CARS

MAN UP: สายออฟโรดต้องรู้จัก ยาง All-terrain (AT) ยางแกร่งสำหรับทางลุยก็ได้ ทางเรียบก็ดี

By: Chaipohn April 15, 2022

รู้หรือไม่ว่ายางแต่ละประเภทที่คุณเลือกใช้ มีผลต่อประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการใช้รถลุยมากอย่างที่คุณคาดไม่ถึง

เรื่องยาง เป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนมองข้าม โดยเฉพาะผู้ขับรถยนต์ประเภท PPV, กระบะ หรือปิคอัพยกสูงแบบ 4×4, 4×2 การเลือกยางให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้งานถือเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะปัจจุบันผู้ใช้งานรถประเภทนี้ นอกจากจะใช้ขับบนถนนเรียบแบบออนโรดในวันทำงาน ก็มักจะใช้ขับออกไปลุยทางฝุ่น ขึ้นป่าฝ่าดินหินทรายไป trekking หรือขึ้นเขาตั้งแคมป์ในวันหยุด ยางเดิมที่ติดรถยนต์มาจากโรงงาน อาจไม่เหมาะกับการใช้งานอย่างหลัง ซึ่งเสี่ยงต่อการฉีกขาดได้ง่าย และคงเป็นฝันร้ายแน่ ๆ หากไปเกิดยางแตกกลางป่าเขาอยู่เพียงคันเดียว

ดังนั้นใน Man Up เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับยางประเภทต่าง ๆ สำหรับรถปิคอัพและรถ PPV ว่ามียางแบบไหนบ้าง แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกยางแบบไหนเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันมากที่สุด โดยคุณ ภูมินทร์ ทองแสง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางรถประเภทนี้โดยเฉพาะ


เริ่มจากยางประเภทแรกคือ HT หรือ Highway Terrain เป็นยางที่มักจะติดรถยนต์ออกมาจากโรงงาน เหมาะกับการใช้งานบนถนนราดยาง หรือถนนทางเรียบในเมือง ด้วยการออกแบบและคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับยางรถยนต์เก๋ง เน้นความนุ่ม เงียบ แต่แลกมาด้วยความแข็งแกร่งของโครงสร้างที่รับโหลดน้ำหนักได้น้อยกว่า รวมถึงการออกแบบหน้ายางที่แตกต่างจากยางออฟโรดทั่วไป ไม่เหมาะกับการนำไปใช้ขับทางฝุ่นหรือทางหินกรวด เพราะเสี่ยงต่อการบาดและฉีกขาดได้ ไม่เหมาะสำหรับการยึดเกาะเพื่อตะกุยอุปสรรคบนทางออฟโรด

ยาง HT หรือ Highway Terrain จึงเหมาะกับรถประเภท SUV หรือรถปิคอัพที่ขับในเมืองราว 90% สำหรับใช้งานเบา ๆ เดินทางจากบ้านไปทำงาน ไม่เหมาะกับการขับไปทางสมบุกสมบันหรือบรรทุกโหลดหนัก ๆ เพราะนอกจากยางจะเสื่อมเร็ว ยังอาจเกิดความเสียหายตามมาได้

ส่วนยางประเภท MT หรือ Mud Terrain จะเป็นยางสำหรับนักขับออฟโรดมืออาชีพ ที่ลุยป่าฝ่าโคลนเป็นประจำ อย่างเช่นรถ 4×4 ยกสูงที่หลายคนน่าจะเคยเห็นกันมาบ้าง จุดเด่นคือโครงสร้างที่แข็งแรงกว่า ดอกยางหนา ร่องยางลึกและกว้าง เพื่อเพิ่มความสามารถในการตะกุยอุปสรรค ลุยโคลนและสลัดเศษดินได้ดีกว่า เหมาะกับเส้นทางป่าเขา ทางโคลน แต่ไม่เหมาะกับการใช้งานบนถนนในชีวิตประจำวัน เพราะทำความเร็วได้ต่ำ การควบคุมทำได้ยาก รวมถึงมีความแข็งกระด้างและเสียงดังเข้าห้องโดยสารหากวิ่งบนถนนเมือง

หากคุณเป็นคนใช้รถ PPV หรือปิคอัพ ในชีวิตประจำวัน ขับบนถนนเมืองในวันทำงาน และมักจะขับออกทริปต่างจังหวัดไปท่องเที่ยวไกล ๆ ผ่านทางลูกรัง ลุยสภาพถนนออฟโรดแบบกลาง ๆ ได้สบายไม่ต้องลุ้น ขึ้นเขาเข้าป่าไปตั้งแคมป์ในวันหยุด ยางที่เหมาะที่สุดก็คือยาง AT หรือ All Terrain ที่ให้ประสิทธิภาพบาลานซ์ระหว่างทาง on-road และ off-road ได้มากที่สุด

