“MOTORCYCLE EMPTINESS” บทเพลงที่ใช้ริฟฟ์กีตาร์เดียวก็ครองใจคนได้ทั่วโลก ผลงานสุดอมตะของ MANIC STREET PREACHERS

Manic Street Preachers คือวงดนตรีร็อกจากเวลส์ที่สร้างชื่อในช่วงยุค 90’s ปัจจุบันมีสมาชิกเหลือเพียง 3 คน ได้แก่ James Dean Bradfield, Nicky Wire และ Sean Moore พวกเขาสร้างตำนานจนเป็นที่พูดถึงไว้มากมาย โดยเฉพาะเหตุการณ์กรีดแขนเป็นคำว่า “4Real” ต่อหน้าสื่อมวลชนของ Richey Edwards อดีตมือกีตาร์ของวงที่ทำเอาแฟนเพลงทั่วโลกต้องตกตะลึงในความโหดของเขามาแล้ว รวมไปถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับของเจ้าตัวเมื่อปี 1995 ก็กลายเป็นปริศนาที่ยังหาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้มาจนถึงปัจจุบัน

ถึงแม้ว่าเรื่องราวที่เกริ่นมาอาจจะดูไม่ค่อยโอเคซักเท่าไหร่ แต่ถ้ามองข้ามมันไปแล้วมาเจาะลงที่ตัวดนตรีจะพบว่า Manic Street Preachers สร้างผลงานเพลงล้นคุณภาพประดับวงการเพลงไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น “A Design For Life”, “If You Tolerate This Your Children Will Be Next”, “You Stolen The Sun From My Heart” รวมไปถึงเพลงที่เรากำลังจะพูดถึง “Motorcycle Emptiness”

“Motorcycle Emptiness” เป็นผลงานจากอัลบั้ม “Generation Terrorists” ผลงานชุดแรกของพวกเขาที่ ณ เวลานั้นดนตรียังเป็นสไตล์แกลมร็อก/เมทัล กันอยู่ ซึ่งแตกต่างกับในยุคต่อมาหรือยุคปัจจุบันโดยสิ้นเชิง แม้ว่ารสชาติทางดนตรีจะต่างกัน แต่มันก็เป็นการปูแนวทางให้ทางวงจับจุดได้ว่าจะเดินต่อไปในทิศทางไหน เพราะบทเพลงนี้มันกลายเป็นบทเพลงที่ได้รับความนิยมตลอดกาลของ Manic Street Preachers

“Motorcycle Emptiness” ถูกปล่อยให้ฟังครั้งแรกในวันที่ 1 มิถุนายน 1992 ซาวด์ดนตรีมีความแตกต่างจากเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้มเป็นอย่างมาก เพราะมันถูกดีไซน์ให้เป็นเพลงช้าที่เต็มไปด้วยท่วงทำนองของเมโลดี้ที่งดงามแทรกซึมด้วยบรรยากาศของความโดดเดี่ยวเข้ากับชื่อเพลงได้เป็นอย่างดี โดยเมนหลักของเพลงพวกเขาเลือกใช้ริฟฟ์กีตาร์เดิมซ้ำและย้ำตลอดเวลา ซึ่งมันช่วยทำให้เมโลดี้มันเข้าไปยึดติดในโสตประสาทอย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับการวางคำร้องที่แบ่งวรรคแบ่งท่อนไม่ซับซ้อน ตีบวกด้วยท่อนฮุคสุดติดหูเข้าไปอีก องค์ประกอบครบแบบนี้จึงไม่แปลกใจเลยที่มันจะกลายเป็นผลงานที่ได้รับความนิยม

แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากหนังสือ “Rumble Fish” ที่เขียนโดย S.E. Hilton ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวแก๊งค์มอเตอร์ไซด์ ส่วนคำว่า “Under Neon Loneliness” ได้มาจากจากบทกลอน “Neon Loneliness” ที่ประพันธ์โดย Patrick Jones แต่ก็มีการสอดแทรกแง่เรื่องราวของวิถีที่ชีวิตอันว่างเปล่าที่อยู่ที่ถูกครอบงำโดยทุนนิยม โดยการพูดถึงประเด็นเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์อีกหนึ่งอย่างในการเล่าเรื่องราวผ่านบทเพลงของ Manic Street Preachers มาโดยตลอด

ส่วนในตอนแรกพวกเขาได้ตั้งชื่อเพลงนี้ว่า “Go, Buzz Baby, Go” และถูกใช้ในเวอร์ชั่นเดโม่ที่มีคำร้องแตกต่างจากเวอร์ชั่นปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

อีกสิ่งที่น่าสนใจของเพลง “Motorcycle Emptiness” คือการยกกองกันไปถ่ายทำที่เขตชิบูยะ ประเทศญี่ปุ่น บนทางม้าลายที่ใครไปที่นี่ก็ต้องเดินข้ามหรือหยุดถ่ายรูปซักครั้ง และยังไปถ่ายทำกันที่ Cosmo Clock 21 ที่โยโกฮาม่าด้วยเช่นกัน ในฉากไม่มีอะไรมากนอกจากซีนของสมาชิกวงเดินไปเดินมาในโลเคชั่นที่ถูกเซตไว้ แม้จะดูเรียบง่ายแต่ก็เท่ไม่เบาเลยทีเดียว

สำหรับยอดขายของซิงเกิ้ลนี้อยูที่ 200,000 ก็อปปี้ (เฉพาะในสหราชอาณาจักร) โดยในปัจจุบันมียอดเข้าชม MV อยู่ที่ 15 ล้านวิว และมันได้กลายเป็นเพลงที่จะถูกพูดถึงเป็นลำดับแรก ๆ หากนึกถึงวง Manic Street Preachers