Guide

รู้จักความแตกต่างเพื่อรับมืออาการ HANGOVER จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิด

By: HYENA January 2, 2018

เราทุกคนเคยได้ยินกันอยู่แล้วว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นั้นเปรียบเสมือนน้ำเปลี่ยนนิสัย เพราะจากบางคนที่เราเห็นว่าติ๋ม ๆ นิ่ง ๆ พอกระดกเหล้าเข้าปากไปในปริมาณที่เยอะเกินงาม ก็กลับกลายเป็นคนกล้าแสดงออก บางคนก็กลายเป็นคนที่ก้าวร้าว หรือบางคนที่เคยสนุกสนานเฮฮาร่าเริง อยู่ ๆ กลับกลายเป็นคนเศร้าร้องไห้สะอึกสะอื้นก็มีเช่นกัน สันนิษฐานเหล่านี้หนักข้อกันจนถึงขั้นที่มีคนนำไปจำแนกแยกเป็นยี่ห้อกันด้วย อย่างเช่น ดื่มเหล้ายี่ห้อนี้ แล้วอยากมีเรื่อง หรือดื่มเหล้าอีกยี่ห้อแล้ว มีอาการอยากโทรหาแฟนเก่า อะไรก็ว่ากันไป

แต่ความจริงแล้วยังไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ แม้กระทั่งวิทยาศาสตร์ ว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิด หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดเดียวกัน แต่ต่างยี่ห้อ จะทำให้แต่ละคนเรามีอาการร่างสองร่างสามที่แตกต่างกันได้  แต่ถ้าหากพูดถึงอาการ Hangover ร่องรอยของความสนุกที่มากเกินรับไหวหลังดื่ม หรือที่เรียกว่าอาการเมาค้างล่ะก็ อันนี้สิ รับรองว่ามีความแตกต่างกันตามสิ่งที่คุณได้ดื่มเข้าไปจริงแท้และแน่นอน

วันนี้เราจึงได้นำเอาเรื่องที่น่าสนใจของอาการเมาค้างจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิดมาให้ชาว UNLOCKMEN ทุกคนได้รู้จักเพื่อรับมือกันไว้ สำหรับใครที่มีเครื่องดื่มแก้วโปรด และสำหรับคนที่สงสัยว่า ทำไมดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้ทีไร ตื่นขึ้นมาเหมือนกับว่าร่างกายมันจะแหลกสลายทุกที  บทความนี้จะทำให้คุณได้คำตอบอย่างแน่นอน

Dark Liquors: Whiskey, Tequila, Dark Rum

เริ่มต้นกันด้วยชนิดเครื่องดื่มที่เรียกว่า Dark Liquors อย่าง Whiskey, Tequila หรือ Dark Rum กันเป็นอันดับแรก เพราะเขาว่ากันว่า เครื่องดื่มที่อยู่ในหมวดหมู่ Dark Liquors นี่แหละ ที่จะทำให้คุณมีอาการเมาค้างหนักหน่วงที่สุดในวันถัดมา

ความรุนแรงของการเมาค้างนั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณของสิ่งที่เรียกว่า ‘Congeners’ หรือ Complex Organic Molecules เป็นตัวกำหนดสีและกลิ่นของเครื่องดื่มที่เราได้ดื่มเข้าไป ซึ่งไอ้สิ่งที่ว่านี้มันจะเข้าไปบ่มหมักตัวเองต่อภายในร่างกายของคุณพร้อม ๆ กับแอลกอฮอล์ที่ไหลผ่านลำคอเข้าไป โดยมี Methanol ซึ่งร่างกายจะกำจัดทีหลังสุดเป็นสารส่วนผสม และเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอาการ Hangover นั่นเอง

ทางด้านของสีของเครื่องดื่ม ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บอกได้ว่า ความหนักหน่วงของมันมีมากแค่ไหน ยกตัวอย่างเหล้าสีเข้มอย่าง Bourbon นั้น มีปริมาณ Congeners อยู่ในตัวเองมากกว่าปริมาณ Congeners ที่อยู่ในเหล้าอย่าง Vodka ถึง 37 เท่าเลยทีเดียว

