GADGETs

สุดซอยก็ต้องสอยมาใช้ PICTAR อุปกรณ์อัปเกรดสมาร์ตโฟนเครื่องเก่งให้รัวชัตเตอร์ได้แบบ DSLR

By: anonymK August 23, 2018

ทุกวันนี้การถ่ายภาพกลายเป็นหนึ่งในกิจวัตรพื้นฐานที่ผู้ชายอย่างเราต้องทำทุกวัน ถ้าไม่ถ่ายเพื่อใช้งานเองส่วนตัว ก็ต้องถือถ่ายให้คนอื่น ดังนั้นสมาร์ตโฟนจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เราต้องใช้ถ่ายภาพอยู่เสมอ

แต่บางครั้งสมาร์ตโฟนที่เราเลือกมาก็ไม่ได้ออกแบบมาให้มีคุณสมบัติถ่ายรูปได้เฉียบเท่ากับรุ่นใหม่ ๆ ที่สร้างฟังก์ชันมาเพื่อการถ่ายรูปโดยเฉพาะ ล่าสุดจึงมีคนรู้ใจออกแบบเคสโทรศัพท์มาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ เราจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ทั้งที่เครื่องเก่าก็ยังใช้งานได้ดีเพราะติดปัญหาเรื่องกล้อง

Pictar คือเคสอุปกรณ์เสริมที่สามารถเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องเดิมที่ถ่ายรูปแสนห่วย noise กระจายของเราให้กลายเป็น DSLR ตัวย่อมได้ทันทีที่ใช้ เพื่อให้เราสามารถถ่ายภาพทั่วไปหรือเซลฟี่ได้ดียิ่งขึ้นเพียงแค่สวมทับ

ไม่เพียงแค่คุณภาพและฟังก์ชันที่ติดมากับอุปกรณ์ แต่สัมผัสการใช้งานเองก็ยังเลียนแบบออกมาเสียเหมือน เพราะมีกริ๊ฟสำหรับจับกันลื่น ช่วยกันกระแทกเวลาเครื่องหล่นได้ แถมปุ่มด้านบนให้หมุนปรับเลือกฟังก์ชันการถ่ายภาพได้แบบเดียวกับการใช้ DSLR ตั้งค่าได้หมดเนื่องจากมีโหมดไว้ปรับทั้งแสง การซูม หรือค่า ISO ตามต้องการ

นอกจากนี้ วิธีเชื่อมอุปกรณ์เพื่อใช้งานยังเป็นการทำงานผ่านคลื่นเสียงความถี่สูงที่เกิดจากการกดปุ่ม โดยแต่ละปุ่มจะให้เสียงต่างกันและซิงค์กับโหมดการใช้งาน จึงทำให้ไม่ดึงพลังงานแบตเตอรี่จากสมาร์ตโฟนของเราระหว่างการใช้งานด้วย เลยเป็นข้อดีที่พวกเราสามารถใช้งานได้แบบไม่ต้องกลัวว่าจะถ่ายภาพสะดุดเพราะแบตฯ หมด

สำหรับสายเดินทางที่อยากตั้งกล้องถ่ายแลนสเคปสวย ๆ เพราะกลัวมือสั่น หรือเก็บภาพกลางคืน ทาง Pictar ก็ยังออกแบบทั้งขาตั้งกล้อง แฟลชแยก และไมโครโฟน (กรณีที่เราอยากถ่ายวิดีโอ) มาขายเป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อใช้คู่กัน เรียกได้ว่าเลียนแบบ DSLR จริงมาทุกกระเบียดนิ้ว

ใครอยากจะเสริมตัวไหนก็เลือกไปใช้คู่กันได้เลย ส่วนใครที่อยากเปรียบเทียบว่าการใช้งานของมันจะดีสมราคาจริงหรือเปล่า ลองดูวิธีใช้งานได้จากจริงด้วยคลิปด้านล่างนี้จะเห็นภาพชัดกว่า

ท้ายนี้ ถ้าใครอยากได้ไว้ในครอบครองแนะนำว่าต้องรีบซื้อในเว็บไซต์ของ The Mashable shop เพราะกำลังลดราคาจากราคาปกติในหน้าเพจถึง 14 % สนนราคาที่ $85.99 หรือ 2814.19 บาทเท่านั้น

 

SOURCE

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line