Entertainment

เทศกาลดนตรี NEAR NORMAL หนูทดลองของการเปิดประเทศอังกฤษหลังรับวัคซีน

By: unlockmen May 15, 2021

หลังจาก COVID-19 ทำลายทุกอย่างจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติยุคใหม่ จนนำไปสู่วิถีชีวิต New Normal ที่ทุกคนจะต้องเผชิญ ทั้งการใส่แมสก์ เว้นระยะห่าง จนถึงกิจกรรมที่ผู้คนนับพันนับหมื่นต้องอยู่ร่วมกันอย่างงานคอนเสิร์ตต้องหยุดชะงัก และผู้สันทัดกรณีต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คอนเสิร์ตจะเป็นกิจกรรมสุดท้ายที่จะเกิดหลังจากรับวัคซีนจนเกิดเป็นภูมิคุ้มกันหมู่ ทำให้หลายประเทศต่างชะลอการจัดเทศกาลดนตรีจนกว่าจะมั่นใจว่าประชากรของประเทศนั้น ๆ ได้รับวัคซีนเพียงพอ

แต่รัฐบาลอังกฤษ เมืองท่าแห่งวงการดนตรีกลับไม่มองอย่างนั้น พวกเขาคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่บ้านเมืองและผู้คนต้องเดินไปข้างหน้า จึงนำมาสู่การจัดเทศกาลดนตรีขนาดย่อม เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้ทั้งประชาชน นักดนตรี รวมไปถึงมวลมนุษยชาติว่า “เราพร้อมแล้วที่จะกลับมาสู่สภาวะปกติ”

จนเกิดเป็นเทศกาลดนตรีจัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาใน Sefton Park เมืองลิเวอร์พูล โดยมีสักขีพยานในการรับชมถึง 5,000 คน โดยศิลปินผู้ร่วมเป็นหน่วยกล้าตายคือวง Blossoms, The Lathums และ Zuzu นั่นเอง

Melvin Benn จาก Festival Republic กล่าวถึงช่วงเวลาแห่งความกดดันครั้งนี้

ต้องไม่ลืมว่าประเทศอังกฤษเพิ่งจะผ่านช่วงเวลาแห่งความหายนะจากผู้ติดเชื้อระดับหลักหมื่น แถมยังเป็นประเทศที่ก่อเกิดสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งข้ามน้ำข้ามทะเลมาระบาดที่บ้านเรา แต่ในระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลก็ได้รุกหนักในการระดมกำลังปูพรมฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง และทางรัฐบาลเองที่ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน จึงเสนอโครงการนี้โดยให้ทาง Festival Republic เป็นผู้จัดคอนเสิร์ต โดยที่ประกาศหาอาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนจำนวน 5,000 รายที่ผลตรวจเป็นลบ มาลงทะเบียนรับชม

ทีเด็ดคือคอนเสิร์ตนี้สามารถชมได้แบบไม่ใส่หน้ากาก, ไม่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งทั้ง 5,000 คนนี้ต้องเซ็นยินยอมในการเปิดเผยประวัติการเข้าชมเพื่อให้รัฐบาลได้ติดตามและสังเกตการณ์ผู้เข้าชมภายหลังจากชมคอนเสิร์ตด้วย

“พวกเราทำทีเหมือนกับว่าโคโรน่าไวรัสมันไม่เคยเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้”

แต่ถึงกระนั้นก็มีผู้คนมากมายที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการจัดงานที่บ้าระห่ำขนาดนี้

“มันบ้ามากนะ คิดดูสิ รัฐบาลกำลังเอาประชากรจำนวน 5,000 คนมาเป็นหนูทดลอง และถ้าหากมันผิดพลาดขึ้น นั่นหมายถึงคนจำนวน 5,000 คือคลัสเตอร์ก้อนใหญ่เลยนะ”

ประชากรชาวลิเวอร์พูลท่านหนึ่งที่ยังหลอนจากการเป็นพื้นที่สีแดงเข้มยังไม่หายตื่นกลัวจากฝันร้ายในฐานะเมืองที่ต้องเผชิญหน้ากับตัวเลขผู้สูญเสียและผู้เจ็บป่วยที่ผ่านมา

