World

NIHON STORIES: “SAKAMOTO RYOMA” ซามูไรนักปฏิวัติผู้ล้มล้างรัฐบาลขุนนางโชกุน

By: TOIISAN November 18, 2020

ซามูไรคือกลุ่มนักรบที่ถูกยกย่องพูดถึงต่อชาวญี่ปุ่นเสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเมื่อไหร่เรื่องราวของพวกเขาจะถูกหยิบมาเล่าหรือพูดถึงในวงสนทนาเสมอ แถม UNLOCKMEN ยังได้หยิบยกเรื่องราวของเหล่าซามูไรในหน้าประวัติศาสตร์มาเล่าอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็น มิยาโมโตะ มูซาชิ , ซามูไรคนสุดท้ายผู้ยิ่งใหญ่ ไซโง ทากาโมริ , มังกรตาเดียว ดาเตะ มาซามูเนะ  หรือเรื่องราวของ ซามูไรหญิง โทโมะเอะ โกเซ็น  เราก็ได้เล่ามาหมดแล้ว

แต่ก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้พูดถึง ซามูไรนักปฏิวัติผู้ล้มล้างอำนาจของโชกุนอย่าง ซากาโมโตะ เรียวมะ เลยสักครั้งจนกระทั่งวันนี้

 

 

ซากาโมโตะ เรียวมะ (Sakamoto Ryoma) คือชายที่ถูกคนญี่ปุ่นพูดถึงมากในปี 2010 เมื่อนิตยสาร Japan Time ทำผลสำรวจวัยรุ่นทั้งชายหญิงว่า ‘อยากมีผู้นำที่เหมือนกับบุคคลใดในประวัติศาสตร์’ ซึ่งวัยรุ่นส่วนใหญ่ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากจะมีผู้นำหรือนักการเมืองแบบเรียวมะ ซามูไรที่มีตัวตนจริงช่วงปลายยุคเอโดะ ผู้ใช้ชีวิตโลดโผนและมุ่งมั่นทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ

เรียวมะเกิดในปี 1816 แถบจังหวัดโคจิในปัจจุบัน เป็นบุตรชายคนโตจากตระกูลค้าขายสาเกที่ได้ตกลงของซื้อศักดินาเป็นซามูไร การตกลงซื้อขายศักดินาทำให้ครอบครัวซากาโมโตะถือเป็นซามูไรชั้นปลายแถว ไม่มีบทบาทต่อสังคมและการเมืองในระดับใหญ่มากนัก

วัยเด็กของเรียวมะค่อนข้างน่าอดสู เขาเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ขี้แย ที่มักถูกเพื่อน ๆ แถวบ้านรังแกอยู่บ่อยครั้ง พี่สาวของเขาจึงบอกกับที่บ้านให้ส่งเรียวมะไปฝึกฝนอยู่ในสำนักดาบแทน พอได้จับดาบ ออกกำลังกาย เพียรพยายามฝึกฝน ในที่สุดเด็กชายตัวเล็กก็เติบโตไปชายร่างสูงใหญ่ สามารถโต้ตอบคนที่กลั่นแกล้งตนจนไม่มีใครกล้ารังแกเขาอีก

 

 

ในปี 1853 เรียวมะเดินทางไปยังนครหลวงเอโดะเพื่อฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ในสำนักดาบของ จิบะ ซาดากิจิ ก่อนกลับมายังบ้านเกิด ช่วงเวลาที่เขาออกเดินทางเป็นช่วงเดียวกับที่พลเรือจัตวาแมทธิว เพอร์รี แห่งสหรัฐอเมริกา ล่องเรือมาถึงญี่ปุ่น การมาของชาวตะวันตกครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะต้องการ (กึ่งบังคับ) ให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศเพื่อทำการค้าขายแลกเปลี่ยนทางธุรกิจ เพราะการปิดประเทศนานร้อยปีถือว่าเป็นเวลาที่มากพอดูแล้ว และในเวลานี้ญี่ปุ่นสมควรที่จะสานสัมพันธ์ทางการทูตชาติอื่นอีกครั้ง

