CARS

เอ็มจี ความสำเร็จของยานยนต์และนวัตกรรม ที่ได้รับการตอบรับจากผู้ชายไทยมาตลอด 5 ปี

By: SPLESS February 18, 2019

ถ้าพูดถึงชื่อ MG (เอ็มจี) หนุ่ม ๆ ในบ้านเราคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์  ที่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกตั้งปี 2556 ด้วยรถยนต์ที่มาพร้อมนวัตกรรมยานยนต์ที่ทันสมัยเข้ามาสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทย ซึ่งนับเป็น 5 ปีที่พวกเขานำเสนอจุดเด่นไม่ว่าจะเป็นด้านงานออกแบบและสมรรถนะของตัวรถ รวมถึงนวัตกรรมสำหรับสนับสนุนการขับขี่ที่เหนือระดับ

ยกตัวอย่างจากการที่พวกเขาเป็นผู้ผลิตรายแรกที่มีการติดตั้งซันรูฟ (Sunroof) ในรถยนต์ขนาดเล็กและนำระบบปฏิบัติการอัจฉริยะอย่าง i-SMART ซึ่งเป็นระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่รองรับการสั่งการในรถด้วยเสียงภาษาไทย รวมถึงการพัฒนางานด้านบริการเพื่อให้สามารถดูแลลูกค้าแบบครบวงจรและการดำเนินงานด้านการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย โดยปัจจุบันเอ็มจีมีโชว์รูมกว่า 100 แห่งครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ

ทั้งหมดทำให้ในปี 2561 ที่ผ่านมาเอ็มจีมียอดขาย 23,740 คัน เติบโตขึ้นเกือบ 100% เมื่อเทียบกับปี 2560  ทั้งนี้ในต้นปี 2562 นี้ บริษัทฯ จะมียอดขายรถยนต์ในประเทศครบ 50,000 คัน ในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปีของการดำเนินงาน นับตั้งแต่การขายรถยนต์คันแรก ทั้งนี้การเติบโตดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของเอ็มจีและแนวทางการบริหารงานที่เป็นเอกลักษณ์ จนสร้างการตอบรับจากผู้ชายชาวไทยได้เป็นอย่างดี

5 ปีกับ 5 โมเดลยอดนิยมของ MG

หนุ่ม ๆ ในเมืองไทยได้สัมผัสกับความยอดเยี่ยมของเอ็มจีเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคมปี 2557 โดยทางเอ็มจีได้เริ่มจำหน่ายรถยนต์คันแรกคือ MG 6 รถยนต์นั่งในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ (C-Segment) ดีไซน์สปอร์ต ซึ่งโดดเด่นทั้งในด้านการออกแบบ สมรรถนะ และความปลอดภัย จากนั้นในช่วงเดือนเมษายน 2558 ได้มีการแนะนำรถยนต์  MG 3 ที่มาพร้อมรูปลักษณ์และสีสันที่โดดเด่นพร้อมการติดตั้งซันรูฟ (Sunroof) ในรถยนต์ขนาดเล็กเป็นครั้งแรกของตลาดเมืองไทย ในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 เอ็มจีได้แนะนำรถยนต์ MG 6 ใหม่ ที่มีการเพิ่มฟังก์ชันที่เหนือระดับพร้อมติดตั้งเทคโนโลยี inkaNet และรถยนต์ MG 5 รถยนต์ในกลุ่มซับคอมแพ็คคาร์แบบ 4 ประตู สไตล์คูเป้ ที่ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่ห้องโดยสารขนาดใหญ่เทียบเท่ารถคอมแพ็คคาร์ ต่อมาในปี 2559 ได้เปิดตัวรถยนต์ MG GS รถสปอร์ต SUV ที่มีสมรรถนะสูงรุ่นหนึ่ง จนกระทั่งในปี 2560 ได้แนะนำรถยนต์ MG ZS  สมาร์ทเอสยูวีที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART และล่าสุดในกลางปี 2561 ที่ผ่าน ได้มีการแนะนำ MG3 ใหม่ ซึ่งมาพร้อมระบบ i-SMART และระบบความปลอดภัยครบครันซึ่งให้ความสนุกในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ ด้วยนวัตกรรมอัจฉริยะ

เอสเอไอซี คอร์ปอเรชั่น บริษัทแม่ของเอ็มจี ได้ทำการส่งต่อแนวทางในการพัฒนารถยนต์แห่งอนาคต เพื่อให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ในทุกมิติ ด้วยการกำหนดแกนหลัก  4 ประการคือความเป็นอัจฉริยะ (Intelligent) การเชื่อมต่อเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเข้ากับระบบภายในรถยนต์ (Internet) การใช้พลังงานทางเลือก (New Energy) และการเป็นทรัพยากรที่สามารถใช้ร่วมกันได้ (Sharing) เอ็มจีจึงมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถและผลักดันเทคโนโลยีดังกล่าวในยานยนต์ของพวกเขาเอง

