สำหรับผู้ชายอย่างเราการตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคันเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญและเชื่อว่าแต่ละคนมีเหตุผลในการเลือกซื้อรถที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่นอกจากเรื่องของสมรรถนะที่เป็นความต้องการพื้นฐานแล้ว การใช้งานรถยนต์ในปัจจุบันยังมีเรื่องที่เราควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัย ความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีสนับสนุนผู้ขับขี่ที่ทันสมัยและดีไซน์ที่ชวนหลงใหลซึ่งทั้งหมดสามารถมีรวมอยู่ในรถยนต์คันเดียวในราคาที่คุ้มค่าได้ อย่างไรก็ตามถ้าพูดถึงเรื่องความคุ้มค่า คงพลาดไม่ได้ที่ต้องพูดถึง C-SUV รุ่นล่าสุดจากค่ายรถยนต์เอ็มจีอย่าง NEW MG HS ที่วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนมาหาคำตอบไปพร้อมกันว่า ทำไมราคาค่าตัว 1.1 ล้านบาท ถึงเป็นราคาที่สุดแสนจะคุ้มสำหรับค่าตัวของยนตรกรรมคันนี้ มาเจาะลึกลงรายละเอียดความคุ้มค่าของรถคันนี้ไปพร้อมกัน เริ่มต้นที่มุมมองแรกที่ทุกคนจะสัมผัสได้จากรถยนต์คือ เรื่องของงานดีไซน์ NEW MG HS เป็นเอสยูวีที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยทีมออกแบบเน้นผสานความหรูหราเข้ากับความสปอร์ตและถ่ายทอดออกมาเป็นเส้นสายตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่โค้งมน ในเวลาเดียวกันรถยนต์คันนี้ยังคงจุดเด่นในงานดีไซน์ของ MG ด้วยกระจังหน้าซึ่งมาพร้อมแนวคิด ‘Stella Magnetic Field ที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่ดึงดูดเข้าหากัน โดยกระจังหน้าและเส้นสายของรถเข้ากันได้อย่างลงตัวกับไฟหน้าแบบ LED Projector ที่พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) และไฟท้ายแบบ Space Light Field ในส่วนของไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและหลังจะแสดงผลไล่ระดับแบบ Sequential ซึ่งช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับเอสยูวีคันนี้ยิ่งขึ้น พร้อมเสริมความดุดันด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 18
คงยากจะปฏิเสธว่าทุกวันนี้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากขึ้นเรื่อย ๆ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ชายอย่างเรา ๆ ควรจะหันมาทำความรู้จักเทคโนโลยีด้านยนตรกรรมชนิดนี้ให้เข้าใจมากขึ้น ทั้งระบบการทำงานรวมไปถึงส่วนประกอบพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้า เพราะเราเชื่อว่าอีกไม่นาน ความรู้ในด้านนี้จะมีประโยชน์สำหรับการเลือกรถยนต์ไฟฟ้าสักคันมาใช้งานแน่นอน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV ส่วนประกอบสำคัญที่สุดที่พวกเราควรทำความรู้จักให้ดี นั่นก็คือ แบตเตอรี่ ที่เปรียบได้ดั่งหัวใจของรถยนต์ไฟฟ้า ถ้าน้ำมันและเครื่องยนต์เผาไหม้คือหัวใจที่ขับเคลื่อนรถยนต์ทั่วไป แบตเตอรี่ขับเคลื่อนที่ติดตั้งอยู่ในตัวรถคือแหล่งพลังงานหลัก ทำหน้าที่ส่งกำลังไฟฟ้าไปยังมอเตอร์เพื่อเริ่มต้นการขับเคลื่อนรถ คำถามที่สำคัญคือ รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ในบ้านเรา ระบบแบตเตอรี่แบบไหนที่จะทำให้ขับขี่ได้อย่างเต็มสมรรถนะมากที่สุด? ปกติการทำงานของ ‘แบตเตอรี่ขับเคลื่อน’ จะสามารถทำงานได้ดี และดึงสมรรถนะสูงสุดเมื่ออยู่ภายใต้อุณหภูมิที่เหมาะสม การทำงานของแบตเตอรี่ขับเคลื่อนจึงต้องมีระบบควบคุมอุณหภูมิซึ่งจะช่วยให้แบตเตอรี่ขับเคลื่อนสามารถทำงานได้ดีภายใต้สภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งต้องบอกก่อนว่าระบบนี้มีความแตกต่างกันไปในรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละแบรนด์ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่หลากหลายตามแต่ละภูมิภาค โดยระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ขับเคลื่อนจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 ระบบ ดังต่อไปนี้ ระบบ Heating