Business

‘วิธีจัดการเวลาแบบนักกีฬาโอลิมปิค’ที่จะทำให้ผู้ชายทุกคนทำงานได้เทพกว่าที่เคย

By: PSYCAT May 29, 2017

ไม่ว่าจะในฐานะคนทำงาน เจ้าของธุรกิจ หรือระดับหัวหน้างานที่ต้องดูแลการทำงานของคนอีกจำนวนมาก เราต่างแสวงหากลยุทธ์ของการจัดการเวลาทำงานที่จะทำให้คนทำงาน ทำงานได้ทรงประสิทธิภาพสูงสุด คงจะดีไม่น้อยถ้าเราสามารถจัดการเวลาทำงานได้เต็มที่ หนักหน่วง และเห็นผลได้เหมือนนักกีฬาโอลิมปิคฝึกซ้อมก่อนลงสนามจริง

อย่ามัวคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่นหรือเป็นไปไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้เปิดใจทำความรู้จัก “Interval Training” เทคนิคการบริหารจัดการเวลาฝึกซ้อมสไตล์นักกีฬาโอลิมปิคที่จะทำให้คุณต้องทึ่งกับผลลัพธ์การทำงานของตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

spot-runs-start-la

ย้อนกลับไปช่วงทศวรรษที่ 1930 Woldemar Gerschler โค้ชชาวเยอรมันมีความคิดว่าเขาอยากให้นักกีฬาวิ่งของเขาจัดการเวลาการฝึกซ้อมให้ดีขึ้นกว่าที่เป็น หลังจากการทดลอง เขาพบว่านักวิ่งจะสามารถบรรลุเป้าหมายการฝึกซ้อมได้ดีขึ้น ถ้าแบ่งการฝึกออกเป็นเซ็ต ๆ

หากมีเวลา 60 นาที Woldemar Gerschler จะแบ่งการฝึกออกเป็น 6 เซ็ต โดยฝึกซ้อมเต็มที่ 7 นาที แล้วพัก 3 นาที ซึ่งการฝึกเต็มที่แล้วแบ่งเวลาให้พัก นักวิ่งจะสามารถวิ่งได้เร็วกว่า วิ่งได้ระยะไกลกว่า และฟอร์มการวิ่งโดยรวมทำได้ดีกว่าการซ้อมวิ่งติดกันรวดเดียว 60 นาที

วิธีของ Gerschler ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายกับนักวิ่ง จนกระทั่งถูกนำไปใช้ในกีฬาประเภทอื่น ๆ และกลายเป็นระบบการฝึกซ้อมสุดทรงพลังที่ถูกเรียกว่า “Interval Training” ที่ได้รับการยอมรับมาถึงปัจจุบัน

pexels-photo-29832 (1)

การฝึกไป พักไป ได้รับการยืนยันจาก K. Anders Ericsson นักวิทยาศาสตร์พฤติกรรม ที่ทำการศึกษาเรื่อง The Role of Deliberate Practice in the Acquisition of Expert Performance ซึ่งพยายามค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ผู้ประสบความสำเร็จด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรี ศิลปิน นักกีฬา หรือแม้แต่นักฟิสิกส์ แตกต่างจากผู้อื่น

คำตอบก็คือไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาฝึกหนักมากกว่า ขยันมากกว่าคนอื่น แต่เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าจะฝึกอย่างไร เพื่อให้ความสนใจกับงานได้อย่างเต็มที่ และวิธีโฟกัสกับการทำงานที่ว่าก็คือทำงาน 60 ถึง 90 นาที แล้วพักนั่นเอง

ในขณะที่ Draugiem Group บริษัทที่ทำ social-networking ระดับนานาชาติที่พยายามอย่างหนักในการหาคำตอบว่าอะไรทำให้พนักงานในบริษัทที่ทำงานมีประสิทธิภาพแตกต่างจากพนักงานคนอื่น ๆ ที่มีมาตรฐานการทำงานแบบทั่ว ๆ ไป

วิธีการของบริษัท Draugiem Group ก็คือ การจับมือกับ DeskTime ผู้ผลิตแอปพลิเคชันที่สามารถคอยจับตามองพนักงานในบริษัทได้ว่าพวกเขากำลังทำงานหรือพักแล้วทำอย่างอื่น

people-coffee-tea-meeting (1)

ผลที่ Draugiem Group ค้นพบก็คือเหล่าพนักงานระดับ 5 ดาวที่ทำงานได้พีคสุดของบริษัทมีวิธีจัดการเวลาทำงานคล้าย ๆ กัน คือทำงานเฉลี่ย 52 นาที แล้วจากนั้นพักอีก 17 นาที แล้วค่อยกลับไปทำงานใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นวิธีเดียวกันกับการจัดการเวลาของนักกีฬาโอลิมปิค

การแบ่งเวลาทำงานหนึ่งช่วงแล้วพักหนึ่งช่วงจะช่วยหยุดความเหนื่อยล้า ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเราดีขึ้นกว่าการทำงานต่อเนื่องรวดเดียว

การทำงานหนักเป็นเรื่องน่าชื่นชม แต่ถ้าทำรวดเดียวแล้วเหนื่อยล้าจนทำต่อยาว ๆ ไม่ไหว ก็ลองหันมาทำ 50 นาที พักอีก 10 กว่านาที หรือทำเป็นเซ็ต ๆ สไตล์นักกีฬาโอลิมปิคดูก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย

SOURCE1SOURCE2

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line