หากพูดถึงรถยนต์สภาพยับเยินแต่ทรงมูลค่า หลายคนอาจนึกภาพไม่ออกว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร แต่บอกเลยว่า Lamborghini Countach ปี 1989 สีขาวคันนี้ เตรียมขึ้นแท่นรับตำแหน่งรถเละราคาแรงสุดกู่ ที่นักสะสมตัวยงต่างพากันแย่งชิงอย่างแน่นอน เพราะลำพังชื่อเสียงของตัวรถเองก็มีดีกรี Rare Item แห่งวงการ Supercar อยู่แล้ว ในฐานะโมเดลพิเศษฉลองครบรอบ 25 ปี Lamborghini ซึ่งมีเพียง 658 คันทั่วโลก และยิ่งไปกว่านั้น Lamborghini Countach สีขาวล้วนคันนี้ เป็นสเปคสำหรับตลาดสหรัฐซึ่งมีอยู่แค่ 12 คัน และมันได้ถูกเลือกให้เป็น Hero Car ในหนัง The Wolf of Wall Street โดยผู้กำกับ Martin Scorsese เพื่อสะท้อนภาพไลฟ์สไตล์สุดฟุ่มเฟือยของตัวละครเอกอย่าง Jordan Belfort ที่รับบทโดย Leonardo DiCaprio โดย Lamborghini Countach ตอกเลข VIN ZA9CAOSA6KLA12692 ที่อยู่ในสภาพยับเยินคันนี้
หนุ่ม ๆ หลายคนต่างรู้จัก Lamborghini Huracan ซูเปอร์คาร์จากค่ายกระทิงเปลี่ยวที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2014 มาถึงปัจจุบัน Huracan แตกย่อยพัฒนาออกมาหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Huracan EVO Huracan EVO spyder และล่าสุดคือรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังอย่าง Huracan EVO RWD ค่ายกระทิงเปลี่ยวตั้งใจสร้าง Huracan EVO RWD ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการแฟนเดนตายของ Lamborghini ที่ต้องการเห็นซูเปอร์คาร์รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear Wheel Drive) ที่ขับสนุกมากขึ้น ในที่สุดโปรเจกต์ดังกล่าวก็มาจบลงที่โมเดล Huracan EVO RWD คันนี้ เริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอกของ Huracan EVO RWD ที่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นปกติไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นแผงกันชนและช่องลมด้านหน้าตัวรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นปกติ 72 ปอนด์ เพราะโครงสร้างตัวรถเป็นแบบไฮบริดผสมผสานระหว่างอลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์ โดยมีน้ำหนักรวมเพียง 1,389 กิโลกรัมที่กระจายน้ำหนักแบบ 40/60 ด้านขุมพลังใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกันกับ Huracan EVO คือเครื่อง V10
Lamborghini เปิดตัวรถยนต์คอนเซ็ปต์คันใหม่ของค่าย ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ของ Lamborghini Sian ซึ่งจะปรากฏตัวในเกม Gran Turismo Sport ที่ Playstation4 ในการแข่งขัน FIA Gran Turismo Championship 2019 ที่มอนติคาโล ค่ายกระทิงเปลี่ยวเปิดตัว Concept Cars ในชื่อ Lambo V12 Vision Gran Turismo ด้วยคอนเซ็ปต์แห่งอนาคตแบบรถยนต์ที่นั่งเดียว มาพร้อมงานดีไซน์สุดล้ำซึ่งออกแบบมาให้เป็นรถยนต์ที่นั่งเดียวคล้ายกับห้องเครื่องของนักบินขับไล่ซึ่งคนขับต้องเข้าห้องโดยสารจากด้านหน้า Lambo V12 Vision Gran Turismo ได้แรงบันดาลใจงานออกแบบกระจกข้างมาจาก Lamborghini Marzal รุ่นปี 1968 โดยมีโครงสร้างที่สร้างระบบ Aerodynamic ที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นซุ้มล้อและตัวดูดอากาศด้านหลังขนาดใหญ่ และสปอยเลอร์รูปตัว Y ที่มีไฟท้ายอยู่ในตัว ด้านขุมพลัง Lambo V12 Vision Gran Turismo ใช้เป็นเครื่องยนต์ Hybrid V12
