Playboy Jazz Festival กับเรื่องราวที่มากกว่ามรดกทางดนตรีจากคุณปู่ซู่ซ่า Hugh Hefner

ถ้าพูดถึง Hugh Hefner (content) เจ้าพ่อ Playboy ผู้ล่วงลับ หลายคงมองเห็นภาพชายผู้มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หนุ่ม ๆ ต้องอิจฉา เพราะเขาได้อยู่ภายใต้ชายคาบ้านในฝันอย่าง Playboy mansion ซึ่งรายล้อมไปด้วยสาว ๆ สวย ๆ มากมาย จนทำให้เขานั้นกลายมาเป็นต้นแบบของหนุ่มเจ้าสำราญทั่วโลก

ถึงแม้ว่าวันนี้ Hugh Hefner  จะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ Playboy  ที่ดูจะซบเซา และอาจปิดตัวลงในเร็ววันนี้  เนื่องจากผู้ถือหุ้นคนสำคัญอย่าง Ben Koh กำลังมองหาทิศทางใหม่ในการทำ Brand Partnerships ที่เน้นขายลิขสิทธิ์เพื่อทำเงิน จนส่งผลให้อาณาจักร Playboy ที่ Hugh Hefner ปลุกปั้นมากับมือ ดูเหมือนว่ากำลังจะล่มสลายลงไปตามกาลเวลา แต่ใครจะรู้ว่ายังมีมรดกอีกหนึ่อย่างที่ Hugh  Hefner ได้ทิ้งเอาไว้ และดูเหมือนว่ากาลเวลาจะไม่สามารถทำลายลงได้นั้นก็คือ Playboy Jazz Festival

Playboy Jazz Festival คือเทศกาลดนตรีที่มาจากผลพวงความหลงใหลในเสียงเพลงของ Hugh Hefner เพราะว่าตัวของคุณปู่ซู่ซ่าท่านนี้ชื่นชอบในดนตรี Jazz ชนิดเข้าเส้นมาตั้งแต่เด็ก โดยในหลาย ๆ บทสัมภาษณ์ Hugh ก็เคยบอกว่าหากวันนี้เขาไม่ได้การทำหนังสือ Playboy ไม่แน่ว่าเขาอาจจะกลายเป็นนักดนตรีเพลง Jazz ก็เป็นได้ อีกทั้งตลอดชีวิตการทำงานของเขาเคยมีการเขียนบทความเกี่ยวกับเพลง Jazz มาแล้วมากมาย

ก่อนอื่นเราต้องขอท้าวความเรื่องราวของ Hugh Hefner กับอาณาจักรของเขาก่อนสักเล็กน้อย โดย Playboy เริ่มต้นขึ้นใน ปี 1953 เมื่อฉบับแรกที่มี Sex Symbol ชื่อดังของยุคอย่าง Marilyn Monroe ขึ้นปกออกวางจำหน่าย

นอกเหนือจากนี้ Hugh ยังไม่ลืมที่จะใส่ความชอบที่มีมานมนานอย่างดนตรี Jazz ลงไปในปักษ์แรกด้วยการเลือกศิลปินอย่าง The Dorsey Brothers มาตีพิมพ์ในเล่ม  ดังนั้นหนังสือ Playboy ที่นอกจากจะมีรูปผู้หญิงสวยในชุดหวาบหวิวแล้ว ยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับการผลักดันดนตรี Jazz สอดแทรกอยู่ภายใน

กระทั่งปี 1959 เป็นจังหวะที่นิตยสาร Playboy เดินทางมาครบรอบวาระ 5 ปี และประสบความสำเร็จอย่างมาก ตัวของ Hugh Hefner จึงคิดการใหญ่ตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองรักนอกเหนือจากการเป็นนักวารสาร ด้วยกาลงทุนจัดงาน Playboy Jazz Festival ครั้งแรกขึ้นที่ Chicago Stadium เมือง Illinois โดยเขาได้เชิญศิลปินแจ๊สชื่อดังมากมายมาร่วมแสดง จนทำให้งานในครั้งนั้นได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ตลอด 3 วันเต็ม มีผู้คนหลั่งไหลมาร่วมสนุกในงานมากถึง 60,000 คน นับว่าเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญต่อวงการดนตรี Jazz เหตุการณ์หนึ่งเลยทีเดียว

แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดงาน Playboy Jazz Festival มีอันต้องพักยาวไปกว่า 20 ปี กระทั่งในปี 1979 งาน Playboy Jazz Festival จึงได้ฤกษ์กลับมาใหม่อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้สถานที่ถูกเปลี่ยนมาให้มีความยิ่งใหญ่กว่าเดิมคือ Hollywood Bowl ใน Los Angeles  หลังจากนั้น Playboy Jazz Festival ก็ไม่เคยหายไปหรือย้ายสถานที่ไปไหนอีกเลยจวบจนถึงปัจจุบัน

โดยความเจ๋งของ Playboy Jazz Festival  อีกหนึ่งอย่างคือพวกเขาไม่เคยปิดกั้นศิลปินไม่ว่าจะอยู่ในระดับเริ่มต้นหรือ Superstar  ทุกคนสามารถมีสิทธิขึ้นเล่นที่เวทีนี้ได้หมดถ้าเจ๋งพอ

ซึ่งจะว่าไปแล้ว Hugh Hefner ก็เป็นอีกคนที่ควรได้รับความดีความชอบในเรื่องสิทธิมนุษยชน เนื่องจากย้อนกลับไปในช่วงที่เขาเริ่มสร้างอาณาจักรของตัวเขาเอง ยุคแรก Playboy ไม่ได้มีเพียงแค่นิตยสารเท่านั้น ยังมีกิจการไนท์คลับอีกหลายแห่ง  แต่ทว่าไนท์คลับสมัยนั้นมีการแบ่งแยกสีผิว ไม่ว่าจะเป็น ผู้มาใช้บริการ บริกร ไม่เว้นแม้กระทั่งนักดนตรี  ถึงขนาดมีการแบ่งคลับให้เป็นเฉพาะของคนผิวสีและคนผิวขาวแยกออกจากกันอย่างชัดเจน

ส่งผลให้นักดนตรีแจ๊สผิวสีที่มีความสามารถ ไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือของตัวเองให้ทุกคนได้เห็น แต่ Hugh Hefner ไม่เคยแบ่งแยก โดยเลือกที่จะมองที่ความสามารถเป็นหลัก จึงเป็นเหตุให้  Playboy Club เป็นสถานบันเทิงแรก ๆ ที่เปิดรับให้คนผิวสีได้มีส่วนรวมในทุกบทบาท เริ่มจากพนักงานไปจนถึงนักดนตรี และนักแสดงตลก มีศิลปินจำนวนมากได้รับโอกาสแจ้งเกิดผ่านสถานที่แห่งนี้

Dick Gregory นักแสดงตลกผิวสีที่เคยมีโอกาสได้แสดงต่อหน้าผู้ชมผิวขาว และเป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้รับการสนับสนุนจาก Hugh Hefner เคยให้สัมภาษณ์ว่า  ” Hugh นั้นต่อลมหายใจให้กับทุกคน และเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนสิทธิของคนผิวสี  สิทธิของเกย์ และผู้หญิงให้เท่าเทียมกัน ด้วยการลงมือทำ เขาคือคนที่ทำลายกำแพงของความไม่เท่าเทียมในสังคมขณะนั้นให้พังทลายลง”

จากเรื่องราวทั้งหมดใครจะคิดว่าความรักความหลงใหลในเสียงเพลงของคน ๆ หนึ่ง จะมีผลในการลดทอนความขัดแย้งทางสังคมได้มากมายถึงเพียงนี้ และนี่คืออีกแง่มุมหนึ่งที่ซ่อนไว้ฉากชีวิตของชายที่คนทั้งโลกมองว่าตลอดลมหายใจของเขาคงจะมีแต่เรื่อง sex ใต้สะดือเท่านั้น  แต่ถ้าได้ศึกษาเรื่องราวของเขาอย่างลึกซึ้งจะรู้ว่าวีรกรรมของ Hugh Hefner นั้นยิ่งใหญ่เรียกได้ว่าเป็นตำนานอีกคนหนึ่งของโลก

source , source 2