FASHION

Parka อีกหนึ่งตำนานแฟชั่นที่เกิดขึ้นจากเครื่องแบบในสนามรบสู่วัฒนธรรม sub-culture

By: Thada December 14, 2017

หากเราย้อนกลับไปยังพื้นฐานความต้องการของมนุษย์นั้น เสื้อผ้า เป็นเพียงเครื่องนุ่งห่มเพื่อให้ร่างกายของเรารู้สึกอบอุ่นตอบสนองกับการใช้งาน มากกว่าคำนึงถึงเรื่องของความสวยงาม แต่เมื่อเวลาผ่านไปทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างความสวยงามกับประโยชน์ใช้สอยเข้าด้วยกัน จึงเกิดเป็นคำว่าแฟชั่น

ซึ่งหลาย ๆ ครั้งแฟชั่นที่สวยนั้นอาจจะไม่ใช่ของที่ดี หรือแฟชั่นที่ดี อาจจะไม่ตอบสนองการใช้งานก็เป็นได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า เสื้อผ้าบางประเภทสามารถเอาชนะกาลเวลา ถูกออกแบบมาเป็นร้อยปี แต่ก็ยังคงความ เท่ และร่วมสมัยอยู่ตลอดเวลา โดยสิ่งที่เรากำลังพูดถึงนี้คือ “Parka” เสื้อกันหนาวที่มีดีไซน์สวยงาม และเคยผ่านการเป็นเครื่องแบบกองทัพ รวมถึงเสื้อผ้าของชนเผ่ามาแล้ว แม้ว่าจะไม่ค่อยเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราก็ตาม แต่วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ก็อยากจะหยิบเอาประวัติของเสื้อ Parka มาเล่าสู่กันฟัง

หลายคนอาจจะจดจำภาพของเสื้อ Parka ในฐานะเครื่องแบบของทหาร หรือเครื่องแต่งกายชาว Mods แต่อันที่จริงแล้วเสื้อตัวนี้มีประวัติที่ยาวนานกว่านั้นมาก

เพราะหากเราย้อนไปยังจุดเริ่มต้น แม้จะยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าต้นกำเนิดของ Parka มาจากไหน แต่มีพบหลักฐานที่พอจะอ้างอิงได้ เกิดขึ้นอยู่สองแห่งสำคัญด้วยกัน คือในราวทศวรรษที่ 20 ชาว Kalaallisut (ชนเผ่าหนึ่งของเอสกิโม) ได้สวมเสื้อที่เรียกว่า anorak ซึ่งมีลักษณะเป็นเสื้อคลุมตัวหนาทำจากขนสัตว์ ไว้ใช้เพื่อปกป้องร่างกายจากอากาศอันสุดแสนจะหนาวเย็น

ส่วนหลักฐานอีกแหล่งกำเนิดหนึ่งของเสื้อ Parka คือชนเผ่า Caribou Inuit ที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ แคนนาดา พวกเขาสวมใส่เสื้อคลุมที่สร้างจากขนสัตว์ และทาด้วย fish oil เพื่อให้มีคุณสมบัติกันน้ำ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าจุดเริ่มของทั้งคู่เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยในการป้องกันอากาศหนาวเย็นอย่างแท้จริง ซึ่งในสมัยก่อนอาจจะยังไม่ได้มีลักษณะเป็นเสื้อ Parka ดีไซน์สวยงามอย่างเช่นทุกวันนี้

ก่อนที่ในเวลาต่อมาเสื้อ Parka ได้ถูกนำไปใช้ในกองทัพสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งมีการดัดแปลงให้เสื้อเป็นสีกากี ติดขนเฟอร์บริเวณฮู้ด และดีไซน์ออกมาคลุมเข่าเพื่อช่วยให้ทหารมีเครื่องแบบที่ปกป้องร่างกายจากอากาศที่หนาวระดับติดลบ เสื้อ Parka นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของกองทัพ เพราะเป็นเครื่องแบบที่ตอบโจทย์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจำนวนกระเป๋าที่มีอยู่อย่างมากมาย จนสามารถเก็บกระสุน อาหาร และยาเวชภัณฑ์ได้อย่างครบถ้วน จึงทำให้มันเป็นเครื่องที่เหมาะแก่การสวมใส่ยามออกรบในสภาวะอาการหนาวเย็นจัด