โดยในปี 2558 เอ็มจีได้แนะนำนวัตกรรมการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่กับรถยนต์เอ็มจีในแบบเรียลไทม์ ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือภายใต้ชื่อ inkaNet ต่อมาในปี 2559 เอ็มจีได้แนะนำระบบปฏิบัติการอัจฉริยะในชื่อ i-SMART สู่ตลาดรถเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า ในฐานะระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะระบบแรกและระบบเดียวในโลกที่รองรับการสั่งการในรถด้วยเสียงภาษาไทยและยังสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่  โดยเทคโนโลยี i-SMART ถูกนำมาใช้งานครั้งแรกในรถยนต์รุ่น MG ZS  ก่อนจะมีการติดตั้งใน MG3 ใหม่ และได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้รถทั้งสองรุ่นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

บริการที่ครอบคลุมเหนือระดับ

นอกจากนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของฐานลูกค้าซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เอ็มจีได้เปิดบริการหลังการขายเพื่อการดูแลลูกค้าได้อย่างครบวงจร ภายใต้ชื่อ “แพสชั่น เซอร์วิส”(Passion Service) ได้แก่ การรับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร  การบริการเช็คระยะและตรวจสอบสภาพรถนอกสถานที่ (Mobile Services) บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) บริการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (MG Call Centre) ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีบริการรถสำรองระหว่างรอซ่อม เพื่อยกระดับความสะดวกสบายให้ลูกค้า พร้อมโครงการรถมือสองคุณภาพเยี่ยม แอพพรูฟ เซอร์ติฟายด์ยูส คาร์ บาย เอ็มจี (APPROVED Certified Used Car by MG) เพื่อสร้างความมั่นใจและพึงพอใจสูงสุดใหญ่แก่ผู้ใช้รถยนต์เอ็มจีทุกคน

ศูนย์บริการมาตรฐานที่ครอบคลุม ให้ผู้ใช้อุ่นใจในการรับบริการ

อีกเรื่องที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ โชว์รูมและศูนย์บริการที่ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในปณิธานของเอ็มจี ในการสร้างบริการที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าทุกคน โดยพวกเขาได้ขยายการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการไปทั่วประเทศไปแล้วกว่า 100 แห่ง และในปีพ.ศ. 2562 นี้ เอ็มจีตั้งเป้าที่จะขยายเพิ่มเป็น 140 แห่ง เพื่อให้พร้อมต่อการพัฒนาและยกระดับงานด้านการบริการให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่เหนือกว่าและมีมาตรฐานในทุกโชว์รูม

ทุ่มงบลงทุน 10,000 ล้านบาท เปิดโรงงานผลิตในประเทศไทย

ความเชื่อมั่นในศักยภาพและเศรษฐกิจของประเทศไทย บวกกับความมุ่งมั่นที่จะยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ทำให้ในปี พ.ศ. 2560 เอ็มจีตัดสินเปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ด้วยงบการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาทภายในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด แห่งที่ 2 จังหวัดชลบุรี โดยโรงงานแห่งนี้สามารถผลิตรถยนต์ได้สูงถึง 100,000 คันต่อปี เนื่องจากมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มีการติดตั้งระบบตรวจสอบคุณภาพที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก อีกทั้งเป็นโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยในปัจจุบันโรงงานแห่งนี้คือฐานการผลิตรถยนต์เอ็มจีพวงมาลัยขวาสำหรับจำหน่ายทั้งในประเทศไทย ภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลก

ข้อเสนอสุดพิเศษ ฉลองยอดขายครบ 50,000 คัน

เอ็มจียังเฉลิมฉลองยอดขายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทยครบ 50,000 คัน โดยทางบริษัทฯ ได้ร่วมกับผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีทั่วประเทศ จัดทำข้อเสนอพิเศษให้กับทั้งลูกค้าปัจจุบันและผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์เอ็มจีอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เอ็มจีได้เตรียมข้อเสนอพิเศษทั้งดอกเบี้ยต่ำสุด 0% นาน 5 ปี หรือ ดาวน์เริ่มต้นเพียง 5% ในขณะที่ลูกค้าที่นำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการในช่วงนี้ไปจนถึงเดือนมีนาคมจะได้รับส่วนลดและของที่ระลึกสุดพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่ซื้อรถยนต์เอ็มจีทุกรุ่นตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน จะได้รับการขยายระยะเวลาการรับประกันคุณภาพรถยนต์เอ็มจีจาก 4 ปี  หรือ 120,000 กิโลเมตรเป็น 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตรอีกด้วย

สำหรับหนุ่ม ๆ ที่สนใจต้องการข่าวสารและเคลื่อนไหวของเอ็มจีเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ www.mgcars.com และ www.facebook.com/MGcarsThailand หรือโทรติดต่อสอบถาม MG Call Center โทร 1267

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line