System: ระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ขับเคลื่อน Heating System สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในประเทศที่มีอากาศหนาว หรืออุณหภูมิติดลบ โดยภายใต้สภาวะแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำ ระบบจะทำหน้าที่ส่งผ่านความร้อนเพื่อเพิ่มอุณหภูมิของแบตเตอรี่ขับเคลื่อนให้สูงขึ้น ทำให้มีอุณหภูมิเหมาะสมกับการขับขี่ใช้งานต่อไป ระบบต่อมาคือ ระบบ Cooling System: เป็นระบบที่เหมาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานในประเทศเขตร้อน เช่นประเทศในทวีปเอเชียและประเทศไทย ที่มีอุณหภูมิสูงในบางฤดูกาล โดยระบบ Cooling System จะทำหน้าที่ในการควบคุมความร้อนของแบตเตอรี่ขับเคลื่อน
เพิ่งผ่านไปสด ๆ ร้อน แบบล้ำ ๆ เพราะถือเป็นครั้งแรกของ MG ที่เปิดตัวรถใหม่ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งสามารถรับชมได้พร้อมกันทั่วประเทศไทยเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กับการเปิดตัว NEW MG ZS โฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ตอกย้ำการเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเอสยูวี ด้วยอีกขั้นของยนตรกรรมภายใต้นิยาม “SMART UP” ยกระดับ สู่การเป็น “สมาร์ทเอสยูวี ที่เหมาะกับชีวิตสมาร์ทของทุกคน” และเมื่อพูดถึงการเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถเอสยูวี เราคงต้องย้อนความไปถึง MG ZS โฉมแรกเมื่อปี 2560 ที่เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกด้วยความตั้งใจที่จะพัฒนารถยนต์อัจฉริยะ หรือ สมาร์ทคาร์ จากการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการรถยนต์ในเมืองไทย ณ ตอนนั้น กับการติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i – SMART ซึ่งเป็นระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะระบบแรก และระบบเดียวในโลกที่รองรับการสั่งการในรถด้วยเสียงภาษาไทย ผสานด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัย รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ที่สำคัญคือทำราคาให้เข้าถึงได้ง่าย จนทำให้ยอดขายถล่มทลาย พา MG ZS โฉมแรก ขึ้นแท่นหนึ่งในผู้นำของกลุ่มรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก หรือ B-SUV ด้วยยอดขายสะสมที่มากกว่า 30,000 คัน โดยใช้เวลาเพียง
ต้องยอมรับว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังเข้ามามีบทบาทกับชีวิตผู้ชายเรามากขึ้นทุกวัน ทำให้ในปัจจุบันหนุ่ม ๆ หลายคนต่างมองหายนตรกรรมสายพันธุ์ EV ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเอง ซึ่งโจทย์สำคัญสำหรับรถยนต์ที่หลายคนมองหานั่นก็คือ “รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน” รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานง่ายสำหรับหลายคนอาจหมายถึง รถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ระยะสั้นในเขตเมืองและการเดินทางระยะไกลออกนอกเมือง รวมถึงมีการดูแลรักษาที่ไม่จุกจิก มีราคาค่าซ่อมบำรุงไม่แพงจนเกินไป ซึ่งถ้าจะมีรถยนต์สักคันที่ตรงกับความต้องการทั้งหมดที่พูดมา เราคิดว่า “NEW MG ZS EV” คืออีกหนึ่งยนตรกรรมยุคใหม่ที่มาพร้อมคุณสมบัติซึ่งตอบสนองความต้องการทั้งหมดได้อย่างครบครัน NEW MG ZS EV เป็นรถยนต์ในเซกเมนต์ Sport Utility Vehicle (SUV) คันแรกของเอ็มจีที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ โดดเด่นด้วยงานดีไซน์ภายนอกมาในสีฟ้า “Copenhagen Blue” ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor และแบตเตอรี่ลิเธียม ไอออนความจุ 44.5 kWh ที่ให้อัตราเร่ง 0-50 กิโลเมตรในเวลา 3.1 วินาที ไม่เพียงเท่านั้นรถคันนี้ยังมาพร้อมองค์ประกอบอื่น ๆ ที่จะทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ใช้งานทุกคน หลายคนเคยเข้าใจว่าขั้นตอนการชาร์จประจุไฟของรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องยุ่งยากและสามารถทำได้ในสถานที่เฉพาะเท่านั้น แต่ NEW MG
