NIHON STORIES: “DRAGON BALL โคตรดัง!?” เมื่อเด็กรุ่นใหม่ไม่เข้าใจความปังของมังงะในตำนาน

ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เราทุกคนล้วนต้องผ่านช่วงเวลาเป็นเด็กด้วยกันทั้งนั้น และกิจกรรมวัยเด็กขาดไม่ได้คือการตื่นเช้ามานั่งรอดูการ์ตูน อ่านหนังสือการ์ตูนเรื่องที่ชอบ ตามซื้อนิตยสารการ์ตูนเพื่อจะได้อ่านตอนถัดไปก่อนใคร ตามเก็บของเล่นที่แถมมากับขนม และเอาเรื่องราวมัน ๆ ในการ์ตูนมาคุยกับเพื่อนที่โรงเรียน 

ยุคหนึ่งเคยมีการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย มังงะจากเกาะญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องราวการผจญภัยของซุน โกคู เด็กชายผู้ออกตระเวนไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อรวบรวมดราก้อนบอลให้ครบ 7 ลูก เพราะหากเก็บครบแล้วจะสามารถขอพรจากเทพเจ้ามังกร เรื่องราวการเดินทางที่ต้องพบเจอทั้งอุปสรรค เพื่อนฝูง เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการผจญภัย ทำให้เด็ก ๆ ทุกคนติดการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball กันแจ 

DARGON BALL ในยุคคุณดังแค่ไหน ?

เมื่อถูกถามขึ้นว่า “Dragon Ball ดังแค่ไหน ?” บางคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงถามคำถามนี้ เพราะคำตอบคือสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วว่า “การ์ตูนเรื่องนี้แม่งโคตรดัง!” แต่เมื่อยุคสมัยผ่านไป คนรุ่นก่อนที่ทันอ่านมังงะเรื่องนี้ก็เติบโตขึ้นตามกาลเวลา ซึ่งถ้าย้อนกลับไปดูพบว่าช่วงเวลาที่ Dragon Ball ตีพิมพ์คือ ค.ศ. 1984-1995 (พ.ศ. 2527-2538) สรุปคือตอนนี้การ์ตูนเรื่องดังจบลงนานกว่า 25 ปีแล้ว

เด็ก ๆ ที่เกิดหลังปี 2538 หลายคนอาจรู้จักจากปากของผู้ใหญ่ว่า Dragon Ball คือมังงะที่ได้รับความนิยมมากของพวกผู้ชาย วัยรุ่นหลายคนแม้ว่าจะไม่ทันตอนตีพิมพ์จึงตามกลับไปตามอ่านย้อนหลัง ชื่นชอบความสนุกที่อยู่ในหน้าหนังสือหรือตามดูผ่านแอนิเมะ ทว่าเรื่องน่าสนใจที่เราอยากเล่าให้ฟังคือเหตุการณ์ที่เด็กวัยรุ่นญี่ปุ่นคนหนึ่งเพิ่งตามการ์ตูนเรื่องนี้มาตั้งกระทู้ถามว่า 

“ในยุคที่ Dragon Ball ยังตีพิมพ์ลงนิตยสาร Jump นี่มันดังขนาดมากขนาดไหน ?”

พอหนุ่มวัยรุ่นตั้งกระทู้ก็มีคนมาตอบมากมายทั้งเด็กคนอื่น ๆ ที่อยากรู้คำตอบด้วยเหมือนกันมาคอมเมนต์ว่า “รบกวนพวกคุณลุงบอกพวกผมหน่อยนะครับ” หรือคอมเมนต์ตอบกลับชวนขำว่า “เรียกว่าพี่ก่อนเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง” การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของคนต่างรุ่นที่มีความชอบเดียวกันทำให้กระทู้ดังกล่าวของเด็กหนุ่มกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง 

สิ่งที่พบในกระทู้นั้นทำให้เราเห็นว่าใคร ๆ ต่างก็รู้จัก Dragon Ball ยุคสมัยที่ยังไม่สามารถอ่านหนังสือการ์ตูนออนไลน์ได้แฟน ๆ ต้องไปรอซื้อนิตยสารที่ตีพิมพ์การ์ตูนตอนใหม่ล่าสุดกันตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด แถมยิ่งช่วงเนื้อเรื่องกำลังเข้าสู่ช่วงไคลแมกซ์อย่างฉากที่โกคูแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่า เด็กชาย-หญิง ชาวญี่ปุ่นจำนวนมหาศาลเกิดอาการคลั่งหนักมาก จดจ่อรอตอนต่อไปที่จะตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Jump และเมื่อวางจำหน่าย ลูกเด็กเล็กแดงก็มารอซื้อจนนิตยสารขาดตลาด บทสนทนาของเด็ก ๆ ในโรงเรียนมักมีแต่เรื่อง Dragon Ball แสดงให้เห็นว่าการ์ตูนเรื่องนี้มันโคตรจะแมสเลยจริง ๆ 

นอกจากนิตยสารรายเดือนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า อีกหนึ่งช่องทางที่สามารถการันตีถึงความนิยมคือ ‘การโหวต’ นิตยสาร Shonen Jump เคยจัดอันดับผลโหวตตัวละครจากเรื่อง Dragon Ball ที่ผู้คนชื่นชอบมากที่สุด โดยเปิดให้นักอ่านโหวตตัวละครโปรดมายังสำนักพิมพ์ด้วยการส่งไปรษณียบัตร ในยุคที่เรายังไม่สามารถส่ง SMS หรือกดเลือกตัวละครที่ชอบผ่าน Facebook หรือเว็บไซต์ได้