มีสถิติออกมาว่า คนที่ดื่มเครื่องดื่มประเภท Dark Liquors จำนวนร้อยละ 33 วันรุ่งขึ้นจะมีอาการ Hangover ตามมาอย่างแน่นอน แตกต่างกันกับคนที่ดื่มเครื่องดื่มใส ๆ อย่าง Vodka ที่ 100 คน จะมีอาการ Hangover ตามมาหลอกหลอนเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น

ดังนั้น หากใครที่อยากดื่ม แต่รู้ตัวว่า พรุ่งนี้มีธุระสำคัญ​ หรือมีนัดหมายอะไรที่ไม่สามารถทิ้งตัวนอนยาว ๆ ได้ตลอดวันแล้วล่ะก็ ขอให้หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภท Dark Liquors จะดีกว่า ถ้าไม่อยากต้องทำธุระไปพร้อม ๆ กับอาการเมาค้างที่แสนทรมานในวันรุ่งขึ้น

 

Light Liquors: Vodka, Gin, Light Rum

ถึงแม้จะถูกจัดอยู่ในหมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภท Light Liquors แต่เหล้าอย่าง Vodka, Gin และ Light Rum ก็สามารถก่อให้เกิดอาการเมาหนักขณะดื่มได้ไม่แพ้ประเภทแรก แถมอาจจะเมาเร็วกว่าด้วยซ้ำไป แม้มันจะทิ้งอาการ Hangover ไว้ให้เราเหมือนกัน แต่มันจะไม่รุนแรงมากนักเมื่อเทียบกับ Dark Liquors

ถือเป็นข่าวดีของคนชื่นชอบความเมามันส์ขณะปาร์ตี้ แต่ไม่ชอบอาการเมาค้างตามมาในวันรุ่งขึ้น เพราะมีการเปรียบเทียบเครื่องดื่มชนิดนี้ให้เห็นภาพกันว่า การดื่ม Vodka 2 แก้ว อาจจะเพียงพอทำให้คนเรารู้สึกร้อนผ่าวซู่ซ่านั้น ไม่ได้เป็นเพราะความแรงของมันเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นเพราะกลิ่น รวมไปถึงรสชาติที่บาดคอ ซึ่งแตกต่างกับ Whisky ที่มีการผสม mixers ให้ดื่มง่าย กลมกล่อมกว่า แต่ถ้าหากเทียบกันจริง ๆ แล้ว การดื่ม Vodka กับ Whiskey ในปริมาณที่เมาเท่ากันนั้น Whisky จะทำให้คุณพบกับอาการ Hangover ตามมาในวันถัดไปรุนแรงกว่า Vodka อย่างแน่นอน

 

Beer

มาถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดฮิตในบ้านเรา (และทั่วโลก) อย่าง Beer กันดีกว่า ด้วยความที่ Beer เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอฮอล์ที่มีความซ่าคล้ายกับน้ำอัดลม มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูง ทำให้เกิดก๊าซในกระเพาะอาหารเมื่อคุณดื่มเข้าไปอีกด้วย ดังนั้น มันจึงทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัว บางคนอาจจะรู้สึกท้องอืด ท้องเฟ้อ และก๊าซยังทำให้กระเพาะขยายตัวขึ้น ทำให้ไปเบียดพื้นที่ของกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดการกักเก็บปัสสาวะได้น้อยลง จึงต้องลุกไปฉี่อยู่บ่อย ๆ นั่นเอง

หลายคนอาจจะไม่เชื่อเรื่อง ‘Beer Belly’ หรือการลงพุงจากเครื่องดื่มเบียร์ แต่นักวิจัยบอกเลยว่า มันมีจริง เพราะตับของเราไม่สามารถกรอง Fat จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ เราจึงสามารถลงพุงได้จากทุกประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพียงแต่เราจะลงพุงจากเบียร์ง่ายกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่น เพราะมีแคลอรี่มากกว่า