ลักษณะเด่นของยาง AT All-terrain คือการมีลายและร่องยางที่ออกแบบให้กว้างและลึกกว่ายาง HT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะตะกุยส่ิงกีดขวาง สามารถทำความเร็วได้เหลือเฟือมากพอสำหรับรถยนต์ประเภทนี้ มีแก้มยางที่ออกแบบให้หนาและแข็งแรง ทนทานต่อการขีดข่วนได้มากกว่ายาง HT ช่วยเพิ่มโอกาสให้เราขับผ่านทางออฟโรดที่สมบุกสมบันได้ปลอดภัยแม้จะไม่ใช่มืออาชีพ

ในอดีตหลายคนอาจจะไม่เลือกใช้ยาง AT เพราะต้องแลกมาด้วยความแข็งกระด้าง และเสียงรบกวนที่ดังเข้ามาในห้องโดยสาร แต่ปัจจุบันมีการพัฒนายาง AT All-terrain รุ่นใหม่ ๆ ที่ให้ทั้งความเงียบ นุ่มนวล และยังคงประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งสำหรับลุยออฟโรดได้ดีเหมือนเดิม อย่างเช่นยาง Continental CrossContact AX6 รุ่นใหม่ที่เราได้ไปพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องยาง และได้ไปรีวิวจริงแบบถึงใจเพื่อสัมผัสความแตกต่างมาแล้ว

Continental CrossContact AX6 เป็นยางรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในเมือง 60% นอกเมือง 40% ซึ่งตรงกับเทรนด์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในปัจจุบัน โดยมี concept ในการพัฒนายางรุ่นนี้ว่า “Traction, Duration, + Noise” เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะ การลุยสิ่งกีดขวาง เพิ่มความแข็งแกร่งของแก้มยางและเนื้อยาง รวมถึงการลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร เพื่อการขับรถในเมืองที่นุ่มนวล ผ่อนคลาย

วิธีการลดเสียงรบกวนของ AX6 คือการดีไซน์เพิ่มตัวป้องกันเสียงรบกวนที่ไหล่ยาง ซึ่งแตกต่างจากยาง All-terrain ส่วนใหญ่ ไหล่ยางใน AX6 จะช่วยปิดกั้นเสียงที่เกิดขึ้นตรงกลางหน้ายางออกสู่ภายนอก ช่วยให้ขับขี่ได้เงียบและสะดวกสบายขึ้น

ลายดอกยางออกแบบให้เปิดกว้างเพื่อเพิ่มพื้นที่สัมผัสระหว่างยางกับพื้นถนนแบบออฟโรด ช่วยให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนสูงขึ้นมากเมื่อขับบนทางออฟโรด มีการพัฒนาร่องยางพิเศษ มาพร้อมฟันจับขนาดเล็กที่ร่องไหล่ยางรอบเส้น (Gripping teeth) ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะมากขึ้น ป้องกันการลื่นไถลจากสภาพถนนออฟโรด ทางหิน กรวด ลูกรัง

เนื้อยางของ AX6 พัฒนาจากโมเลกุลของ “ซิลิกา (Silica Tread Compound)” เป็นโครงสร้างพอลิเมอร์ที่มีคุณสมบัติยึดเกาะและลดระยะเบรกบนถนนเปียกได้ดี ร่องยางเล็กแนวขวางบนหน้ายางจำนวนมาก ช่วยให้น้ำที่อยู่บนบล็อกดอกยางเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น รีดน้ำได้เร็วกว่ายางทั่วไป ช่วยลดระยะเบรกและยึดเกาะถนนเปียกได้ดีขึ้น

นอกจากนี้บล็อกดอกยางที่กว้าง ช่วยลดปัญหาหินติดในร่องดอกยาง เพิ่มความทนทาน ลดโอกาสที่ยางจะฉีกหรือบิ่นจากเศษหิน จึงคุ้มค่าด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า

ยาง Continental CrossContact AX6 เหมาะสำหรับเจ้าของรถ PPV ไม่ว่าจะเป็น Toyota Fortuner, Isuzu MU-X, Ford Everest, Nissan Terra รวมถึงรถปิคอัพอย่าง Ford Ranger, Toyota Hilux Vigo, Isuzu D-Max, Mitsubishi Triton, Mazda BT-50 ซึ่งเราอยากแนะนำให้ไปลองดูยางเส้นจริง เพราะหลังจากเราลองเปลี่ยนขับไปลุยมาแล้วทุกสภาพถนน ยอมรับเลยว่ายาง AX6 นี้มีจุดเด่นเหนือกว่ายาง AT ที่เราเคยใช้มา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียงที่เงียบกว่า และการลุยทางออฟโรดที่ทำได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน

ไปลองสัมผัสกับ Continental CrossContact™ AX6 ยางคุณภาพชั้นนำจากเยอรมนีได้ที่ร้านยาง Continental ทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) จำกัด โทร 02-232-1800 หรือดูข้อมูลบนเว็บไซต์ที่ CrossContact® AX6

 

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line