The new EQS 450+ AMG Premium ยนตรกรรมไฟฟ้าระดับ Luxury Class คันแรกในไทย

หากเอ่ยชื่อของ Mercedes-Benz เชื่อว่าหลายคนคงอดนึกถึง S-Class ซีรีส์เรือธงสุดหรูจากค่ายดาว 3 แฉกไปไม่ได้ โดยตัวอักษร “S” ใน S-Class นั้นมีที่มาจากคำว่า Sonderklasse ซึ่งเป็นคำในภาษาเยอรมันที่สื่อความหมายเปรียบได้กับการแปะป้ายตัวโต ๆ ว่ารถคันนี้คือ Special Class ที่ไม่เป็นรองใครในด้านความหรูหรา โอ่อ่า สะดวกสบาย พร้อมครองตำแหน่งรถยนต์ Luxury Saloon ที่ทำยอดขายติดอันดับต้น ๆ ของโลก

และเมื่อทาง Mercedes-Benz หันมารุกตลาดยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการเปิด Sub-brand อย่าง Mercedes-EQ สำหรับซีรีส์รถยนต์ไฟฟ้า 100% จึงเกิดเป็นประเด็นให้เหล่าสาวกเฝ้ารอคอยการมาของ S-Class ซีดานพิกัดใหญ่สุดหรูหราในเวอร์ชั่น EV หลังจากที่ได้ยลโฉมรถยนต์ Compact SUV พลังไฟฟ้าคันแรกของค่ายอย่าง Mercedes-EQC กันไปแล้วเมื่อปี 2018

หลังผ่านเวลามาร่วม 3 ปี ในที่สุดก็ถึงเวลาเผยโฉม Mercedes-EQS ซึ่งถือได้ว่าเป็น S-Class พลังไฟฟ้ารุ่นแรกของ Mercedes-Benz ไม่เพียงเท่านั้นเจ้า EQS ยังได้ลงหลักปักฐานมีโรงงานประกอบในบ้านเรา

และยังเป็น All-Electric vehicle รุ่นแรกจาก Mercedes-Benz ที่เปิดตัวเตรียมวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2565 กับรุ่น The new EQS 450+ AMG Premium ซึ่งเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับความโดดเด่นน่าสนใจของ S-Class พลังสะอาดคันนี้ให้มากขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นประกอบการตัดสินใจก่อนวางขายจริง

The new EQS, presented by Ola Källenius; Ola Källenius, Chairman of the Board of Management of Daimler AG and Mercedes-Benz AG.

“The EQS is designed to exceed the expectations of even our most demanding customers. That’s exactly what a Mercedes has to do to earn the letter ‘S’ in its name. Because we don’t award that letter lightly.”

คำกล่าวข้างต้นของ Ola Kallenius, CEO of Daimler AG and Mercedes-Benz AG เป็นสิ่งการันตีว่างานออกแบบคือจุดเด่นแรกที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับ S-Class พลังไฟฟ้าอย่าง The new EQS 450+ AMG Premium คันนี้ เพราะสำหรับชาว Mercedes-Benz การใส่ตัวอักษร “S” เข้าไปในรถยนต์รุ่นใดสักรุ่นของพวกเขามันเท่ากับการเดิมพันด้วยศักดิ์ศรีเกียรติประวัติของค่ายดาว 3 แฉก ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

แต่ถึงแม้ว่า The new EQS 450+ AMG Premium จะถูกขนานนามให้เป็น S-Class แห่งโลก EV กลับกลายเป็นว่าในเรื่องพื้นฐานด้านการออกแบบนั้นคือการคิดใหม่ทำใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่แค่หยิบเอาบอดี้ S-Class มายัดแบตเตอรี่ แล้วจบไป

เพราะงานออกแบบของ The new EQS 450+ AMG Premium นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่หมดจดบนพื้นฐานของ MEA (Modular Electric Architecture) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ Mercedes-Benz ทุ่มทุนพัฒนาเพื่อใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม รวมไปถึงการดีไซน์ภายนอกและภายในที่ตั้งใจสะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นยานยนต์สำหรับโลกอนาคตจาก Mercedes-Benz ให้ประจักษ์แก่ทุกสายตา

จนทำให้ The new EQS 450+ AMG Premium กลายเป็นยานยนต์พลังไฟฟ้าที่ผสานความเป็นที่สุดทั้งในเรื่องเทคโนโลยี, ฟังก์ชันการใช้งาน รวมถึงการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างลงตัวในทุกรายละเอียด

