Life

รู้หรือไม่ ? เบียร์ไร้แอลกอฮอล์คือสุดยอดเครื่องดื่มคืนชีพ หลังการออกกำลังกายสุดโหด

By: anonymK July 6, 2018

หลังออกกำลังกายเสร็จหมาด ๆ จนเหงื่อโชก อะไรจะเรียกความสดชื่นของผู้ชายอย่างเราได้ดีกว่าเกลือแร่แช่เย็นเจี๊ยบดับกระหาย พวกเราคงเคยคิดแบบนี้ใช่ไหม แต่มันอาจเป็นเพราะบ้านเราไม่มีใครลองกินเบียร์ไร้แอลกอฮอล์มากกว่า เพราะเมืองเบียร์เขาออกมายืนยันตอนช่วงโอลิมปิกหน้าหนาวว่า

“กินเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ คือที่สุดของการฟื้นฟูร่างกายนักกีฬาจริง ๆ ไม่ได้โม้”

ไม่รู้ว่าเพราะเป็นประเทศที่กินเบียร์ต่างน้ำกันเป็นปกติหรือเปล่า ทำให้การสรรหาเครื่องดื่มให้นักกีฬาของชาตินี้ต่างจากชาติอื่น ถ้ายังจำกันได้โอลิมปิกที่จัดที่เมือง Pyeongchang ประเทศเกาหลีใต้ช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ประเทศเยอรมนีใช้วิธีดูแลนักกีฬาด้วยเครื่องดื่มประจำชาติอย่าง “เบียร์” แต่เลือกที่เป็นแบบไร้แอลกอฮอล์มาให้ดื่มกันทั้งระหว่างการฝึกและหลังการแข่งสิ้นสุด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้กลับมาน่าทึ่ง เนื่องจากประเทศเยอรมนีไม่เพียงได้ที่ 2 จากการกวาดคะแนนรวมการแข่งขัน ที่สำคัญยังได้รับเหรียญทองเทียบเท่ากับแชมป์อย่างนอร์เวย์ถึง 14 เหรียญทองเชียว

Johannes Scherr แพทย์ประจำทีมสกีในโอลิมปิกนำวิธีนี้มาใช้โดยได้แรงบันดาลใจมาจากข้อมูลผลการศึกษาของบริษัทกลั่นเบียร์ที่จัดทำขึ้นเพื่อพิสูจน์ในรูปแบบ Double-blind หรือการพิสูจน์โดยไม่บอกผู้ทดลอง โดยนำเบียร์ให้นักวิ่งมาราธอนดื่มทุกวันต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ก่อนการแข่งและ 2 สัปดาห์หลังการแข่งขัน ผลปรากฎว่านักวิ่งที่ดื่มเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ มีอาการอักเสบน้อยกว่านักวิ่งที่ได้รับยาหลอก (ยาที่ทำจากแป้งแต่ไม่ได้มีสรรพคุณทางจริง คนนิยมใช้เพื่อทดสอบกระตุ้นให้ผู้กินรู้สึกว่าได้รับการรักษา)

นอกจากผลการศึกษานี้แล้วยังมีผลวิจัยของ Chilean หนึ่งในนักวิจัยที่ศึกษาด้านโภชนาการช่วยการันตีถึงประโยชน์ของมัน เพราะเขาว่าการดื่มเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ ก่อนการออกกำลังกายช่วยให้นักกีฬาฟุตบอลช่วยรักษาความชุ่มชื้นในร่างกายได้ด้วย

ถอดรหัสทำไมในเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ถึงดีกับร่างกาย

หน้าตาของดอก Hops

เมื่อติดตามผลกันให้ลึกซึ้งแล้วมันมีเหตุผลมากกว่าการสุ่มกินสุ่มทดสอบหรือหลักการตลาดที่เผยออกมาเพื่อเรียกแขกเท่านั้น เนื่องจากเบียร์ประกอบขึ้นจากวัตถุดิบสำคัญที่มีประโยชน์กับร่างกาย ตั้งแต่ Hops ดอกไม้ที่เป็นต้นทางของรสชาติขมที่มีสรรพคุณช่วยรักษาโรควิตกกังวล นอนไม่หลับ อาหารไม่ย่อย รวมไปถึงความตึงของกล้ามเนื้อ

ตามด้วยข้าวบาร์เลย์ที่มีส่วนช่วยรักษาโรคท้องร่วง โรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ แถมยังช่วยเรื่องการลดระดับน้ำตาลในเลือด ความดัน คอเรสตอรอล ปิดท้ายด้วยส่วนผสมสุดท้ายคือยีสต์ที่ใช้ในการหมักซึ่งเป็นแหล่งของโครเมียมชั้นเลิศ วิตามินบีเชิงซ้อน โปรตีนและซีเลเนียม ที่ช่วยให้ตับและไทรอยด์ทำงานได้ดี ทุกส่วนผสมนำมาผ่านการกลั่นจนได้สารที่เรียกว่าโพลีฟีนอล (Pholyphenols) ซึ่งเป็นสารเคมีคุณสมบัติดีต่อสุขภาพช่วยต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย

เบียร์ No Alcohol ในประเทศไทย

ใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากเบียร์ยี่ห้อไหนดี เพราะยี่ห้อที่กินอยู่ประจำมีแต่พวกแอลกอฮอล์เข้มข้นทั้งนั้น อันนี้ที่ห้างสรรพสินค้าทั่วไปตาม Tops หรือ Foodland ก็มีวางขายให้เห็นแต่พวกเราอาจจะไม่ทันสังเกต ลองไปเลียบ ๆ เคียง ๆ ดูที่ถูกใจตามชั้นวางได้ แต่ถ้าเห็นความละลานตาแล้วอยากให้เราแนะนำ เข้าไปดูบทความนี้ได้เพราะ UNLOCKMEN เคยจัดอันดับเบียร์ Non-Alcholic มาให้แล้วถึง 4 ตัว

หนุ่มคนไหนที่คิดว่าเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ มันไม่คูลหรือดูเป็นเบียร์ปลอม ผลวิจัยนี้อาจเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่จะเปลี่ยนมิติการดื่มเบียร์ของพวกเราได้ จะได้ลองจัดระเบียบการดื่มใหม่ วันไหนอยากสังสรรค์กับเพื่อนแบบเมามายก็เชิญเต็มที่ แต่วันไหนที่อยากฟิตเครื่องติดลองหันมาดื่มแบบโนแอลฯ ดูก็ไม่เสียหาย ที่สำคัญ UNLOCKMEN คิดว่าการดื่มเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ ยังเป็นอีกหนึ่งทางออกของชาวเราที่รักการร่ำสุราให้สนุกแบบไม่อั้น ไม่ต้องกลัวด่านที่ดีได้ด้วย ถูกปากหรือเปล่าก็ลางเนื้อชอบลางยา ยังไงใครได้ลองรสชาติขวดไหนแล้วติดใจก็อย่าลืมมาบอกเราบ้างล่ะ

SOURCE: 1 / 2

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line