

FASHION
ชื่อเรียกทรงผมยอดนิยมที่หนุ่มๆ ควรรู้ไว้
By: unlockmen June 4, 2015 7322
ใครจะไปรู้ว่าทรงผมของหนุ่มๆ นั่นจะมีชื่อเรียกมากมาย ทั้งๆ ที่ดูเผินๆ เรากลับมองว่ามันก็ดูคล้ายกันไปหมด เอะอะ ก็เรียกเหมาไปเลยละกันว่า Undercut แต่เชื่อไหมคะว่า ทรงผมที่ดูเหมือนจะธรรมดา และเหมือนกันเหล่านี้ เขาก็มีชื่อเรียกอยู่เหมือนกันนะ วันนี้ UNLOCKMEN นำวิธีการเรียกทรงผมยอดฮิตของหนุ่มๆ มาฝาก จะได้เรียกให้ถูก รู้ไว้ใช่ว่า เพิ่มความคูลได้มากโข
Undercut
ทรงผมยอดนิยมของหนุ่มๆ แถมยังเป็นทรงที่เหมาะกับอากาศบ้านเราแบบสุดๆ ลักษณะของผมสไตล์นี้ก็คือ ด้านข้างที่ถูกตัดเกือบเตียนรับลม และด้านบนที่เราจะปล่อยไว้ให้ยาวเหลือไว้ให้เราได้เซต เป็นทรงผมที่ไม่ว่าคุณจะมีผมที่หยักศก หรือผมตรงก็สามารถตัดทรงนี้ได้ค่ะ
Man Bun
ทรงนี้ถูกหลายๆ คนจำกัดความมันไว้ว่า ทรงผมแบบหนุ่มฮิปสเตอร์ ลักษณะของผมทรงนี้คือ การมัดรวบ เลียนแบบลักษณะการทำบันแบบผู้หญิง เป็นการรวบผมหน้าเก็บขึ้นไป ก็เหมาะกับหนุ่มผมยาวในบ้านเราที่ไม่ไหวกับอากาศอันอบอ้าวแบบนี้ค่ะ
Top Knot
ทรงนี้เปรียบเสมือน Undercut บวกกับ Man Bun ค่ะ เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่จะทำให้คุณดูเป็นทั้งหนุ่มเซอร์ และสามารถปรับนำมาใช้ในลุคที่เป็นทางการได้ด้วย
Fade
ผมทรงนี้ค่อนข้างคล้ายกับ Undercut มากๆ จริงๆ มันก็คือ Undercut เลยล่ะ แต่ด้านข้างจะถูกไถให้เตียน เสมือนสกินเฮดเบอร์หนึ่งกันไปเลย อะ อากาศร้อนขนาดนี้ รออะไรอยู่ล่ะค่ะหนุ่มๆ
Side Part
เป็นทรงผมสุดคลาสสิคที่ทำกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ เป็นทรงที่จะทำให้คุณดูเป็นลุคหนุ่มสะอาดสะอ้าน เป็นทางการ ดู Gentleman กันสุดๆ วิธีการก็คือ การนำเจลมาปาดผมไปด้านข้างให้เรียบร้อยเท่านั้นเอง
Pompadour
ทรงนี้เราเห็นว่ากำลังมาแรงในบ้านเราทีเดียวค่ะ ดูไปดูมาก็เหมือน Undercut อีกนั่นแหละค่ะ เพียงแค่ว่าเราจะเน้นการจัดแต่งทรงผมด้านบนให้มีลักษณะเหมือนผมหยักศก มีวอลลุ่มของตัวผมมากกว่า ไม่ได้เซตเรียบเหมือนอย่าง undercut ทั่วไป ต้นแบบผมทรงนี้แนะนำให้ดู Elvis Presley ค่ะ
Short Back and Sides
โอย ตาย เอาจริงๆ คือแยกกันแทบไม่ออกอยู่แล้วค่ะ ว่าแต่ละทรงมีความแตกต่างกันอย่างไร จุดสังเกตนี้มีเพียงเล็กน้อยจริงๆ อย่างทรงนี้ ก็ดูเหมือน Fade ใช่ไหมคะ แต่ทว่าเราจะหวีเซต ให้ผมขึ้นจากหน้าผาก ไม่ใช่ปาดไปด้านข้างนั่นเอง
บางคนก็บอกว่าดูแทบไม่ออกจริงๆ ว่าแตกต่างกันอย่างไร แต่ถ้าลองสังเกตดีๆ ผมแต่ละทรงจะมีจุดที่แตกต่างของมันอยู่ ทั้งๆ ที่ดูแล้วก็มีพื้นฐานมาจาก Undercut แทบทั้งนั้น จะแตกต่างก็อยู่ที่การเซตนั่นเองค่ะ หนุ่มคนไหนที่อยากเพิ่มความมีสไตล์ให้กับตัวเองก็ลองนำไปปรับใช้ ไปตัดแต่งให้เข้ากับบุคคลิกของตัวเองดูนะคะ
cr. hairstyleonpoint