ผลที่ออกมาน่าตกใจไม่น้อย เมื่อตัวละครขวัญใจมหาชนอันดับจากเรื่อง Dragon Ball ได้คะแนน 51,921 คะแนน เมื่อรวมคะแนน 10 อันดับแรกจะได้ผลโหวตมากถึง 169,631 คะแนน ยังไม่รวมผลโหวตตัวละครอื่นที่ไม่ติดสิบอันดับแรกอีก เกือบสองแสนคะแนนที่โหวตให้ Dragon Ball เดินทางมาด้วยจดหมายล้วน ไม่ใช่การคลิก ไม่ฮิตก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ 

ส่วนในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาก็นิยมดูมังงะจากทางฝั่งญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกับเรื่อง Dragon Ball และ Naruto เว็บไซต์พูดคุยชื่อดังอย่าง Reddit ก็ตั้งคำถามเช่นเดียวกันกับ UNLOCKMEN ว่าทำไม Dragon Ball ถึงกลายเป็นการ์ตูนยอดฮิตของฝั่งตะวันตกได้

คำตอบไปในทางเดียวกันคือ “Dragon Ball เป็นการ์ตูนแอกชันที่สนุกมาก” หรือ “พอได้ฉายผ่านโทรทัศน์ใคร ๆ ก็ได้ดู และพอทุกคนได้ดูก็ติดกันงอมแงม” นอกจากนี้อีกหนึ่งเหตุผลน่าสนใจคือเด็ก ๆ เริ่มเบื่อกับเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่ของ Marvel และ DC ที่มักมีตัวละครใหม่ออกมาจำนวนมาก เยอะจนตามอ่านกันไม่ทัน แถมเด็กส่วนใหญ่ก็มองว่าการ์ตูนตะวันตกของพวกเขาเริ่มมีเนื้อเรื่องล้าสมัย Dragon Ball ที่เป็นของใหม่จากเมืองที่ห่างไกลน่าสนใจมากกว่า สนุกกว่า มันกว่า ดูแล้วเข้าใจง่ายกว่า แถมยังสร้างความรู้สึกผูกพันคอยเอาใจช่วยโกคูอีกด้วย 

กลับมายังเรื่องใกล้ตัวอย่างประเทศไทยกันบ้าง ความนิยมของ Dragon Ball ก็ร้อนแรงไม่แพ้ที่ไหน อย่างที่รู้กันว่าสมัยก่อนถ้าอยากอ่านตอนถัดไปเร็ว ๆ จะต้องรออ่านผ่านนิตยสารการ์ตูน ถ้าญี่ปุ่นมีนิตยสาร Shonen Jump ประเทศไทยเราก็มีนิตยสาร Talent กับ Zero ที่ตีพิมพ์เรื่อง Dragon Ball ในเวอร์ชันภาษาไทย 

เด็ก ๆ ไปจนถึงแฟนการ์ตูนวัยหนุ่มต่างไปยืนรอซื้อนิตยสาร Talent มาอ่านไม่ต่างกับคนญี่ปุ่นยืนรอซื้อ Shonen Jump แถมหน้าปกของนิตยสารยังเป็น Dragon Ball หลายปีติดกัน เพราะมั่นใจได้เลยว่าถ้าใช้การ์ตูนเรื่องนี้ขึ้นปกนิตยสารจะต้องขายออกแน่นอน 

นอกจากนิตยสารแล้ว ขนมที่ผู้ใหญ่ชอบเรียกว่า ‘ขนมหลอกเด็ก’ เพราะมักมีของแถมพวกของเล่น สติ๊กเกอร์ หรือหน้าซองลายการ์ตูนฮิตก็ใช้คาแรกเตอร์จากเรื่อง Dragon Ball ช่องฟรีทีวีเลือกฉายการ์ตูนเรื่องนี้วนไปทั้งช่วงเช้าและซ้ำอีกทีช่วงเย็น อีกทั้งเกมที่แถมฟิกเกอร์ให้สะสม ครอบคลุมถึงเซตเครื่องเขียน กระจายอยู่ทุกที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่รู้จักการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball

สิ่งที่ถูกพูดถึงมากจากการ์ตูนจนเด็ก ๆ เอามาเลียนแบบคงหนีไม่พ้นการหัดเล่นท่าฟิวชั่น รู้จักท่าปล่อยพลังคลื่นเต่าที่กลายมาเป็นท่าโจมตีในเกมสุดคลาสสิกวัยเด็กอย่าง ‘ตบแปะชาร์จ’ และพูดคุยกับเพื่อน ๆ อย่างออกรสตอนที่ตัวเอกของเรารวมบอลเก็งกิเพื่อฆ่าจอมมารบลู หรือตอนโกคูแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าสู้กับฟรีส ทั้งหมดคือความทรงจำที่คนรุ่นก่อนจดจำและยังคงมีหลงเหลือให้คนรุ่นใหม่เห็นจนถึงทุกวันนี้ 

นี่คือเรื่องราวที่เรารวบรวมมาเพื่อบอกเล่าว่าการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball เคยได้รับความนิยมร้อนแรงไม่แพ้กับการ์ตูนเรื่องไหน ตอนเด็ก ๆ มีใครเคยเล่นตบแปะชาร์จแล้วปล่อยพลังซูเปอร์ไซย่ากันบ้าง ? แล้วในสายตาของคุณ คิดว่า Dragon Ball ดังมากแค่ไหน ?

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับมังงะ Dragon Ball ของ UNLOCKMEN:

NIHON STORIES: 5 อันดับ มังงะที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอด 51 ปี ของ SHONEN JUMP

OTAKU 101: เพราะพ่อที่ดีไม่ได้มีแค่ในโลกความจริง 5 ยอดคุณพ่อจากมังงะที่เลี้ยงลูกได้ดีไม่แพ้ใคร

ทำไม ‘โกคู’ ต้องทำผมสีทองตอนแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่า

SOURCE: 1 / 2 / 3