเคราะห์ที่ห่างจากตัวเมือง California เขาก็ได้กลับไปเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียน Tamalpais และเลือกแผนกการละครเป็นวิชาเอกของเขา และในชั้นเรียนเขาได้เขียนกระดาษเกี่ยวกับการเอาชนะอุปสรรค ซึ่งมันเสียดสีกินใจอย่างมาก จนไปเข้าตา Leila Steinberg ก่อนจะเซ็นสัญญากับ Atron Gregory โดยเขาทำหน้าที่เป็น Backup Dancer ให้กับกลุ่ม Digital Underground

Tupac เริ่มต้นในฐานะศิลปินฝึกหัด เขาเริ่มบันทึกเสียงครั้งแรกในปี 1987 แต่เพลงเหล่านั้นไม่เคยได้วางจำหน่าย จนมาถึงตอนที่เขาได้โชว์พรสววรค์ด้านการแร็ปให้กับ Digital Undeground ในเพลง  Same Song

https://www.youtube.com/watch?v=3cyfV7mllWo

160616-tupac-3

หลังจากนั้น Tupac ก็ยังคงทำงานร่วมกับ Digital Underground ในชุด Ep ก่อนจะถึงคราวฉายเดี่ยวของเขาในชุด 2Pacalypse แม้มันจะไม่ได้การตอบรับที่มากมายจากแฟนเพลงทั่วไป แต่สำหรับนักแร็ปใต้ดิน รวมถึงนักวิจารณ์ต่างยกย่อง Tupac ว่าเป็นแร็ปเปอร์ที่น่าจับตามอง และเป็นแรงผลักดันให้ศิลปินยุคใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Nas ,Eminem

160616-tupac-10

ในขณะเดียวกัน ก็มีกระแสต่อต้านเกี่ยวกับเพลงของเขา เพราะมันไปกระตุ้นให้เรื่องราวของอาชญกรรม เสียดสีสังคม ซึ่งนาย Dan Quayle (เคยดำรงตำแหน่งรองประธานธิปดีสมัย Geoge W. Brush) ที่ ณ ขณะนั้นเป็นทนายหนุ่มจากเท็กซัส บอกว่าเพลงของ Tupac มีแต่เรื่องของความรุนแรง จึงไม่มีความจำเป็นเลยสักนิดที่ต้องวางจำหน่าย และ Tupac ก็สวนกลับไปว่าเขาแค่อยากจะแร็ปบอกเล่าเรื่องราวชีวิตจริงที่เด็กผิวสีคนหนึ่งต้องเจอ

160616-tupac-4

หลังจากนั้นชื่อเสียงของ Tupac ก็เริ่มมีมากขึ้นจนมาถึงอัลบั้มชุดที่ 2 ของเขา Strictly 4 My N.I.G.G.A.Z ที่วางขายในปี 1993 อัลบั้มนี้เปิดตัวได้ดีมากๆ ขึ้นไปอยู่อันดับ 24 บน Billboard ในอัลบั้มนี้เขาก็ได้จัดเต็มเนื้อหาเพลงเกี่ยวกับเรื่องการเมือง และสังคม ถึง 16 เพลง

160616-tupac-6

ชื่อเสียงของ Tupac ก็ดังจนสามารถสร้างกลุ่มแก๊งค์ของตัวเองในชื่อ Thug Life อันประกอบด้วย Big Syke , Macadoshis , Mopreme Shakur และ Rated R และร่วมกันออกอัลบั้ม Thug Life : Volume 1 มีเพลงฮิตๆ อย่าง  Pour Out a Little Liquor แต่ Tupac ก็ไม่ค่อยได้ขึ้นร่วมแสดงสดกับกลุ่ม Thug Life มากหนัก เพราะปัญหาขัดแย้งระหว่าง Gangsta Rap ( West Side กับ East Coast ) ซึ่ง Tupac ตกเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง

160616-tupac-7

จนมาถึงอัลบั้มที่ 3 Me Against The World ว่ากันว่านี้คือผลงานชิ้นที่ดีที่สุดของ Tupac และหนึ่งในอัลบั้มที่ดีที่สุดตลอดกาลของวงการฮิปฮอป ด้วยยอดขาย 3,524,567 ก๊อปปี้ มีเพลงดังอย่าง Dear Mama , Old School , So Many Tears, Temptation และได้รับรางวัลอัลบั้ม Rap ยอดเยี่ยมในปี 1996 ของ Sould Train Music Awards