ด้านอาการ Hangover การดื่มเบียร์ทำให้เกิดการปวดหัวเนื่องได้เช่นกัน เนื่องจากเบียร์ก็มีส่วนผสมของ Congeners อยู่ในตัว มาพร้อมความดื่มง่ายและพร้อมดื่ม เวลาติดลมจึงมักจะดื่มในปริมาณที่เยอะมากโดยไม่รู้ตัว รวมถึงเบียร์บางประเภทเช่น Craft Beer หรือ Stout แบบ home-brew ที่อาจจะมี Methanol ในปริมาณมากกว่าปกติ เมื่อเมาจอดับจากการดื่มเบียร์ เราจึงพบกับอาการปวดหัวอย่างหนักเป็นประจำ

วัยรุ่นบางคนอาจจะบอกว่า ตั้งแต่ดื่มมาไม่เห็นจะมีอาการเมาค้าง ท้องอืดอย่างที่ว่าเลยสักครั้ง  อันนี้เราคงต้องขอเตือนเอาไว้ว่า ตอนนี้ร่างกายของคุณอาจจะยังฟิต ไม่ว่าจะเป็นระบบเผาผลาญ หรือการขับถ่ายยังคงดีอยุ่  แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่อายุคุณมากขึ้น คุณจะรู้เลยว่า เบียร์นั้นเป็นอะไรที่ถ้าเกิดเมา และ Hangover ขึ้นมาล่ะก็ อาการของมันจัดได้ว่าคืออีกหนึ่งความทรมานขั้นสุดยอดเลยก็ว่าได้

 

Red Wine

ไวน์แดง นอกจากอาการเมาที่หนักหน่วงเช่นเดียวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภท Dark Liquors แล้ว มันยังเป็นเครื่องดื่มที่มีอัตราเสี่ยงในการเกิด Hangover ในวันถัดไปอย่างหนักหน่วง และรุนแรงอยู่ในระดับหัวแถวอีกด้วย นั่นก็เพราะว่า ในไวน์แดงนั้น มีปริมาณ Congeners ที่สูงสุด ๆ เนื่องจากไวน์นั้น เกิดขึ้นจากการนำองุ่นมาหมักโดยตรง ผู้เชี่ยวชาญยังบอกด้วยว่า ไวน์แดงราคาถูกนี่ตัวดี เพราะยิ่งมี Congeners มากกว่าใครเพื่อน ดังนั้นใครไปเมาไวน์แดงก่อนวันประชุมเช้า แถมยังเป็นไวน์แดงแก้วละห้าบาทสิบบาทด้วยล่ะก็ เตรียมตัวลางานหรือลาออกเอาไว้ได้เลย

เพราะนอกจากการเมาเหวี่ยง และการปวดหัวแบบตุบ ๆ ที่จะตามมาในวันรุ่งขึ้นแล้ว การที่ใช้องุ่นแดงมาบ่มหมักจนเกิดเป็นไวน์นั้น ภายใต้ผิวสีแดงขององุ่นแดง ยังมีสารเมลาโทนินในระดับสูงอีกด้วย ซึ่งสารเมลาโทนินนี้ เป็นสารธรรมชาติที่จะช่วยให้ร่างกายคนเรานั้น เกิดอาการง่วงนอนเฉียบพลัน ช่วยให้นอนหลับได้ลึก และนานขึ้นอีกด้วย มันจึงเหมาะกับวันหยุดมากกว่าวันทำงาน

ดังนั้น คุณลองคิดสภาพดูสิว่า ถ้าคุณตื่นมาแล้วรู้สึก หัวก็เหวี่ยง พะอืดพะอมอ้วกเตรียมพุ่งตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกันก็ยังง่วงนอนแบบสุด ๆ พร้อมกัน มันจะทรมานร่างกายขนาดไหน เพราะฉะนั้น ถ้าหากใครไม่อยากเผชิญชะตากรรมที่อยากลำบากเหล่านี้ ทางที่ดีก็ดื่มในปริมาณที่ตัวเองรับไหว อย่างปล่อยให้รื่นไหลจนเมาแอ๋ เพราะไม่งั้น อีกวันคุณจะรู้สึกเลยว่า เมาค้างที่เขาว่า โคตรแย่ มันเป็นยังไง

 