“มีตั้งหลายเมือง ทำไมถึงเลือกเมืองนี้เป็นที่ทดลอง ทั้งที่รัฐบาลเองก็ไม่ได้มีความมั่นใจในการจัด คิดดูสิ 3 วงที่เลือกมายังไม่ใช่วงของลิเวอร์พูลเลย”

แม้กระทั่งผู้ได้รับวัคซีนมาแล้วรายหนึ่งก็ไม่กล้าที่จะไปร่วมงานมหกรรมคอนเสิร์ตครั้งนี้

“จริงอยู่ว่าฉันรับวัคซีนแล้ว และฉันก็ใช้ชีวิตปกติโดยไม่ใส่แมสก์มาร่วมสัปดาห์แล้ว แต่ก็ไม่มั่นใจอยู่ดีว่างานคอนเสิร์ตที่เต็มไปด้วยเหล้าเบียร์ และมันต้องมีคนพกไปมากกว่านั้นแน่ (เธอคงน่าจะหมายถึงพวกยาเสพติดแขนงอื่น) มันจะควบคุมได้จริงเหรอ”

แม้จะมีความเสี่ยงสูงมหาศาล แต่ผู้คนมากมายที่กระหายบรรยากาศดนตรี Live ที่ต้องทนอุดอู้อยู่กับบ้านมานานแรมปี ก็ตอบรับที่จะไปรับชมคอนเสิร์ตนี้จนบัตร Sold Out ในเวลาอันรวดเร็ว

“ฉันพร้อมเสี่ยงที่จะเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ฉันคิดว่ามันคือการสร้างความมั่นใจให้กับผู้คนที่จะใช้ชีวิตตามวิถีปกติ Near Normal”

หนึ่งในศิลปินที่ยินดีมาเล่นอย่าง Zuzu ก็มองว่ากิจกรรมครั้งนี้คือจุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์

“ตอนที่ผู้จัดโทรหาฉัน จริง ๆ แล้วฉันสามารถปฏิเสธมันได้เลย แต่ฉันก็ตอบรับทันทีทันควัน เพราะไม่มีโอกาสไหนอีกแล้วที่ชื่อของฉันจะได้บันทึกในฐานะผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งการเปิดศักราชดนตรีครั้งนี้”

และ Melvin Benn ผู้จัดคอนเสิร์ตที่แบกรับทุกความเสี่ยงก็ทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจว่า

“เราจำเป็นต้องทำ เพราะถ้าไม่มีคนเริ่ม มันก็จะพิสูจน์ไม่ได้ว่าคอนเสิร์ตไม่ใช่แหล่งเพาะเชื้อ และหากกิจกรรมนี้ประสบความสำเร็จ ไม่เพียงแค่เราที่จะประกาศชัยชนะครั้งสำคัญนี้ แต่ทุก ๆ งานอีเวนท์ไม่ว่าจะเป็นการชมฟุตบอล หรืองานกิจกรรมอื่น ๆ ก็จะสามารถทำได้เช่นกัน”

ผลลัพธ์ของการจัดคอนเสิร์ตที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จ นอกจากจะเป็นคอนเสิร์ตที่สนุก มอบความสุขที่ห่างหายไปนานเป็นเวลาหนึ่งปี ซึ่งต้องนับถือทั้งศิลปิน ผู้จัด ผู้เข้าชม รวมไปถึงรัฐบาลอังกฤษที่มองกิจกรรมนี้เป็นหนึ่งในการฟื้นฟูประเทศครั้งสำคัญ และยังไม่พบต

มองกลับมายังบ้านเราที่ยังต้องทนทุกข์กับการระบาดระลอก 3 แล้ว มันช่างน่าเศร้าใจที่เรายังไม่สามารถก้าวข้ามความทุกข์นี้ได้ และแทบไม่ต้องหวังเลยว่าวงการดนตรีจะกลับฟื้นคืนมาเร็ว ๆ นี้ จึงได้แต่หวังว่าวัคซีนจะเป็นกุญแจสำคัญในการกลับคืนสู่การใช้ชีวิตปกติกันเสียที

cover credit : Lewis Evans

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line