มีเหล่าพ่อค้าชาวญี่ปุ่นหลายคนสนใจที่จะทำการค้ากับต่างชาติ แต่เหล่าขุนนางกับซามูไรไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่นัก เพราะคิดว่าชาติตะวันตกคงไม่ได้มาค้าขายอย่างเดียวแน่ การมาถึงของพวกอเมริกันทำให้เกิดกลุ่มซามูไรที่สนับสนุนแนวคิดซนโนโจอิที่ชูนโยบาย ‘เทิดทูนจักรพรรดิ ขับไล่คนเถื่อน’ พยายามไล่ชาวอเมริกันออกจากน่านน้ำญี่ปุ่น

เรียวมะถูกซามูไรที่ต้องการทำลายอำนาจรัฐบาลของโชกุนโทกุงาวะชักชวนให้เข้าร่วม แรกเริ่มเขาเออออไปตามน้ำ แต่พอได้อยู่กับซามูไรเหล่านี้ เขาเห็นความไร้เหตุผลและความรุนแรง และมีปากเสียงเรื่องความคิดที่ไม่เหมือนกัน สุดท้ายเรียวมะตัดสินใจหนีออกจากกลุ่ม ผันตัวเป็นโรนินเดินทางข้ามเมืองไปเรื่อย ๆ แต่การทำอะไรตามใจตัวเองในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เขากลายเป็นคนมีค่าหัวเพราะเดินทางข้ามแคว้นแบบผิดกฎหมายเพราะไม่มีหนังสืออนุญาตเดินทาง

 

Katsu Kaishu

 

หลังเป็นโรนินอยู่นาน เรียวมะเดินทางมายังเอโดะอีกครั้งและมีโอกาสได้พบกับคนที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล เขาคนนั้นคือ ‘คัตสึ ไคชู’ ขุนนางหัวก้าวหน้าในรัฐบาลของโชกุนโทกุงาวะ มีตำนานเล่าว่า เรียวมะต้องการสังหารเขาเพราะเขาเกลียดชังรัฐบาลโชกุนที่ยึดอำนาจขององค์จักรพรรดิ แต่ไคชูกลับบอกว่าก่อนจะสังหารให้ฟังเขาพูดถึงอุดมการณ์ของตัวเองก่อนได้หรือไม่ โรนินไม่เคยเจอใครที่กำลังจะถูกฆ่าแล้วมีท่าทางนิ่งสงบแบบนี้ จึงตัดสินใจเก็บดาบแล้วนั่งฟัง

ไคชูเล่าว่าเขามีความคิดที่จะจัดตั้งกองทัพเรือ จากนั้นจะทำให้กองทัพเข้มแข็งขึ้นเพื่อตั้งรับการเข้ามาของต่างชาติ เมื่อเรียวมะได้ฟังอุดมการณ์อันมุ่งมั่นที่จะปกป้องญี่ปุ่น จึงตัดสินใจขอเข้าร่วมสร้างโรงเรียนนายเรือ และคอยติดตามไคชูเพื่อเรียนรู้เรื่องราวทางการเมืองทั้งสองฝั่งให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตามมีเรื่องเล่าอีกแบบที่ไม่เหมือนกับแบบแรกที่เราได้เล่าไปแล้ว เรียวมะได้ขอให้ครูสอนดาบของตัวเองทำเรื่องเข้าพบไดเมียวแห่งแคว้นเอจิเซง ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญอีกคนของรัฐบาลโชกุนโทกุงาวะ เพื่อให้ไดเมียวท่านนี้พาตัวเขาไปพบกับ มัตสึ ไคชู อีกที และได้ฝากฝังเข้าไปเป็นลูกศิษย์ที่จะช่วยดูแลกองทัพเรือญี่ปุ่น โดยเส้นเรื่องนี้ค่อนข้างสมเหตุสมผลมากกว่าเส้นเรื่องแบบแรก แต่เรื่องเล่าการลอบสังหารแล้วเปลี่ยนใจหันมารับใช้ได้รับความนิยมมากกว่า

ระหว่างที่ไคชูพยายามสร้างกองทัพเรือญี่ปุ่นให้ยิ่งใหญ่ เกิดอุปสรรคหลายอย่างด้วยกัน เนื่องจากรัฐบาลโชกุนโทกุงาวะไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับจากซามูไรจำนวนมาก ประกอบกับญี่ปุ่นยังคงมีความขัดแย้งกันเองในหลายแคว้น การทำการใหญ่ของไคชูจึงไม่ค่อยคืบหน้า เรียวมะเมื่อเห็นคนที่ตนยกย่องเจอปัญหา จึงหาทางช่วยด้วยการเดินทางไปเจรจาตามเมืองต่าง ๆ พยายามบอกเล่าถึงภัยคุกคามจากภายนอก และย้ำเตือนว่าหากยังคงขัดข้องหมองใจกันเองแบบนี้ สักวันญี่ปุ่นก็คงกลายเป็นเมืองของพวกต่างชาติ

