CARS

MERCEDES-BENZ DRIVNG EVENT สัมผัสกองทัพรถครบทุกเซกเมนต์ พร้อมเรียนรู้เทคนิคขับขี่ปลอดภัย

By: SPLESS July 1, 2019

สำหรับหนุ่ม ๆ ที่หลงใหลรถยนต์ เชื่อว่าทุกคนต่างสนใจเรื่องสมรรถนะและความเร็วที่รถคู่ใจจะมอบให้ระหว่างขับขี่ แต่ขณะเดียวกันการขับขี่ทุกครั้งยังมีอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือความปลอดภัยที่ได้จากยนตรกรรมที่เราใช้งาน รวมถึงทักษะการขับขี่ที่ถูกต้องซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่ทางเมอร์เซเดส เบนซ์ให้ความสำคัญเสมอมา จึงเป็นสาเหตุให้มีอีเวนต์อย่าง “Mercedes-Benz Driving Events” เกิดขึ้น เพื่อแนะนำวิธีขับขี่ปลอดภัยต่อผู้ร่วมงานทุกคน

เมอร์เซเดส เบนซ์ ประเทศไทย ตอกย้ำวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ด้านความปลอดภัย พร้อมเดินหน้าสานต่อกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยครั้งที่ 16 “Mercedes-Benz Driving Events 2019” นำทีมโดยผู้ฝึกสอนมากฝีมือ

รวมถึงยนตรกรรมหรูและแรงหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น CLS 300 d AMG Premium และ Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupé จำนวนกว่า 24 คัน รวมถึงรถยนต์รุ่นล่าสุด “Mercedes-Benz S 560 e” ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 40 ที่ผ่านมา โดย “Mercedes-Benz Driving Events 2019” จัดขึ้นที่ สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต พัทยา

ก่อนทุกคนจะเตรียมความพร้อมและลงสู่สนาม มร.โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำถึงหนึ่งเรื่องที่ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ความสำคัญและยึดมั่นตลอดมาคือ การคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทางบริษัทจึงได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยอันทันสมัย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในเรื่องการลดอัตราเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ให้เป็นศูนย์ (Accident-Free Driving) ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดบนท้องถนน

บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะการขับขี่ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานระบบความปลอดภัยของรถยนต์จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ และสามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือตนเองและบุคคลรอบข้าง ในกรณีที่เกิดเหตุคับขันเพื่อช่วยลดความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกทางหนึ่ง

กิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัย ‘Mercedes-Benz Driving Events 2019’ จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เสริมทักษะความรู้และวิธีการขับขี่ที่ปลอดภัยให้กับสื่อมวลชน ลูกค้ารถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงสมาชิกแมริออท บอนวอย (Marriott Bonvoy) ของเครือโรงแรมแมริออทอินเตอร์เนชั่นแนล อีกทั้งเพื่อฝึกฝนให้ผู้ขับขี่สามารถคาดการณ์อันตรายต่าง ๆ ได้ล่วงหน้าและสามารถหลบเลี่ยงอุบัติเหตุได้อย่างทันท่วงที

ผู้เข้ารับการอบรมจะได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการขับขี่ ควบคู่ไปกับการใช้ระบบความปลอดภัยใหม่ ๆ ของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ งานครั้งนี้มีรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมทั้งหมด 24 คัน ครบครันในทุกเซกเมนต์

สำหรับไฮไลต์คือรถยนต์รุ่นล่าสุดอย่าง “Mercedes-Benz S 560 e” ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 40 ที่ผ่านมา โดยทุกท่านจะได้รับการฝึกอบรมจากทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพ นำทีมโดย มร. ปีเตอร์ แฮ็คเค็ท ผู้มีประสบการณ์ด้านการฝึกสอนเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปี

ระหว่างการฝึกอบรม เราได้เข้าร่วมทดสอบซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ฐานด้วยกัน ได้แก่ การขับแบบสลาลม (Slalom) ด้วยความเร็วสูง การเปลี่ยนช่องทางวิ่งแบบกะทันหัน (Land Change) พร้อมเรียนรู้อาการของรถและการควบคุมรถอย่างถูกวิธี การเบรกแบบฉุกเฉิน (Emergency Braking) เมื่อพบเจอสิ่งกีดขวางหรือถูกตัดหน้ารถแบบกะทันหัน พร้อมเรียนรู้ระยะทางการหยุดรถแบบปลอดภัยด้วยระดับความเร็วต่าง ๆ หรือการหักหลบสิ่งกีดขวางบนถนนเปียกลื่น พร้อมเปรียบเทียบอาการเสียการทรงตัว อาการเข้าโค้งและหลุดโค้ง (Under/Over Steering) เป็นต้น

ปิดท้ายด้วยการขับแบบ Hot lap เพื่อให้ทุกท่านได้ทดสอบสมรรถนะรถยนต์ในสนามอย่างเต็มที่ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกทุกฐานแล้ว ผู้ขับขี่จะเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัยที่ติดมากับตัวรถได้อย่างเต็มที่

ถ้าพูดถึงเรื่องเทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัย แน่นอนว่ารถยนต์รุ่นใหม่อย่าง S 560 e AMG Premium นั้นเต็มไปด้วยระบบด้านความปลอดภัย มาพร้อมดีไซน์ที่หรูหราทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ 3 ก้านมาพร้อมไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED เทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด พร้อมฟังก์ชัน ULTRA RANGE Highbeam ที่สามารถปรับความสว่างและความยาวของลำแสงไฟหน้าให้ส่องได้ไกลกว่า 650 เมตรโดยอัตโนมัติและเสริมความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างจาก AMG พร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi-spoke ขนาด 20 นิ้ว สีไทเทเนียมเกรย์