White Wine

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากที่คุณดื่มไวน์ขาวเข้าไป แทบไม่มีอะไรแตกต่างกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภท Light Liquors เลย เพียงแต่ว่า ในขณะช่วงเวลาที่คุณดื่มมันนั้น อาจจะมีรสชาติที่นุ่มละมุนละม่อม สดชื่น และหอมหวล ไม่รู้สึกว่าจะเมาเร็ว เมาหนักเท่ากับพวก Vodka, Gin หรือ White Rum

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อาการที่เลี่ยงไม่ได้ถ้าหากคุณดื่มไวน์ก็คือ ‘ความง่วง’ เพราะถึงจะเป็นไวน์ขาว มันก็ยังต้องใช้องุ่นในการบ่ม และหมักจนกลายเป็นไวน์ออกมา  ซึ่งในผิวขององุ่นขาวเองนั้น ก็มีสารเมลาโทนินอยู่ด้วย แต่ไม่มากเท่าองุ่นแดง  ดังนั้นความง่วงที่เกิดจากการดื่มไวน์ขาวนั้น จึงขึ้นอยู่กับปริมาณของไวน์ขาวที่คุณดื่มเข้าไปโดยตรง สำหรับเรา Chardonnay สักแก้วในวันที่อยากเข้านอนแต่หัววัน เป็นวิธีอยากแนะนำสำหรับคนอายุ 20+ ทุกท่าน

Champagne

เครื่องดื่มในดวงใจของสาย Party สุดหรูอย่าง Champagne ที่ดูไร้สีเข้มอันน่ากลัว แต่ภายใต้ฟองอันฟูฟ่องชวนดื่ม ก็ทำให้คุณเกิดอาการเมาค้างได้ไม่น้อย มีผลการศึกษาหลายตัวที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า Champagne เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จะทำให้คุณเมาได้อย่างฉับไว เนื่องจากมันมีระดับคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้เกิดความซ่าในปริมาณสูง ไปกระตุ้นการดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายและเร็ว

ดังนั้น การเมา Champagne จึงเกิดขึ้นแบบมาเร็ว เคลมเร็ว และในบางคนอาจจะไวถึงขั้นที่ตื่นมาจำอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ก็ยังดีที่ว่า หลังจากที่ตื่นขึ้นมานั้น อาการเมาค้างของ Champagne จะไม่โหดร้ายเท่ากับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่น ๆ เนื่องจากเมื่อร่างกายคุณดูดซับแอลกอฮอล์เข้าไปไว คุณก็จะเมาไว ร่วงไว และได้นอนไวกว่าคนอื่น แถมบางทียังไม่ได้ดื่มไปเยอะมากเท่ากับคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำไป ดังนั้นจึงถือได้ว่า เป็นเครื่องดื่มชนิดที่มอมตัวเองได้ฉับไว แม้จะเสี่ยงต่ออาการจอดับ Black Out ได้ง่าย แต่อย่างน้อยถ้ามองในแง่ดี มันก็ปลอดภัยในตอนตื่นได้พอสมควรเลยทีเดียว

เชื่อว่าหลายคนคงพอจะหายสงสัย และพอจะมีรายชื่อเครื่องดื่มในใจสำหรับคืนนี้กันแล้วอย่างแน่นอน  สุดท้าย อย่างที่เราได้บอกไป ไม่ว่าคุณจะอยากดื่ม หรือจะเป็นจะต้องดื่มมากแค่ไหน แต่ถ้าคุณรู้ตัวดีกว่า ในวันพรุ่งนี้ยังมีอะไรที่รอให้คุณสะสางอยู่ หรือมีนัดสำคัญ คุณก็ควรที่จะเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมต่อความปลอดภัย และหลีกเลี่ยงพิษภัยจากการเมาค้างเอาไว้ก่อนเป็นอันดับแรกจะดีกว่า ไม่งั้นถ้าเกิดต้องไปคุยงาน หรือเจอลูกค้าสำคัญ แล้วเกิดออกอาการ Hangover อ้วกแตกออกมากลางวง คราวนี้แหละ งามไส้ขายขี้หน้าจนอยากฆ่าตัวตายกันเลยทีเดียว

 

Reference: Source #1 / Source #2 / Source #3 

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line