ปัจจุบันผู้ชายอย่างเราต่างสนใจรถยนต์เซกเมนต์เอสยูวี หรือ Sport Utility Vehicle เพราะเป็นหนึ่งในเซกเมนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย โดดเด่นเรื่องสมรรถนะ ความปลอดภัยรวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มาพร้อมกับตัวรถ ค่ายรถยนต์เอ็มจี (MG) เข้าใจความต้องการของผู้ใช้รถเป็นอย่างดี ปีที่ผ่านมาพวกเขาเปิดตัวและวางขายรถยนต์เอสยูวี 2 รุ่นล่าสุดคือ NEW MG HS และเอสยูวีพลังไฟฟ้า 100 % NEW MG ZS EV ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนที่กำลังมองหารถยนต์เอสยูวีที่ขับขี่อย่างปลอดภัยด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์ รถยนต์ 2 รุ่นทั้ง NEW MG HS และ NEW MG ZS EV ได้รับคะแนนด้านความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาวจากการทดสอบการชนโดยสถาบันทดสอบความปลอดภัยรถยนต์ของยุโรป หรือ Euro NCAP* มาทำความรู้จักกับเอสยูวีทั้ง 2 คันให้ดีขึ้นไปพร้อมกัน เริ่มที่ NEW MG ZS EV เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100 % มาพร้อมพลังการขับขี่ทรงพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet
ประสบการณ์ที่แตกต่างกันระหว่างการเดินทางแต่ละครั้ง คือหนึ่งในเสน่ห์ของการใช้ชีวิตสำหรับผู้ชายอย่างเรา เพราะพวกเราต่างหลงใหลในการมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง ด้วยจุดหมายปลายทางที่ไม่จำเจซึ่งจะช่วยให้เรามีโอกาสได้ทำความรู้จักตัวเองและเห็นโลกในมุมมองที่ต่างออกไป เพื่อตอบโจทย์การออกเดินทางที่แตกต่าง แน่นอนเราจะต้องมีพาหนะที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าเป็นระยะทางใกล้หรือไกล ขึ้นเหนือหรือลงใต้ รถยนต์ที่เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจของเราจะต้องมีสมรรถนะและเทคโนโลยีที่พร้อมตอบสนองการเดินทางทุกรูปแบบ และขับเคลื่อนบนท้องถนนอย่างสง่างาม รวมถึงมอบความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ซึ่งวันนี้คุณจะพบคำตอบที่ตามหาจากยนตรกรรมคันใหม่ของ Morris Garages (MG) กับ NEW MG HS คันนี้ NEW MG HS รถยนต์ในเซกเมนต์ Sport Utility Vehicle (SUV) คันใหม่ล่าสุดจาก MG ที่จะมามอบประสบการณ์การเดินทางครั้งใหม่ภายใต้แนวคิด “ELEGANCE” สะท้อนรสนิยมของผู้ขับขี่รวมถึงตอบโจทย์ความต้องการของหนุ่ม ๆ ที่หลงใหลในการผจญภัยด้วยดีไซน์ของตัวรถที่สวยงามทั้งภายนอกและภายใน บวกกับสมรรถนะและระบบความปลอดภัยซึ่งจะเข้ามายกระดับการเดินทางของเราให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นกว่าเดิม ความโดดเด่นของดีไซน์ภายนอกของ NEW MG HS ที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันตั้งแต่หัวจรดท้ายคัน เริ่มจากความสวยงามด้านหน้าตัวรถที่โดดเด่นจากกระจังหน้าขนาดใหญ่ ดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะของ MG ที่ได้แรงบันดาลใจจากแนวคิด “Stella Magnetic Field” คล้ายกับกลุ่มดาวบนฟ้าที่ดึงดูดเข้าหากัน ไฟหน้าโฉบเฉี่ยวแบบ LED Projector ที่มาพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ตอนกลางวัน
คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงถ้าเราจะพูดว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังก้าวเข้ามามีบทบาทและกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตคนเรามากขึ้น โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่กำลังมองหารถยนต์พลังงานสะอาดซึ่งเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์คนใช้รถใช้ถนนที่ต้องการเปลี่ยนจากการใช้รถยนต์พลังงานน้ำมันสู่รถยนต์รูปแบบที่ใช้พลังงานทางเลือกอันมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ชายอย่างเราถ้าต้องเลือกซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสักคัน คงมีปัจจัยมากมายหลายข้อถูกนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้หลายคนหลงเข้าใจว่าถ้าเลือกเปลี่ยนรถคันโปรดของตัวเองจากรูปแบบเดิมสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แล้วจะมีข้อกังวลหลายข้อตามมา ทั้งเรื่องสมรรถนะ การใช้งาน การชาร์จไฟ รวมไปถึงการดูแลรักษาซ่อมบำรุง แต่ความสงสัยและข้อกังวลที่เคยมีเหล่านี้จะหมดไป ถ้าทุกคนได้รู้จัก “NEW MG ZS EV” รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ที่จะทำให้คุณรู้สึก “ง่าย” ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การครอบครองไปจนถึงใช้งาน NEW MG ZS EV รถยนต์ในเซกเมนต์ Sport Utility Vehicle (SUV) คันแรกของเอ็มจีประเทศไทยที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ยนตรกรรมที่มาพร้อมความล้ำสมัยคันนี้เหมาะสำหรับหนุ่ม ๆ ที่กำลังมองหารถยนต์พลังงานทางเลือกที่โดดเด่นทั้งด้านคุณภาพ สมรรถนะ ความอัจฉริยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหนือสิ่งอื่นใดนี่คือรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่จะเปลี่ยนความคิดเดิม ๆ และทำให้ทุกคนมีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ EV ที่ง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ ดึงดูดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็น ด้วยความโดดเด่นด้านดีไซน์เอกลักษณ์ของรถยนต์ SUV แบบฉบับเอ็มจีที่ผสมผสานความสวยงามและความทันสมัยเอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยเฉพาะตัวถังแบบพิเศษที่เลือกใช้สีฟ้า “Copenhagen Blue” สร้างความโดดเด่นให้ทุกท่วงท่าการขับขี่บนท้องถนน กระจังหน้าติดตั้งจุดชาร์จไฟซึ่งเข้ากันเป็นอย่างดีกับล้ออัลลอยขนาด 17
วันนี้ผู้ชายทุกคนที่มีความหลงใหลในโลกของยนตกรรม และได้ติดตามวิวัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมรถยนต์คงทราบกันดีว่า ในปัจจุบันรถยนต์พลังงานทางเลือกกำลังก้าวเข้ามามีบทบาทมากขึ้นต่อผู้คนทั่วโลก ที่ต่างตื่นตัวในเรื่องการหาพลังงานสะอาดเพื่อทดแทนการใช้น้ำมัน ทั้งการออกกฎเกณฑ์ที่เตรียมพร้อมสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจังในฝั่งยุโรป การเกิดขึ้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากทั้งแบรนด์รถยนต์ใหม่และเก่า ซึ่งมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดในหลายประเทศ และหลายคนคงมีคำถามเกิดขึ้นว่า แล้วทิศทางของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังก้าวไปในทิศทางไหน? ขณะเดียวกันในบ้านเราค่าย MG (เอ็มจี) ก็เล็งเห็นถึงทิศทางและความสำคัญของเทคโนโลยีสำหรับอนาคตดังกล่าว ทำให้เกิดงานสัมมนา “EVolution Of Automotive” ซึ่งถูกจัดขึ้นเพื่อทำความเข้าใจและผลักดันการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ให้พร้อมสำหรับยานยนต์แห่งอนาคตที่จะเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของเรามากขึ้นในอนาคตอันใกล้มาก ๆ นี้ เราได้เข้าร่วมงานสัมมนารถยนต์ MG ประเทศไทย ที่จัดขึ้นเพื่อแลกแชร์มุมมองและวิเคราะห์ความพร้อมของประเทศไทยต่อการพัฒนาและยกระดับการใช้ “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” (EV) ให้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น ในงานสัมมนา “EVolution of Automotive” เพื่อนำเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในทุกมิติ โดยในงานนี้ได้ 7 Guru ผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งภาครัฐและเอกชน มาร่วมสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางความเป็นไปได้ และความคืบหน้าในการขับเคลื่อนประเทศไทยของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือกที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นไปอีกขั้น ภายในงานสัมมนาครั้งนี้มีประเด็นที่น่าสนใจหลายอย่าง คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ปัจจุบันประชาคมโลกให้ความสำคัญกับการใช้รถยนต์พลังงานทางเลือก โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เพราะตระหนักถึงคุณภาพชีวิตควบคู่กับความต้องการลดภาวะมลพิษในระยะยาว เนื่องจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% จึงไม่มีการปล่อยไอเสียสู่ธรรมชาติ พร้อมพัฒนาการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าที่เงียบ มีอัตราเร่งที่ดี และสามารถขับได้ระยะทางที่ไกลมากขึ้น