ด้านดีไซน์ภายในห้องโดยสาร เมอร์เซเดซ-เบนซ์ได้มอบที่สุดแห่งความสะดวกสบายจากระบบ ENERGIZING Comfort Control เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ผ่อนคลายร่างกายและอารมณ์ในระหว่างการเดินทาง เพียงแค่ ‘กดปุ่ม’ เพื่อควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน เช่น ระบบปรับอากาศ ระบบฉีดน้ำหอม ระบบฟอกอากาศ ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Premium Ambient Light) เสียงดนตรี ฟังก์ชันระบายอากาศและอุ่นที่นั่ง พร้อมระบบนวดสำหรับเบาะคู่หลัง

ผู้โดยสารสามารถเลือกโปรแกรมผ่อนคลายได้ 4 แบบ คือ Refresh, Vitality, Warmth และ Joy โดย The S 560 e AMG Premium จะมาพร้อมกับเบาะนั่งคู่หน้าและคู่หลังหุ้มหนัง Exclusive nappa  ที่สามารถปรับเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังฝั่งซ้ายให้เอนนอนได้ถึง 43.5 องศา พร้อมที่รองขาแบบปรับระดับได้ ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย พร้อม Apple Carplay™ และ Android Auto

ด้านเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย The S 560 e AMG Premium มาพร้อมระบบ Active Distance Assist DISTRONIC ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า ทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกระจังหน้า และกล้อง STEREO CAMERA ที่ติดตั้งอยู่บนกระจกบังลมหน้าในการคำนวณระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าที่สัมพันธ์กับความเร็วของรถในขณะนั้นโดยการเพิ่มและลดความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ

Mercedes-Benz S 560 e AMG Premium มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะแบบใหม่  (9G-TRONIC) ที่ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงลงกว่าเดิมถึง 6.5% อีกทั้งยังช่วยให้การขับเคลื่อนมีความนุ่มนวลมากขึ้น ลดเสียงรบกวนได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้สามารถลดระดับเกียร์ลงได้หลายระดับในกรณีที่ต้องการเร่งแซงอย่างรวดเร็ว

S 560 e นั้น สามารถรักษาระดับของระบบช่วงล่างให้มีความสมดุลได้ตลอดการเดินทางแม้ว่าจะมีผู้โดยสารหรือสัมภาระจำนวนมาก เนื่องจากรถยนต์รุ่นนี้มีระบบปรับระดับช่วงล่างที่ทำงานโดยใช้กลไกการอัดหรือระบายอากาศ ทั้งนี้ ระบบสามารถยกความสูงของตัวรถเพิ่มได้ 30 มิลลิเมตร เพื่อให้ตัวรถสูงพ้นจากพื้นถนนมากเพียงพอ และเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบจะปรับลดความสูงของตัวรถลง 20 มิลลิเมตรโดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้รถลู่ลมยิ่งขึ้นและเสริมเสถียรภาพในการขับขี่


Mercedes-Benz S-Class ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชนิดใหม่ที่ประจุไฟฟ้าได้มากกว่าเดิม ส่งผลให้ระยะทางสูงสุดสำหรับการขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวเพิ่มขึ้นจากเจเนอเรชั่นก่อนหน้าได้สูงสุดถึง 60% เมอร์เซเดส-เบนซ์ใช้เซลล์แบตเตอรี่รุ่นใหม่ซึ่งเป็นส่วนผสมของลิเธียม-นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์ (Li NMC) ทั้งนี้ ระบบแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ตระกูล S-Class รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ผลิตโดยบริษัทดอยช์ แอกคิวโมทีฟ (DeutscheACCUMOTIVE) บริษัทลูกของกลุ่มบริษัทเดมเลอร์

ขนาดของแบตเตอรี่นั้นมีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อนหน้าและประจุไฟฟ้าได้มากกว่าเดิมประมาณร้อยละ 50 หากใช้เครื่องประจุไฟฟ้าวอลล์บอกซ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์และใช้กำลังไฟฟ้าสูงสุด ผู้เป็นเจ้าของจะประจุไฟฟ้าจากความจุร้อยละ 10 จนเต็มได้ในเวลาประมาณ 90 นาที (ในสภาวะปกติ) และประมาณ 5 ชั่วโมงหากประจุไฟฟ้าโดยใช้กำลังไฟฟ้าจากเต้ารับทั่วไปตามบ้าน

ต้องขอบคุณ Mercedes-Benz Driving Events ที่เปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสสมรรถนะและความปลอดภัยของ Mercedes-Benz S 560 e AMG Premium รวมถึงยนตรกรรมรุ่นต่าง ๆ และมอบประสบการณ์ดี ๆ อีกทั้งได้เรียนรู้เทคนิคการขับขี่จากนักขับมืออาชีพที่สามารถนำไปใช้งานจริง ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นประโยชน์กับผู้ร่วมกิจกรรมเท่านั้นแต่ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนอีกด้วย

สำหรับหนุ่ม ๆ ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ในปีถัดไปสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ facebook.com/MercedesBenzThailand แล้วมาสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งปลอดภัยและเหนือระดับจากยนตรกรรมของ เมอร์เซเดส เบนซ์ไปพร้อมกันกับเราในงานครั้งต่อไป

 

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line