Life

SURVIVAL: รับมือโรคเครียดสะสมจากชีวิตประจำวัน ที่ทำหลายคนป่วยแบบไม่รู้ตัว

By: Chaipohn July 24, 2019

ท่ามกลางกระแสที่หลายคนพูดถึงชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ชีวิตช้า ๆ สบาย ๆ ที่หลาย คนจินตนาการเอาไว้ แต่ในความเป็นจริงชีวิตประจำวันของมนุษย์เมืองอย่างพวกเรา ต้องเจอกับไลฟ์สไตล์เครียด ๆ กันเกือบทุกวัน เริ่มตั้งแต่ออกจากบ้านไปที่ทำงาน ต้องเจอกับการจราจรติดขัดทำให้หงุดหงิด เมื่อถึงออฟฟิศก็ต้องเจอกับงานที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้เรายุ่งกันทั้งวันกับอีเมลเจ้านายสลับกับลูกค้าที่แข่งกันทวงงานอย่างดุเดือด ไหนจะต้องแข่งกับตัวเลขเป้าหมายที่บริษัทตั้งเอาไว้เพื่อให้มั่นใจว่าโบนัสงาม ๆ สิ้นปี รวมถึงตำแหน่งและฐานเงินเดือนจะขยับปรับขึ้นตามที่ตั้งใจ

ทั้งหมดนี้ทำให้เราไม่มีเวลาพักผ่อนดูแลร่างกายอย่างที่ควรจะทำ หรือแม้แต่จะทานอาหารให้ตรงเวลาและครบ 5 หมู่ยังยากเลยใช่ไหมครับ

ถ้าอ่านถึงตรงนี้แล้วคุณรู้สึกว่านี่มันชีวิตจริงชัด ๆ แสดงว่าคุณมีความเสี่ยงเป็นโรคเครียดอย่างไม่รู้ตัวครับ

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจอาการและความอันตรายของมันกันก่อนครับ โดยสรุปแล้ว ความเครียดคืออะไรก็ตามที่เกิดขึ้นแล้วกระทบกับชีวิตอันสงบสุขของเราทำให้รู้สึกไม่ สบายใจ แต่ความเครียดเองก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีของความเครียดคือความรู้สึกตื่นเต้นและความรู้สึกสะใจเมื่อเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ได้ ถ้าชีวิตนี้ไม่มีความเครียด มนุษย์คงมีชีวิตที่เรียบง่ายและน่าเบื่อจนเกินไป ส่วนความเครียดที่เกิดขึ้น ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะกลายสภาพเป็นความเครียดที่ส่งผลเสียต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งในชีวิต ประจำวันของพวกเรา ความเครียดดังกล่าวเกิดขึ้นตลอดเวลา กลายเป็นโรคเครียดเรื้อรัง (Chronic Stress) ในที่สุดครับ ทีนี้ลองมาเช็กสัญญาณเหล่านี้ดูกันว่าคุณกำลังเป็นโรคเครียดอยู่หรือไม่?

1. นอนหลับยาก – อาการยอดฮิตที่เป็นกันเยอะคือข่มตานอนไม่ค่อยหลับ เพราะในหัวจะคิดภาพที่ทำให้ เครียดซ้ำ ๆ หรือคิดถึงเรื่องกังวลใจที่ยังไม่เกิดขึ้น

2. ขี้กังวล – ในเวลาปกติระหว่างวันไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ในหัวจะคิดถึงแต่ผลเสียหรือเรื่องเลวร้ายในทุก สถานการณ์ ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้

3. ใจร้อน หงุดหงิดง่าย – ข้อนี้หลายคนเป็นแต่ไม่รู้ตัว เวลาขับรถแล้วเจอคนขับรถไม่ถูกใจ หรือแม้แต่ตอนเล่น Social Network แล้วเจอคนตอบไม่ถูกใจ จะบันดาลโทสะและตอบโต้กลับไปอย่างง่ายดาย เรียกว่าใครทำ อะไรก็ไม่ถูกใจไปหมด

4. น้ำหนักขึ้น / น้ำหนักลด กว่าปกติ – เมื่อมีความเครียด บางคนจะแสดงออกด้วยการกินขนมเยอะกว่าปกติ ส่งผลให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไป ทำให้น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางคนอาจจะเครียดแล้วกินไม่ลง ทำให้น้ำหนักลดลง จึงจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่สำคัญในหลาย ๆ ด้าน

5. อ่อนเปลี้ยเพลียแรง – ความเครียดที่สะสมยาวนาน หรือ Chronic Stress ทำให้ร่างกายหลั่งสารสำคัญ ๆ ออกมาอย่างไร้การควบคุม เช่น Cortisol, Norepinephrin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเมื่อเกิด ความเครียด และเมื่อหลั่งออกมามาก ๆ เข้า จะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าไปโดยที่เราไม่รู้ตัว

6. ซึมเศร้า – ความซึมเศร้ากับความเครียดเป็นของคู่กัน เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าอารมณ์มืดหม่นตลอดเวลา แสดงว่าในใจอาจกำลังเครียดสะสมอย่างไม่รู้ตัว

