Lennon Connection สมบัติล้ำค่าของ JOHN LENNON เตรียมถูกนำออกประมูลขายในรูปแบบ NFTs

นับเป็นความคึกคักอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมา สำหรับตลาด Non-Fungible Tokens หรือที่เรียกสั้นๆว่า NFT ชุมชนนักสะสมที่ต้องการครอบครองผลงานที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ซึ่งแน่นอนว่าวงในตำนานอย่าง The Beatles เองก็ไม่พลาดเช่นกัน

โดยครั้งนี้ Julian Lennon ลูกชายของ John Lennon ได้นำสมบัติแห่งความทรงจำให้แฟนของ John Lennon ได้ยื้อแย่งมาครอบครองกัน โดยลูกชายคนโตของศิลปินผู้ล่วงลับ ได้วางแผนที่จะปล่อยคอลเล็กชั่นส่วนตัวของพ่อของเขาผ่าน Yellow Heart โดยจะปล่อยเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำแบบและไม่เหมือนใคร ประกอบด้วยคอลเลคชั่นดังต่อไปนี้…

เสื้อคลุมสีดำชุดประวัติศาสตร์ที่ John Lennon ใส่เพื่อถ่ายปกอัลบั้ม HELP! ราคาประมูลเริ่มต้นที่ $8,000

เสื้อ Afghan Coat ที่ John ใส่ในหนัง Magical Mystery Tour ราคาประมูลเริ่มต้นที่ $6,000

รวมไปถึงกีตาร์ Gibson อีก 3 ตัว ที่ล้วนเป็นความทรงจำอันงดงามของ Lennon ผู้พ่ออีกด้วย

แต่ที่พิเศษสุดและน่าจะเป็นของประวัติศาสตร์ที่น่าจะมีมูลค่ามากที่สุดก็น่าจะเป็นสิ่งๆนี้ นั่นก็คือ เนื้อเพลงเวอร์ชั่นต้นฉบับของเพลง “Hey Jude” ที่เขียนโดยลายมือของ Paul McCartney โดยสมบัติอันล้ำค่านี้เริ่มต้นราคาที่ $30,000 และน่าจะประมูลจบลงในราคาสูงถึง $60,000 เลยทีเดียว

จากบทเพลงปลอบใจกลายเป็นเพลงยิ่งใหญ่ของ The Beatles 

Hey Jude เพลงเอกของ The Beatles ที่ออกมาในปี 1968 ช่วงเวลาท้าย ๆ ของเหล่าสมาชิก 4 เต่าทอง มันเกิดขึ้นโดยบังเอิญจากการที่ Julian ในวัย 5 ขวบ กำลังเผชิญหน้ากับฝันร้าย หลังการแยกทางระหว่าง John Lennon ผู้พ่อ กับ Cynthia Powell ผู้เป็นแม่ เนื่องจาก Yoko Ono ได้พรากชีวิตคู่และครอบครัวของเขาไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ

ช่วงเวลานั้น Paul McCartney ได้เดินทางมาหาเจ้าหนู Julian พอดี เห็นแววตาอันแสนเศร้าของเด็กน้อยจึงเข้าไปทักทายและให้กำลังใจ

“เฮ้ จงผ่านความเลวร้ายนี้ไปให้ได้นะ” Paul บอกกับ Julian ในตอนนั้น จนนำไปสู่แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงที่แรกเริ่มเดิมทีชื่อว่า “Hey Jules” โดยครั้งหนึ่ง Paul เคยให้สัมภาษณ์ถึงช่วงเวลานั้นว่า “ผมรู้ว่ามันจะไม่ง่ายสำหรับ Julian ผมรู้สึกเศร้าใจอยู่เสมอ สำหรับเด็ก ๆ ที่ต้องเผชิญหน้ากับการหย่าร้างของพ่อแม่”