คำพูดและการเตือนของเรียวมะสะกิดใจผู้ครองแคว้นหลายคน ในที่สุดหลายเมืองจึงยอมวางปัญหาเก่าเก็บหันมาร่วมมือกันสร้างกองทัพเรือให้ยิ่งใหญ่ ทางด้านเรียวมะได้ตั้งกองเรือเอกชนเพื่อทำการค้ากับต่างชาติ เขาพยายามเก็บหอมรอมริบเงินที่ได้จากการค้ามาพัฒนาเศรษฐกิจญี่ปุ่น

เรียวมะพยายามศึกษาว่าควรจะมีปฏิสัมพันธ์กับต่างชาติในระดับไหน ค้าขายได้แต่ก็ต้องระวังอย่าให้คนนอกมารู้เรื่องภายในมากเกินไป การพยายามประนีประนอมต่อทุกฝ่าย ทำให้เขาถูกกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองต่างขั้วเฝ้าหลายฝ่ายตามเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด

A copy of a letter to Otome. The red arrow indicates where he wrote “I want to wash Japan clean.” (https://www.nippon.com/en/views/b07203)

การปรองดองของหลายแคว้นก่อให้เกิดสิ่งใหญ่อื่น ๆ ตามมา หนึ่งในนั้นคือการล้มระบอบการปกครองของรัฐบาลโชกุนโทกุงาวะ เรียวมะมีส่วนร่วมต่อการล่มลสายครั้งนี้เป็นอย่างมาก เขาคือคนที่เจรจาให้แคว้นต่าง ๆ หันมาร่วมมือกันล้มรัฐบาล กดดันจนโชกุนโทกุงาวะ โยชิโนบุ ยอมคืนอำนาจปกครองให้กับสมเด็จพระจักรพรรดิ

ในด้านการบริการโรงเรียนนายเรือกับกองทัพเรือ เขาได้ร่างข้อเสนอ 8 ประการ ที่จะทำให้กองทัพญี่ปุ่นมีความมั่นคงเข้มแข็งแก่คณะรัฐบาลชุดใหม่ การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่เรียวมะมีส่วนร่วม ทำให้ภายหลังญี่ปุ่นเกิดการปฏิรูปครั้งใหญ่ที่เรียกว่า ‘การปฏิรูปเมจิ’

การล้มรัฐบาลโชกุนสร้างความไม่พอใจกับหลายฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มขุนนางอำนาจเก่า หลังรัฐบาลใหม่ก่อตั้งขึ้นได้ไม่นาน ซากะโมโตะ เรียวมะ ถูกลอบสังหารในเรียวกังเมืองเกียวโต การตายของเขาสร้างความสะเทือนขวัญและเศร้าโศกไปทั่ว คนที่รู้จักเรียวมะพยายามสืบหาว่าใครเป็นผู้ลงมือสังหาร แต่ก็ไม่ได้ความอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากในช่วงเวลานั้นมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่โกรธแค้นเขา เพราะสูญเสียสิ่งที่เคยมีมา

Sakamoto Ryoma statue (https://sharaku-nagasaki.com/en/kazagashira-park/)

น่าเศร้าที่ซามูไรผู้เพียรพยายามจะทำให้ญี่ปุ่นทันสมัย ไม่ทันได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมการเมือง แต่เรื่องราวของเขาได้กลายเป็นตำนาน จากโรนินไร้เกียรติ ไร้สังกัด ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ และไม่ได้มีบันทึกเกี่ยวกับฝีมือดาบที่สังหารศัตรูอย่างห้าวหาญเหมือนซามูไรคนอื่น ๆ แต่ซากะโมโตะ เรียวมะ ได้กลายเป็นชื่อที่อยู่ในแบบเรียนประวัติศาสตร์ กลายเป็นตัวละครในภาพยนตร์ ทีวีซีรีส์ และมังงะหลายเรื่อง เขาคือซามูไรนักปฏิวัติที่มีส่วนช่วยทำให้ญี่ปุ่นเป็นญี่ปุ่นดั่งทุกวันนี้

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line