ระหว่างที่ผู้ชายอย่างเรามุ่งมั่นใช้ชีวิตบนเส้นทางของตัวเองอย่างเต็มที่อยู่ทุกวัน ขณะเดียวกันเวลาทุกวินาทีที่เดินไปข้างหน้าเรื่องของเทคโนโลยีล้ำสมัยในโลกของยานยนต์ก็ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศแห่งนวัตกรรมอย่างจีนที่กำลังถูกจับตามองจากคนในแวดวงการรถยนต์ทั่วโลกแบบไม่คลาดสายตา SAIC Motor Corporation หนึ่งในบริษัทยานยนต์ระดับโลกจากประเทศจีนซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ เอ็มจี ประเทศไทยที่กำลังมุ่งเน้นพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือกออกมา เพื่อให้หนุ่ม ๆ ทั่วโลกได้มีทางตัวเลือกในการซื้อรถยนต์เพิ่มมากขึ้นในอนาคต ด้วยการพัฒนาภายใต้ 4 แกนหลักคือรถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (Electrification), ระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligence Connectivity) , การใช้รถยนต์ร่วมกัน (Car Sharing) และความเป็นสากล (Globalization) โดยพวกเขาใช้ประสบการณ์จากการทำธุรกิจในกว่า 60 ประเทศทั่วโลกและศูนย์วิจัยพัฒนาที่ตั้งอยู่ทั้งในประเทศจีน, อังกฤษและสหรัฐอเมริกา รวมถึงขยายฐานการผลิตมาที่ประเทศไทย, อินโดนีเซียและอินเดียเมื่อไม่นานมานี้ มาในปีนี้พวกเขาได้ทำการเปิดตัวรถยนต์หลากหลายรูปแบบทั้งชนิดขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Cell) , รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ (EV) รวมถึงรถต้นแบบที่สามารถเชื่อมต่อกับการสื่อสาร 5G ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกับ China Mobile, Huawei และ Shanghai International Auto City เพื่อสร้างอาณาจักรของรถยนต์แห่งอนาคต โดยทั้งหมดจัดแสดงในงาน Auto
ถ้าพูดถึงชื่อ MG (เอ็มจี) หนุ่ม ๆ ในบ้านเราคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ที่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกตั้งปี 2556 ด้วยรถยนต์ที่มาพร้อมนวัตกรรมยานยนต์ที่ทันสมัยเข้ามาสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทย ซึ่งนับเป็น 5 ปีที่พวกเขานำเสนอจุดเด่นไม่ว่าจะเป็นด้านงานออกแบบและสมรรถนะของตัวรถ รวมถึงนวัตกรรมสำหรับสนับสนุนการขับขี่ที่เหนือระดับ ยกตัวอย่างจากการที่พวกเขาเป็นผู้ผลิตรายแรกที่มีการติดตั้งซันรูฟ (Sunroof) ในรถยนต์ขนาดเล็กและนำระบบปฏิบัติการอัจฉริยะอย่าง i-SMART ซึ่งเป็นระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่รองรับการสั่งการในรถด้วยเสียงภาษาไทย รวมถึงการพัฒนางานด้านบริการเพื่อให้สามารถดูแลลูกค้าแบบครบวงจรและการดำเนินงานด้านการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย โดยปัจจุบันเอ็มจีมีโชว์รูมกว่า 100 แห่งครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งหมดทำให้ในปี 2561 ที่ผ่านมาเอ็มจีมียอดขาย 23,740 คัน เติบโตขึ้นเกือบ 100% เมื่อเทียบกับปี 2560 ทั้งนี้ในต้นปี 2562 นี้ บริษัทฯ จะมียอดขายรถยนต์ในประเทศครบ 50,000 คัน ในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปีของการดำเนินงาน นับตั้งแต่การขายรถยนต์คันแรก ทั้งนี้การเติบโตดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของเอ็มจีและแนวทางการบริหารงานที่เป็นเอกลักษณ์ จนสร้างการตอบรับจากผู้ชายชาวไทยได้เป็นอย่างดี 5 ปีกับ 5 โมเดลยอดนิยมของ MG หนุ่ม ๆ ในเมืองไทยได้สัมผัสกับความยอดเยี่ยมของเอ็มจีเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคมปี 2557 โดยทางเอ็มจีได้เริ่มจำหน่ายรถยนต์คันแรกคือ MG