COLLECTOR: LAMBORGHINI COUNTACH 25th ANNIVERSARY EDITION ‘THE ULTIMATE COUNTACH’

หนึ่งใน Iconic Supercar ในช่วง 1974 – 1990 ต้องมีชื่อ Lamborghini Countach อยู่ในนั้นแน่นอน  ถ้าใครนึกภาพไม่ออก มันคือรถที่ Jordan Belfort (Leonardo DiCaprio) ใน Wolf of Wall Street ใช้ขับจนพังด้วยความเมานั่นเอง (รู้หรือไม่ว่า Martin Scorsese ผู้กำกับภาพยนตร์ลงทุนใช้ 25th Anniversary Lamborghini Countach ของจริง เอามาชนจนพังจริง เพื่อให้ได้อารมณ์ที่สุด แต่ก็แอบเสียดายรถแทนมากเลย)

ความเท่ของรถคันนี้เริ่มจากชื่อ Countach ที่ไม่มีความหมายในภาษาอังกฤษ เพราะ Lamborghini เอามาจากภาษา Piedmontese ภาษาพื้นเมืองทางตอนเหนือของ Italy ที่มีคนพูดได้อยู่ราว 1 – 2 ล้านคน น้อยคนนักจะรู้ว่าชื่อนี้แปลว่าอะไร แต่เราหาข้อมูลมาแล้ว เราจะบอกให้ว่า คำว่า coon-tahshe—is แปลเป็นไทยง่าย ๆ ได้ว่า “เหยดดดดด” หรือคำอุทานที่บ่งบอกว่า “ไอ้นั่นมันโคตรเจ๋งเลยยยยย” แค่ชื่อก็เจ๋งแล้ว

Lamborghini Countach โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ฉูดฉาด เส้นสาย ช่องดักอากาศ NACA Duct และ aerodynamic ต่าง ๆ ที่ตะโกนถึงความพิเศษที่แตกต่างของตัวเอง แต่ไม่ใช่ทำไปเพราะความเท่อย่างเดียว แต่เป็นการออกที่ช่วยในการทรงตัว และการระบายความร้อนให้เครื่องยนต์ V12 ที่วางอยู่ด้านหลัง หล่อล้ำด้วยประตูปีกนกที่ทาง Lamborghini เรียกว่า ‘Scissor Doors’ เรียกว่าเป็น Classic Supercar ที่สุดของงานออกแบบระดับ Exotic Design ที่ทั้งเตี้ยและกว้าง ผลงานโดย Marcello Gandini แห่งสำนักออกแบบชื่อดัง Bertone เจ้าของเดียวกับงานออกแบบ Lamborghini Miura ซึ่งในสมัยนั้น Bertone ยังมีไฟแรงและความกล้าอยู่เต็มเปี่ยม จึงได้ Supercar ที่แตกต่าง มีกลิ่นอายของความเป็น Italian แบบเต็มเปี่ยม ในยุคนั้นเรียกว่า Lamborghini Countach สามารถใช้แทนธงชาติ Italy ได้สบาย

ด้วยอายุขัยการทำตลาดที่ยาวนาน Lamborghini Countach มีรุ่นพิเศษออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Countach LP500 S, Countach 5000 Quattrovalvole แต่ที่พิเศษสุด ๆ ต้องเป็น 1988 Lamborghini 25th Anniversary Countach แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นรุ่นฉลองครบรอบ 25 ปี เป็น Countach ที่ผ่านการปรับปรุงจนได้ชื่อว่า The New Countach

แม้จะต่อยอดบางอย่างมาจากรุ่น 5000 QV แต่ก็มีไม่มากนัก โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 5167 cc V12 455 แรงม้า ความเร็วสูงสุดเกือบ 300 km/h และทำเวลา 0 – 100 km/h ได้ภายใน 4.5 วินาที นับเป็น Countach ที่แรงที่สุดในตระกูล โดยโมเดลก่อนหน้าอย่าง LP400 ใช้เครื่องยนต์ V12 3.9-liter และ LP500 ที่ขยับขึ้นมาใช้เครื่อง 4.8-liter ส่วนรายละเอียดถูกปรับปรุงใหม่หมด ตั้งแต่กันชนหน้า หลัง ช่องดูดอากาศทรงใหม่ ซึ่งช่วยให้ Lamborghini Countach ที่ดูดีอยู่แล้ว ยิ่งมีความลงตัวขึ้นไปอีก แม้วิศัยทัศน์ในการขับขี่จะไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะวิวด้านหลังที่มองอะไรแถบไม่เห็น

ไม่ต้องแปลกใจเลยที่ Italian Icon อย่าง Lamborghini Countach จะกลายเป็นรถสะสมที่มีมูลค่าสูงขึ้นจนเราต้องตะลึงทุกปี ๆ อย่างเช่นก่อนหน้านี้ 1987 Lamborghini Countach 5000 QV สภาพนางฟ้า ถูกประมูลไปครอบครองด้วยราคาเกิน $500,000 หรือราว 16 ล้านบาท ส่วนปีนี้ RM Sotheby’s ก็มีของดีเป็น 1991 Lamborghini Countach 25th anniversary edition สีขาวเบาะแดง สภาพนางฟ้า ใช้งานไปเพียง 3,460 km เท่านั้น ก่อนจะถูกนำไปเก็บไว้อย่างดีในโรงรถชนิดยุงไม่ให้ตอม ซึ่งคาดว่ามูลค่าน่าจะทะลุเกิน $500,000 อย่างแน่นอน

ถ้ากำลังอ่านถึงตรงนี้ แล้วรู้สึกว่ามีเงินในธนาคารมากพอ อยากร่วมไล่ล่า Italian Icon คันนี้ไว้เก็บสะสมเป็นของรัก ก็มุ่งหน้าไปอ่านรายละเอียดที่ RM Sotheby’s ได้เลย