กองทัพสหรัฐอเมริกายังคงพัฒนาเครื่องแบบ Parka อย่างต่อเนื่อง เพราะหลังจากจบสงครามโลกครั้งที่สอง พวกเขายังมีสงครามเกาหลี ซึ่งมีภูมิอากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ทำให้พวกเขาผลิตเสื้อ Parka รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Fishtail ออกมา ซึ่งจะมีรหัสของแต่ละรุ่น ตั้งแต่ EX-48 , M-48 , M-51 และ M-65 โดยรหัสดังกล่าวมาจาก M คือ Military และตัวเลขคือปีที่ผลิตขึ้น

แต่ซีรีย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้น M-51 ซึ่งทำมาจากผ้าฝ้าย sateen และลดในสิ่งที่ไม่จำเป็นออกอย่างเช่นขนเฟอร์ เนื้อผ้ามีขนาดบางและเบาลง จึงทำให้ M-51 มีราคาถูกกว่า M-48 และเมื่อพวกเขาผลิตรุ่น M-65 ออกมาบรรดาเสื้อตระกูล M-51 ก็ได้ถูกแลขายในราคาสุดถูก

จนเป็นที่นิยมสำหรับชาว Mods ในประเทศอังกฤษนำไปตกแต่งติด patch วาดลวดลายเป็นของตัวเองสวมใส่ขณะขับรถสกู๊ตเตอร์เพื่อกันลม และป้องกันไม่ให้อะไรมาเลอะเสื้อผ้าด้านในส่งผลให้เสื้อ Parka ได้รับความนิยมในวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จนเสื้อ Parka แทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของชาว Mods ควบคู่กับรถเวสป้าเลยก้ว่าได้ ความนิยมของเสื้อ Parka กูเหมือนจะยิ่งทวีคูณขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลางทศวรรษ 90s เมื่อ Liam Gallagher หัวหอกแห่งวงดนตรียอดนิยม Oasis มักจะใส่เป็นเสื้อ Parka ตัวโปรดระหว่างขึ้นคอนเสิร์ต รวมถึงในชีวิตประจำวัน จนกระทั่งเหล่าดีไซน์เนอร์ทั้งหลายต่างหยิบจับเอาเสื้อ Parka เป็นส่วนหนึ่งของโลกแฟชั่น ในเวลาถัดมา แม้จะมีการนำมาดัดแปลงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์มากขึ้นแต่สุดท้ายคลาสสิคของมันก็ยังครองใจคนทั่วโลกจนถึงปัจจุบันนี้

ทั้งหมดนี้ก็เป็นประวัติคร่าว ๆ ของอีกหนึ่งไอเทมในตำนาน ที่แม้อาจจะไกลตัวหนุ่มไทยไปเสียหน่อย แต่สำหรับ UNLOCKMEN เราขอคารวะให้มันเป็นอีกหนึ่งไอเทมคลาสสิคตลอดกาล ไม่แพ้เสื้อ Bomber Jacket หรือรองเท้า Converse เลยทีเดียว ซึ่งถ้าเกิดใครสนใจอยากจะลองหามาใส่ วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ยังมี Style Guide เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อใช้เป็นไอเดียในการใส่ไปเที่ยวหน้าหนาวนี้ โดยการนำเสื้อ Parka มาสวมทับกับเสื้อยืดง่าย ๆ สักหนึ่งตัว จากนั้นเลือกเป็นกางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบ อาจจะเพิ่มลูกเล่นด้วยหมวกแก๊ปสักใบเพื่อให้มีความร่วมสมัย เพียงเท่านี้ก็จะทำให้คุณได้ลุคง่าย ๆ สไตล์ชาว mods

ที่มาภาพ Pinterest

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line