Entertainment

SERIES GUIDE : ‘One Night Morning’ ขอแค่ 1 คืนให้เราได้พบกับใครอีกคนบนโลกนี้ที่ใจดีต่อกัน

By: GEESUCH August 5, 2023

เราทุกคนล้วนมีซีรีส์ที่จัดอยู่ในหมวดค่อย ๆ ดูเพราะไม่อยากให้จบเร็วเกินไปของตัวเองกันทั้งนั้น และเชื่อว่านี่คือซีรีส์ประเภทหนึ่งซึ่งหายาก มาไม่บ่อย ใช้จำนวนนิ้วบนมือนับได้เลย สำหรับเรา One Night Morning (2022) เป็นประเภทของซีรีส์ทำให้เราต้องเสียโควต้านิ้วของตัวเองอีกครั้งหนึ่งล่ะ

ซีรีส์ญี่ปุ่นจำนวน 8 ตอน ที่เราใช้เวลา 8 วันกว่าจะดูจบเรื่องนี้ เล่าความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยรูโหว่ข้างในจิตใจ ของหนุ่มสาววัยมัธยมไปจนถึงพนักงานออฟฟิศวัยเกือบ 30 ทั้งคู่จะเติมเต็มส่วนที่หายไปให้กันและกันในช่วงเวลา 1 คืน ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมกับ ‘อาหาร’ หนึ่งอย่าง ซึ่งบันทึกความทรงจำระหว่างทั้งคู่เอาไว้ ประหนึ่งเป็นตัวแทนว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่แค่เพียงฝันไป และพวกเขาได้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายของชีวิตไปได้เรียบร้อยแล้ว

ทั้ง 8 ตอนประกอบไปด้วย – เรื่องราวของหนุ่มออฟฟิศที่แอบชอบเพื่อนคนหนึ่งตั้งแต่ตอนมัธยม แต่ไม่เคยบอกออกไปจนกระทั่งได้พบกันอีกครั้งในงานเลี้ยงรุ่น / ความรักของหนุ่มมหาลัยสุดเนิร์ดกับสาวไร้บ้านที่ตอนแรกแค่ต้องการจะบอกลาเวอร์จิ้นของตัวเอง ก่อนจะพบว่ารู้สึกดีกับอีกฝ่ายไปแล้ว / หญิงสาวออฟฟิศที่มองว่าฐานะทางสังคมเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตหรือรักใครสักคน เพราะปมบางอย่างในอดีตของตัวเอง 

ความฝังใจของเด็กสาวผู้ขี้กลัวที่เชื่อว่าตัวเองได้ทำร้ายเด็กหนุ่มผู้เขร่งขรึม จนเป็นต้นเหตุให้เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียน / เรื่องราวของเพื่อน 2 คน เด็กสาวซอฟต์บอลกับเด็กหนุ่มสุดเด๋อที่แข่งกันแย่งซื้อแซนวิชไข่ทุกพักเที่ยงในโรงเรียน / การไล่ตามความฝันที่สัญญากันเอาไว้ในวัยเยาว์ของเด็กสาวผู้อยากเป็นไอดอลกับเด็กหนุ่มผู้อยากเป็นนักวาดมังงะ / เซ็กเฟรนด์ของหนุ่มสาวออฟฟิศที่ต้องอดทนไม่บอกความรักในใจของกันและกันเพื่อไม่อยากให้อีกฝ่ายและตัวเองเสียใจ / เด็กหนุ่มพนักงานพาร์ทไทมซูเปอร์มาร์คเก็ตผู้ไม่กล้าคุยกับใครเพราะถูกมองว่าไร้ตัวตน และเด็กสาวที่ถูกช่วยชีวิตจากการคุกคามทางเพศ กับซาลาเปาที่เชื่อมโยงทั้งคู่เข้าด้วยกัน

“ทุกครั้งที่ช่วงเวลาเช้าวันใหม่ของซีรีส์มาเยือน พวกเขาทั้งคู่เติบโตขึ้นในแบบที่ไม่มีวันเหมือนเดิมได้อีกแล้ว ข้างในลึก ๆ ของเราคนดูเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”  

ถ้าให้เปรียบ One Night Morning เป็นนิยายของนักเขียนญี่ปุ่นสักคน เราก็นึกภาพของใครไม่ออกเลยนอกจากชื่อของ เออิจิ นาคาตะ (เจ้าของนิยาย ‘หันมาทางนี้เถอะนะโมโมเสะ’) จุดเชื่อมโยงมันอยู่ตรงที่เรารู้สึกกับเหล่าตัวละครราวกับว่าพวกเขาเป็นคนรู้จักคนหนึ่งซึ่งเคยอยู่ในชีวิตของเราจริง ๆ เป็นเพื่อนคนที่เราเคยเชียร์ให้มันจีบรุ่นน้องที่แอบชอบมานาน หรือเพื่อนผู้หญิงคนเดียวในชีวิตที่สนิทกับผู้ชาย มันรู้สึกในระดับนั้นเลย

