CARS

LAMBORGHINI HURACAN RWD รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังที่มาพร้อมเทคโนโยลีควบคุมพลังตัวใหม่

By: SPLESS January 11, 2020

หนุ่ม ๆ หลายคนต่างรู้จัก Lamborghini Huracan ซูเปอร์คาร์จากค่ายกระทิงเปลี่ยวที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2014 มาถึงปัจจุบัน Huracan แตกย่อยพัฒนาออกมาหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Huracan EVO Huracan EVO spyder และล่าสุดคือรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังอย่าง Huracan EVO RWD

lamborghini

ค่ายกระทิงเปลี่ยวตั้งใจสร้าง Huracan EVO RWD ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการแฟนเดนตายของ Lamborghini ที่ต้องการเห็นซูเปอร์คาร์รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear Wheel Drive) ที่ขับสนุกมากขึ้น ในที่สุดโปรเจกต์ดังกล่าวก็มาจบลงที่โมเดล Huracan EVO RWD คันนี้

เริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอกของ Huracan EVO RWD ที่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นปกติไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นแผงกันชนและช่องลมด้านหน้าตัวรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นปกติ 72 ปอนด์ เพราะโครงสร้างตัวรถเป็นแบบไฮบริดผสมผสานระหว่างอลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์ โดยมีน้ำหนักรวมเพียง 1,389 กิโลกรัมที่กระจายน้ำหนักแบบ 40/60

lamborghini

ด้านขุมพลังใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกันกับ Huracan EVO คือเครื่อง V10 ขนาด 5.2 ลิตร ให้พลัง 610 แรงม้าสูงสุดที่ 8,000 รอบ/นาทีและแรงบิดที่ 413 ปอนด์สูงสุดที่ 6,500 รอบ/นาที ซึ่งทำงานร่วมกับชุดเกียร์ Dual-Clutch 7-Speed โดยพลังทั้งหมดจะส่งตรงไปยังล้อหลังทั้ง 2 ข้างให้ออกตัวแบบท้ายสะบัดแน่นอน

lamborghini

แม้จะมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ช้ากว่ารุ่นปกติอยู่ 0.3 วินาที แต่ Huracan EVO RWD ลบช่องว่างนั้นด้วยระบบควบคุมแรงฉุดใหม่ที่เรียกว่า P-TCS ที่ตั้งสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหลัง โดยเจ้าตัว P-TCS จะทำหน้าที่ให้แรงบิดระหว่างรถลอยตัว พูดง่าย ๆ ว่าในการเข้าโค้งอุปกรณ์นี้จะช่วยส่งแรงให้รถออกจากโค้งเร็วและทรงพลังขึ้นนั้นเอง

P-TCS จะสนับสนุนการขับที่ทั้งในโหมด Strada (Street), Sport และโหมด Corsa (Race) รวมถึงระบบ Traction Control พัฒนาใหม่ล่าสุดของค่ายก็ถูกยกมาไว้ในซูเปอร์คาร์ขับเคลื่อนล้อหลังคันนี้ด้วยเช่นกัน

Lamborghini มีแผนจะวางขาย Huracan EVO RWD ในช่วงควอเตอร์ 2  ของปีนี้ คาดว่าราคาจะเริ่มที่ 208,571 ดอลลาร์สหรัฐซึ่งถูกลงกว่ารุ่นปกติ โดยช่วงที่วางขายก็เป็นช่วงที่คู่แข่งในน้ำหนักเดียวกันคือ Audi R8 RWD มีแผนจะเริ่มวางขายพอดี คงต้องรอชมกันว่าใครจะได้ส่วนแบ่งเค้กซูเปอร์คาร์ขับรุ่นเคลื่อนล้อหลังครั้งนี้ไปครอง

lamborghini

SOURCE: 1

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line