Lamborghini Squadra Corse แผนกพัฒนารถแข่งของค่ายกระทิงเปลี่ยวปล่อยวิดีโอ Teaser ความยาว 33 วินาทีซึ่งเผยให้เห็นรูปทรงบางส่วนของ Lamboghini Aventador ไฮเปอร์คาร์คันใหม่ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในสนามแข่งโดยเฉพาะ คาดว่าจะพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าภายในสิ้นปี 2021 ไฮเปอร์คาร์คันใหม่ของ Lamborghini พัฒนาโดยมีพื้นฐานมาจาก Aventador ซึ่งคาดว่าจะถูกเรียกด้วยชื่อ “SVR” ภาพบางส่วนที่เห็นในตัวอย่างวิดีโอ เราจะเห็นรถโมเดล Aventador สีเขียวที่มีช่องลมบนฝากระโปรงและฮู้ดดูดอากาศขนาดใหญ่บนหลังคา นอกจากนี้ยังมีสปอยเลอร์ขนาดใหญ่และ Difusser ด้านหลังที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ รูปลักษณ์สมเป็นรุ่นพัฒนาเพื่อลงแทร็กโดยเฉพาะ โครงสร้างของ Aventador สร้างขึ้นให้มีน้ำหนักเบาเท่าที่จะทำได้ ตัวรถใช้โครงสร้างชั้นในเป็นเหล็กที่ครอบทับด้วยตัวถังจากคาร์บอนไฟเบอร์ตั้งแต่หัวจรดท้าย ตัวรถกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ให้พลังสูงถึง 830 แรงม้า แรงขึ้นจากโมเดลล่าสุดอย่าง Avantador SVJ ประมาณ 60 แรงม้า ทั้งหมดสั่งงานด้วยชุดเกียร์ Xtrac 6 Speed ที่สร้างขึ้นมาให้ตอบสนองฉับไว เพื่อตอบสนองการเป็นรถยนต์สำหรับแข่งขัน นอกจากไฮเปอร์คาร์คันใหม่ซึ่งมีพื้นฐานจาก Avemtador ที่เตรียมปล่อยมาวิ่งในสนามแข่ง Lamborghini
Lamborghini Aventador SVJ กำลังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง หลังจากค่ายกระทิงเปลี่ยวได้เปิดตัวรถยนต์ในโมเดลสองประตูไปเมื่อปลายปีที่แล้ว มาปีนี้พวกเขาก็เพิ่มทางเลือกให้กับหนุ่ม ๆ อีกครั้งด้วย Lamborghini Aventador SVJ 63 Roadster ซึ่งเป็นโมเดลเปิดประทุนในรุ่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคมของปี 2018 Lamborghini เปิดตัว Aventador SVJ ซึ่งผลิตออกมาทั้งหมด 900 คันทั่วโลก แต่ข่าวเรื่องการจำกัดจำนวนการผลิตเพื่อรักษามาตรฐานของค่ายดูจะเป็นความจริง เพราะมาในปีนี้พวกเขาเลือกเปิดตัว Lamborghini Aventador SVJ 63 Roadster ที่ผลิตออกมาเพียง 63 คันเท่านั้น Lamborghini Aventador SVJ 63 Roadster ซูเปอร์คาร์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการก่อตั้งค่ายกระทิงเปลี่ยวในปี 1963 รูปลักษณ์ภายนอกมาในงานดีไซน์เอกลักษณ์ของค่ายที่เรียกว่า CENTRO STILE ซึ่งคมชัดและดุดัน ดีไซน์ภายนอกของมันถูกปรับแต่งออกมาได้ถึง 8 รูปแบบ ด้วยการใช้วัสดุหลักเป็นคาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูงในส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรง ขอบกระจกและหลังคา เติมเต็มความหล่อด้วยล้อแม็กเคลือบไทเทเนียมหุ้มด้วยยาง Pirelli P Zero Corsa ด้านขุมกำลัง
สำหรับหนุ่ม ๆ ที่คลั่งไคล้รถยนต์ คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์รถยนต์สุดหรูอย่าง Lamborghini หนึ่งในค่ายที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นเป็นตัวเองจนทำให้กลุ่มคนรักรถและผู้มีกำลังซื้อนิยมรถยนต์แต่ละรุ่นของพวกเขาอย่างเหนียวแน่น แต่ขณะเดียวกันค่ายกระทิงดุก็ออกมาประกาศว่าจะจำกัดจำนวนการผลิตต่อปีเพื่อรักษามาตรฐานของตัวเองแล้ว แม้ไม่ใช่แบรนด์รถยนต์ที่ใครก็สามารถเป็นเจ้าของได้ เพราะแต่ละคันมีค่าตัวแพงลิบ แต่ความเร็วสะใจและรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ก็ทำให้ยอดขายครึ่งปีแรกของ Lamborghini แตะระดับ 4,553 คัน เฉพาะโมเดล Urus ที่มียอดจองและขายออกไปแล้วถึง 2,693 คันก็ถือว่ามาแรงมาก โดยอัตราส่วนการผลิตที่เหลือคือรุ่นยอดนิยมอย่าง Huracan (1,211 คัน) และ Aventador (649 คัน) ทำให้การส่งมอบครึ่งปีแรกเติบโตคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.7 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.4 พันล้านยูโร แต่ดูเหมือนยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้จะไม่ใช่สิ่งที่ซีอีโอคนปัจจุบันอย่าง Stefano Domenicali ต้องการ เมื่อเขาออกมาประกาศว่าปีนี้อาจเป็นปีสุดท้ายที่แบรนด์กระทิงดุจะไม่จำกัดจำนวนการผลิตต่อปี เพราะจากนี้ต้องการรักษาคุณค่าและมาตรฐานของค่าย โดย Stefano ให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขาไม่ต้องการเติบโตไปตลอด แต่ต้องการกำหนดทิศทางที่ถูกต้องเพื่อรักษาคุณค่าของแบรนด์ รวมถึงให้ความสำคัญกับความพิเศษในการผลิตรถแต่ละรุ่นเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดทั่วโลกที่กำลังขยายตัว โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน และเยอรมนี รวมถึงในประเทศที่กำลังเติบโตอย่างรัสเซียและอินเดีย ทำให้กลุ่มผู้ถือหุ้นเตรียมขยายขอบเขตการผลิตใหม่ คาดว่าจาก 8,000 คันต่อปีเป็น 10,000 คันต่อปีเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาด
แค่ขึ้นชื่อว่า Lamborghini ก็ทำให้เหล่าผู้หลงใหลความเร็วต่างก็อยากได้มาครอบครองซักคันกันจะแย่อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้รถซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลีเพิ่มความพิเศษมากขึ้นไปอีกขั้นกับรถแต่งรุ่นพิเศษสำหรับสมเด็จสันตะปาปาแห่งนครรัฐวาติกันที่มีเพียงแค่คันเดียวในโลก Lamborghini Huracan RWD Coupe เป็นรถแต่งรุ่นพิเศษที่ออกแบบมาแค่คันเดียว เกิดจากการสร้างสรรค์ของ Personam และ Bianco Monocerus สำนักแต่งรถที่เข้ามาดูแลเรื่องสี ออกแบบรถยนต์และตัวถังเป็นสีขาวพร้อมตกแต่งด้วยสีทอง Giallo Tiberino ตามแบบธงชาติของนครรัฐวาติกันโดยทางผู้ผลิต Lamborghini ตั้งใจออกแบบรถยนต์คันหรูเพื่อมอบรถรุ่นพิเศษนี้ให้แก่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส Huracan RWD Coupe (LP 580-2) กระทิงดุสีขาวบริสุทธิ์ที่มอบให้แก่โป๊ปฟรานซิสเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นเล็กขับเคลื่อนด้วยระบบ 2 ล้อหลัง เครื่องยนต์เบนซิน V10 ความจุ 5.2 ลิตร กำลัง 580 แรงม้า ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ และคลัทช์คู่ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม. พร้อมฟังก์ชัน Cylinder Deactivation ที่จะลดการทำงานเหลือ 5 สูบ
หนึ่งใน Iconic Supercar ในช่วง 1974 – 1990 ต้องมีชื่อ Lamborghini Countach อยู่ในนั้นแน่นอน ถ้าใครนึกภาพไม่ออก มันคือรถที่ Jordan Belfort (Leonardo DiCaprio) ใน Wolf of Wall Street ใช้ขับจนพังด้วยความเมานั่นเอง (รู้หรือไม่ว่า Martin Scorsese ผู้กำกับภาพยนตร์ลงทุนใช้ 25th Anniversary Lamborghini Countach ของจริง เอามาชนจนพังจริง เพื่อให้ได้อารมณ์ที่สุด แต่ก็แอบเสียดายรถแทนมากเลย) ความเท่ของรถคันนี้เริ่มจากชื่อ Countach ที่ไม่มีความหมายในภาษาอังกฤษ เพราะ Lamborghini เอามาจากภาษา Piedmontese ภาษาพื้นเมืองทางตอนเหนือของ Italy ที่มีคนพูดได้อยู่ราว 1 – 2 ล้านคน น้อยคนนักจะรู้ว่าชื่อนี้แปลว่าอะไร แต่เราหาข้อมูลมาแล้ว เราจะบอกให้ว่า คำว่า coon-tahshe—is แปลเป็นไทยง่าย ๆ ได้ว่า “เหยดดดดด”
ในรอบปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวรถยนต์ concept car ไปมากมายจนนับนิ้วไม่ไหว มีหลายคันทำให้เราตื่นเต้นจนต้องถามตัวเองว่า รถยนต์จะพัฒนาไปได้ไกลขนาดไหน เพราะบางคันที่เราเห็นสเปค สมรรถนะ ความชาญฉลาด ก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว แต่การเปิดตัว ‘Terzo Millennio’ electric hypercar concept ครั้งล่าสุดของ Lamborghini ทำให้ความอัจฉริยะในรถยนต์ทั้งหมดที่เราเคยเห็นผ่านมา กลายเป็นของโบราณตกยุคไปเลยทีเดียว สิ่งที่ทำให้ Terzo Millennio เป็น concept บ้าคลั่งที่สุดสำหรับเรา ไม่ใช่เพราะตัวเลขความแรงอย่างที่ Lamborghini ทำลายสถิติมาตลอด ที่จริงแล้ว Lamborghini ไม่ได้พูดถึงสมรรถนะแม้แต่นิดเดียวในการเปิดตัว Terzo Millennio ครั้งนี้ สิ่งที่ทำให้ทั้งโลกต้องฮือฮาคือการเผยทิศทางของเทคโนโลยีที่เกินกว่าจะใช้คำว่าทันสมัย ด้วยการจับมือร่วมกันพัฒนากับ 2 Labs ชื่อดัง Dinca Research Lab และ Mechanosynthesis Group แห่ง Massachusetts Institute of Technology (MIT) สถาบันชั้นนำด้านเทคโนโลยีของโลก Terzo Millennio เป็น hypercar