7. ปวดหัวเรื้อรัง – อาการยอดฮิตเมื่อเรามีความเครียดมาก ๆ คือการกุมขมับ และถ้าเป็นมาก ๆ เข้า ก็จะเข้าสู่ อาการไมเกรนได้ในที่สุด

8. เหงื่อออกมาก – เมื่อเกิดความเครียดจะทำให้ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น จึงส่งผลทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ร่างกายเลยขับเหงื่อออกมามากกว่าปกติ ยิ่งถ้าคุณมีความกดดันก็จะยิ่งทำให้เหงื่อไหลออกมากถึงแม้ว่าคุณจะไม่รู้สึกร้อนก็ตาม

9. พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ลง – หลายคนมีความเครียดแล้วไม่รู้จะไปแสดงออกที่ไหน หรือในกรณี ผู้ชายเมืองอย่างเราต้องบอกว่า ไม่มีเวลาจะระบายออก หลายคนจึงหันไปหาทางทำให้สบายใจเช่น ดื่ม เหล้า สูบบุหรี่ เล่นการพนัน หรือใช้เงินฟุ่มเฟือย

10. ป่วยง่าย ภูมิต้านทานต่ำ – ถ้าร่างกายเริ่มป่วยง่าย ป่วยบ่อย เป็นหวัด เป็นไข้ เจ็บคอ ถี่ ๆ เป็นอีกสัญญาณ ยอดฮิตที่มากับอาการเครียดเรื้อรัง

ถ้าคําตอบคือใช่มากกว่า 5 ข้อ แปลว่าคุณมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเครียดโดยไม่รู้ตัว และควรต้องเริ่มดูแลตัวเองทันทีครับ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามหนักกว่าที่เป็นอยู่ เช่นยิ่งเครียดยิ่งนอนไม่หลับ ร่างกายก็จะยิ่งอ่อนเพลีย ซึ่งมีผลวิจัยชี้ว่า หากร่างกายเกิดอาการเครียด และอ่อนเพลีย แสดงว่าเราได้รับวิตามินบี วิตามินซี โพแทสเซียม แมกนีเซียม ในปริมาณที่น้อยเกินไป ทำให้ร่างกายรับมือกับโรคเครียดสะสมได้ไม่ดีพอ โดยวิตามิน B และ โพแทสเซียม ที่มีความสําคัญในการสร้างพลังงาน ลดอาการเพลียและอาการเหนื่อยล้า รวมถึงสารอาหารที่คอยช่วยรับมือกับความเครียด เช่น วิตามิน C แมกนีเซียม และซิงค์เป็นต้น

การรับมือกับโรคเครียดสะสมนั้นฟังดูไม่ยาก แต่ด้วยไลฟ์สไตล์อันยุ่งเหยิงทําให้เราไม่มีจังหวะเริ่มลงมือสักที เช่น นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน, ตัดใจไม่เปิดคอมฯ ทํางานเมื่อถึงบ้าน และแบ่งเวลาไปออกกําลังกายแบบคาร์ดิโอที่ใช้เวลาไม่นานมากนัก, นั่งฟังเพลงที่คุณชื่นชอบ เพราะดนตรีบําบัดมีผลวิจัยรองรับ มากมายว่ามีประโยชน์ในการช่วยกําจัด ความเครียด ฟังดูง่าย แต่เชื่อหรือไม่ว่าผู้เขียนเองยังไม่มีเวลาทำได้เลยเช่นกัน

ถ้าวิธีที่กล่าวไปยังดูยากอยู่สําหรับชีวิตประจําวันที่ยุ่งเหยิงอีกทาง เลือกหนึ่งที่อาจจะเหมาะกับคนไลฟ์สไตล์อย่างเรา คือการทานอาหารที่อุดมไปด้วย วิตามิน B รวม ที่พบมากในปลา นม และรำข้าว, วิตามิน C พบมากในผลไม้รสเปรี้ยว, โพแทสเซียม พบมากในถั่วขาว ผักโขม มันฝรั่ง, แมกนีเซียม พบมากในปลา หอย อัลมอนด์  และซิงค์ พบมากในหอยนางรม ไข่  ซึ่งทั้งหมดนี้จะ เรียกว่าเป็นกลุ่มวิตามิน และแร่ธาตุที่เหมาะกับคนทํางานอย่างเรามากที่สุดก็ว่าได้ แต่การจะทานอาหารให้ได้ วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้ครบก็คงต้องกินกันมือใหญ่โต เพราะอยู่ในอาหารคนละประเภท ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ คือการเลือกทานวิตามินและแร่ธาตุเสริม พร้อม ๆ กับการ ทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยให้ร่างกาย รับมือกับความเครียดและความอ่อนเพลียได้ดี มากยิ่งขึ้นครับ

Tip : การเลือกวิตามินเสริมให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรเลือกยี่ห้อที่บรรจุในขวดแก้วสีชาหรือขวดแก้วทึบแสงเพราะวิตามินนั้นสลายตัวได้ง่ายเมื่อโดนแสง และควรเลือกแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือได้รับความไว้วางใจ ได้มาตรฐานการผลิตระดับสากลครับ

 

 

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line