160616-tupac-9

และก็มาถึงอัลบั้มสุดท้ายในขณะมีชีวิตของเขาก็คือ All Eyez on Me  ที่เริ่มบันทึกในเดือนตุลาคม 1995 และวางจำหน่ายเดือนกุมภาพันธ์ 1996 อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่เรียบง่ายแต่สมบูรณ์แบบ มีเพลงฮิตอย่าง How Do U Want It , California Love และเขาได้รางวัล Soul Train R&B/Soul or Rap Album of the Year Award 1997  และ Favorite Rap/Hip-Hop Artist at the 24th Annual American Music Awards. เรียกว่าเป็นปีที่พีคที่สุดของ Tupac ในการทำงานของเขา

https://www.youtube.com/watch?v=nlvS_Uk5yJM

160616-tupac-2

สิ่งที่ทำให้ Tupac โด่งดังนอกจากเรื่องเพลงแล้วก็เป็น สไตล์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ว่าจะเป็นการเจาะจมูกเพชร ผูก Bandanas ที่หัว และสไตล์การแต่งตัวที่เป็นต้นแบบให้กับฮิปฮอปในปัจจุบัน ที่ไม่ว่า Tupac จะตายไปแล้วกี่ปี เขาก็คือสัญลักษณ์ของความเท่ใน Hip Hop ยุครุ่งเรือง

160616-tupac-11

อีกประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Tupac ก็คือปัญหาขัดแย้งระหว่าง West side กับ East side ที่เหมือนว่า Pac กับ Notorious B.I.G จะเป็นสัญลักษณ์ของแต่ละฝั่ง เหตุการณ์ทั้งสองฝ่ายเริ่มดุเดือดขึ้น เมื่อ Tupac ถูกยิงคา studio ที่ทำงานเพลวอยู่ถึง 5 นัดรวด ในขณะที่ Pac พุ่งเป้าผู้อยู่เบื้องหลังว่าต้องเป็นฝีมื Biggie แน่นอน BIG ก็เลยจัดการปล่อยเพลง Who Shot Ya ออกมาซะเลย สงครามความเกลียดชังระหว่าง West vs East ก็รุนแรงขึ้น

หลังออกจากโรงพยาบาล สิ่งแรกที่ Tupac ทำคือการพุ่งไปห้องอัดและตอบโต้ด้วยเพลง Bomb First และ  Hit ‘Em Up ที่ด่าทอเกี่ยวค่ายเพลง Bad Boy และตัว BIG โดยในเพลง Hit ’em Up  มีท่อนที่บอกว่า “5 shots couldn’t drop me’ I took it and smile” รวมถึงด่ากราดแบบระบุชื่อ ทำให้เหตุการณ์มันปะทุยิ่งกว่าการแข่งขันเรื่องเพลง แต่เหมือนเป็นสงครามกลางเมืองที่มีอุดมการณ์ต่างกัน ไม่เพียงแค่พวกเขา เหล่าแฟนเพลงก็แยกตัวเป็น West กับ East อย่างชัดเจนเหมือนกันตามไอดอลของพวกเขา

160616-tupac-12

ทั้งคู่ก็ยังสาดเนื้อเพลงด่าทอกันไม่หยุด โดยที่ BIG มุ่งเป้าไปที่ Tupac อย่างชัดเจนในเพลง Long Kiss Goodnight ซึ่งเกี่ยวกับเนื้อหาที่ Tupac ไปให้สัมภาณณ์กับ  XXL

160616-tupac-1

ภาพสุดท้ายของ Tupac

และก็มาถึงจุดจบของราชา Rap เพราะระหว่างที่ Tupac กำลังออกจากการชม Mike Tyson ชกที่ Las Vagas ก่อนจะถูกกะหน่ำยิงคารถ BMW 7-series โดยกลุ่มชายผิวดำที่นั่งรถคาดิลแล็คสีอ่อน Tupac โดนกระสุน 4 นัด ก่อนเขาจะไปเสียชีวิตที่ โรงพยาบาลในอีก 7 วันหลังจากนั้นและร่างของเขาก็ถูกนำไปเผาทันทีหลังจากเสียชีวิตหนึ่งวันโดยที่ไม่มีการสืบสวนใดๆ

160616-tupac-8

ทิ้งไว้แต่เพียงปริศนาแงะทฤษฎีมากมายว่า Tupac ยังไม่ตาย  แต่เขาอาจจะอยากหนีออกจากชีวิตแบบนี้แล้ว เพราะปกติ Tupac จะสวมชุดเกราะกันกระสุนตลอดเวลาไม่ว่าจะไปไหน แต่วันนั้นเขาไม่ได้ใส่มัน แล้วหลังจากการเสียชีวิตของเขาเพียง 2 เดือน ทางค่ายเพลงก็มีการออกเพลงที่เคยอัดทิ้งไว้ มาเป็นอัลบั้มที่ 5 The Don Killuminati : The 7 Day Theory ถือว่าอัลบั้มสุดท้ายของตัว Tupac และสงครามระหว่าง West กับ East ก็มาเบาบางลง หลังจากการจากไปของ Pac, Notorious B.I.G ก็โดนยิงเสียชีวิตขณะขับรถอยู่ใน LA, California เป็นอันจบตำนาน 2 Hip Hop Legend

นี่ก็เป็นเรื่องราวของ Tupa Shakur ตำนาน Hiphop ที่ทำให้เรารู้ว่า The Legend Never Dies เพราะทุกวันนี้เขาก็ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นใหม่ๆ และ  UNLOCKMEN เชื่อว่าแม้จะผ่านไปอีกสัก 100 ชื่อของเขาก็ยังจะคงอยู่ เพราะเขาคือหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการเพลงทั่วโลก

160616-tupac-16

 

 

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line