ความบอบช้ำที่กัดกินชีวิตของ Julian ไปตลอดกาล

ตัว Julian ก็ต้องบอบช้ำกับเรื่องนี้ไม่ต่างกัน เขาต้องเติบโตขึ้นมาพร้อมกับการเห็นภาพพ่อของเขาอยู่กับหญิงอื่นที่ไม่ใช่แม่ของตัวเอง แถมพ่อกับแม่ใหม่ก็ดันมากลายเป็นตัวแทนแห่งเสรีภาพแห่งยุค 70s แน่นอนว่าคนทั้งโลกอาจจะรักพวกเขา แต่ Julian นั้นไม่

“ผมสงสัยเสมอว่าจะเป็นอย่างไรถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ในวันนี้” Julian เคยเขียนคำอาลัยในวันครบรอบ 20 ปีของการเสียชีวิตของพ่อเขาในปี 2000

“ผมคาดว่ามันจะขึ้นอยู่กับว่าเขาคือ ‘John Lennon’…ผู้เป็นพ่อ หรือ ‘John Ono Lennon’…จิตวิญญาณที่หลงทาง” และเขายังกล่าวเสริมว่า “แน่นอนว่าเขาจะกลัวการเป็นพ่อคน แต่การรวมกันของชีวิตของเขากับ Yoko Ono ทำให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวเราพังทลายอย่างแท้จริง…” สำหรับ Julian แล้ว วัยเด็กของเขาถูกขโมยไปอย่างไม่น่าให้อภัย

ไม่ใช่เพียงแค่ Yoko เท่านั้น ที่ Julian มีปัญหา แต่กับ Sean Lennon น้องชายต่างมารดาที่อายุห่างกับเขาถึง 12 ปี ก็ระหองระแหงไม่ต่างกัน โดยเฉพาะช่วงเวลาแห่งการจัดการมรดกและทรัพย์สินของพ่อ แต่ยังดีที่กาลเวลาก็ช่วยเยียวยาให้ทั้ง 2 ได้คืนดีกันในที่สุด

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม สิ่งที่ John Lennon ผู้พ่อให้กับ Julian มา คือ DNA ของนักดนตรีโดยแท้ โดยเขาออกอัลบั้มมาแล้วถึง 6 อัลบั้ม และมีกำหนดออกอัลบั้มชุดที่ 7 ในปี 2022 นี้

บอกเล่าประวัติศาสตร์ผ่านปากคำของผู้เป็นลูก

แม้คอลเลคชั่นแห่งความทรงจำนี้ จะได้ครอบครองเพียงสินทรัพย์ดิจิตอล แต่ผู้ที่ได้ครอบครองต้องถูกใจอย่างแน่นอน เพราะ Julian จะเสริมไอเท็มที่สามารถเล่าเรื่องราวสิ่งของแต่ละอย่างด้วยตัวของเขาเอง

“ผมเก็บรักษาของส่วนตัวเหล่านี้มาประมาณ 30 ปีแล้ว เอาจริง ๆ ก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับการมองมันถูกขังอยู่ในห้องนิรภัย ซึ่งผมต้องเก็บรักษามันไว้ไม่ให้สิ่งของเหล่านี้ได้รับความเสียหาย” มันจึงเกิดเป็นความผูกพัน ที่เขาสามารถบอกเล่าประวัติศาสตร์ของสิ่งของทุกชิ้นได้อย่างขึ้นใจ

ผู้ครอบครองนอกจากจะได้ร่วมซึมซับประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของ Icon คนสำคัญแห่งโลกดนตรีแล้ว รายได้ส่วนหนึ่ง Julian มอบให้กับมูลนิธิ White Feather Foundation ที่เขาตั้งขึ้นมา เพื่อแสวงหาน้ำสะอาดเพื่อให้ประเทศกำลังพัฒนาได้อุปโภคบริโภคกัน

ใครสนใจครอบครองก็สามารถร่วมประมูลได้ที่นี่เลย Yh.io/nft-collection หมดเขตการประมูลในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้