อีกทั้งดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในก็ตอบรับความตั้งใจดังกล่าวนี้โดยผสานปรัชญา “Sensual Purity” ของ Mercedes-Benz เข้ากับแนวคิด “Progressive Luxury” ที่ให้ผลลัพธ์เป็นงาน Seamless design ไร้รอยต่อในทุก ๆ องศาของตัวรถ ตอบโจทย์ทั้งความสวยงาม และเรื่องของประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ต่ำสุด ๆ เพียงแค่ 0.20 ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดในโลกยานยนต์ ณ ปัจจุบัน

โดยงานออกแบบ Seamless design สุดลื่นไหลนั้นเริ่มตั้งแต่กระจังหน้าที่ถูกรวมเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ Black Panel โดดเด่นด้วย Mercedes star ที่รายล้อมไปด้วย three-dimensional star pattern เอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz ซึ่งดวงดาวเหล่านั้นได้หยิบยกเอาโลโก้ดวงดาวดั้งเดิมของ Daimler-Motorengesellschaf ที่จดเครื่องหมายการค้าไว้ตั้งแต่ปี 1911 มาใช้ นัยว่าเป็นการถ่ายทอดอดีตระดับตำนานสู่เส้นทางการเป็นยนตรกรรมแห่งอนาคตนั่นเอง

นอกจากนี้ไฟหน้าทั้งสองฝั่งยังเชื่อมต่อกันด้วยเส้น light band ด้านบน ตามด้วยเส้นโค้งที่ต่อกันเป็นเส้นเดียวจากส่วนหน้าของตัวรถไปจรดส่วนท้ายที่ออกแบบมาในสไตล์รถยนต์ Fastback พร้อม Flush door handles มือจับประตูแบบยื่นได้อัตโนมัติ ที่ปกติจะซ่อนตัวแนบเนียนไปกับตัวถังด้านข้าง เสริมด้วยความสะดุดตาของไฟท้ายแบบ LED ที่มาพร้อมดีไซน์ 3D helix มองแค่แว่บเดียวก็สัมผัสได้ถึงความสวยงามของงานออกแบบที่แตกต่างออกไปจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมของ Mercedes-Benz

สำหรับดีไซน์ระดับ Hi-End ภายในห้องโดยสารแบบ First Class ก็ยังคงความหรูหราสะดวกสบาย ขาดไม่ได้กับเอกลักษณ์ความเชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียว โดยเฉพาะไฮไลต์ที่โดดเด่นของ MBUX Hyperscreen หน้าจอรูปทรงโค้งมนที่ยาวต่อเนื่องกินพื้นที่จากเสา A ฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่ง ซึ่งมีการซ่อนจอแสดงผลแบบ OLED เอาไว้ด้วยกัน 3 หน้าจอ แบ่งเป็นหน้าจอเรือนไมล์แสดงมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว, หน้าจอ Infotainment ขนาด 17.7 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วสำหรับผู้โดยสาร พร้อมตอกย้ำความเป็นยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อความยั่งยืน ด้วยการเลือกใช้วัสดุตกแต่งภายในที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น พรมภายในรถที่ผลิตจากเส้นใยรีไซเคิลเป็นต้น

ปิดท้ายที่ประเด็นสำคัญกับเรื่องราวพละกำลังของ The new EQS 450+ AMG Premium คันนี้ ที่มาพร้อมการพัฒนาแบตเตอรี่แบบใหม่เพื่อฉีกข้อจำกัดเดิม ๆ ของรถ EV ให้สามารถเป็นรถที่ขับขี่ในชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง กับระยะทางวิ่งสูงสุด 770 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง ด้วยขุมพลังไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว พร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 107.8 kWh ที่ให้กำลังสูงสุด 333 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 568 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 6.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง

และทั้งหมดนี้ยังเป็นแค่หนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจเบื้องต้นของ The new EQS 450+ AMG Premium เพราะยังมีเรื่องราวของระบบความปลอดภัย, ระบบผู้ช่วยขับขี่อัจฉริยะ รวมไปถึงระบบความบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่บอกได้เลยว่ามาแบบเหนือ ๆ แน่น ๆ ตามสไตล์ S-Class

แต่เนื่องจากรายละเอียดออปชั่นสำหรับรุ่นวางจำหน่ายในไทยนั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ จึงอยากให้อดใจรออัพเดทกันอีกนิด เมื่อถึงเวลาและมีโอกาสเหมาะ ๆ เราจะอาสารีวิว The new EQS 450+ AMG Premium แบบเจาะลึกทุกแง่มุมให้ชาว UNLOCKMEN ทุกท่านได้อ่านอย่างแน่นอน