นี่คือเรื่องราวของพวกเขาหลังจากที่เราไม่ได้เจอกันมานานแล้ว มีความเศร้าอยู่ในรอยยิ้มของบางคน และมีเสียงหัวเราะกับน้ำตาเอ่อล้นออกมาพร้อมกับความรู้สึกปิติและเสียใจ สิ่งที่ทำให้ยิ่งคิดถึงนิยายของเออิจิคือมันมีรสขมอยู่ในทุกความรู้สึกดีที่ตัวละครส่งต่อให้กันและกันตลอดเวลา มันแน่แหละว่าตอนจบของทุกตอนนั้นออกไปทางที่สามารถพูดได้ว่าทั้งเขาและเธอจะมีความสุขดีในที่สุด และพวกเขาก็ตกหลุมรัก (อย่างที่ทุกคนเชียร์) แต่บาดแผลในต้นเรื่องจนถึงปลายทางก็คงจะต้องใช้เวลาเยียวยากันต่อไป 

พูดถึงรสขมของซีรีส์ที่เป็นส่วนสำคัญแทบจะทั้งหมดของเนื้อเรื่อง มันคือรสชาติที่มาจาก ‘ปัญหา’ ของผู้คน ที่ไม่ใช่แค่ในปัจจุบันที่เจอ แต่มันล้วนเป็นสิ่งที่เหล่าวัยรุ่นและวัยทำงานทุกยุคผ่านมาเสมอ เช่น ความเหงาจากการสูญเสียคนรักกระทันหัน, การเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองเพราะครอบครัวไม่ให้ทำตามฝัน, ความเสียใจอย่างหนักที่เก่งไม่พอแม้จะพยายามเต็มที่แล้ว หรือ ความเหงาความกลัวจากการถูกมองว่าไม่มีตัวตนบนโลก เป็นต้น

One Night Morning เป็นซีรีส์ประเภทเปิดเผยความในใจเหล่าคนมีปัญหาเหล่านี้ คนที่เป็นตัวแทนบาดแผลของพวกเราทุกคน ผ่านการโยนตัวละครลงไปในสถานการณ์ที่ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นแบบนี้ ทั้งชีวิตก็คงไม่มีทางพูดความในใจและปลดล็อคปมของตัวเองออกไปแน่นอน และในจุดนั้นเอง ซีรีส์ก็ใส่สมการใครอีกคนที่มองเห็นข้างในจิตใจของเราจริง ๆ เข้ามา

“ขอแค่หนึ่งคนบนโลกนี้ที่ดีกับเรา มองเห็นข้างในหัวใจ แล้วเอามือไปสัมผัสเบา ๆ พอให้รู้ว่าเรามีตัวตนและมีค่าสำหรับเขาจริง ๆ และเราเป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้”


ต้องชมจากใจจริง One Night Morning เป็นซีรีส์ขนาดสั้นตอนละ 20 นาทีนิด ๆ ที่ใช้เวลาได้คุ้มค่ามาก อย่างที่บอกไปว่าด้วยเวลาแค่นี้มันสามารถ Coming Of Age เปลี่ยนความรู้สึกข้างในของเราให้โตไปพร้อมกับตัวละครได้เลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงใช้เวลาตอนละ 1 วัน เพื่อซึมซับการเติบโตที่ต่างไปเมื่อรุ่งเช้ามาถึงยังไงล่ะ

ถ้าถามว่าเวทมนตร์ของ One Night Morning ที่เราชอบที่สุดคืออะไร ก็ต้องตอบว่าแคสติ้งเป็นสิ่งที่พิเศษเหลือเกิน พอตัวละครสำคัญคือ 2 ตัวชายหญิงที่ต้องแบกทั้งเรื่องในระยะเวลาแสนสั้น ฉากน้อย เหตุการณ์นิดเดียว มันก็ต้องเลือกคนที่ถูกต้องในระดับเนื้อคู่ของกันและกันจริง ๆ เนาะ และใช่ครับ ซีรีส์เรื่องนี้ทำได้แบบนั้น ไม่ต้องรู้สึกแปลกกับตัวเองถ้าหากจะตกหลุมรักทุกตัวละครกับทุกความสัมพันธ์ของพวกเขาและเธอ 

พูดถึงพระเอกงานองค์ประกอบศิลป์กันบ้าง เพราะซีรีส์เรื่องนี้เขาโปรดักชั่นระดับโฆษณาอาร์ตญี่ปุ่นที่หลาย ๆ คนชอบดูกันเลย ไม่ว่าจะการลำดับภาพ การตัดต่อ lighting ซึ่งถูกคิดมาเพื่อซัพพอร์ต ‘ธีมสี’ ที่แตกต่างกันในแต่ละตอน คืออย่างนี้ One Night Morning เป็นซีรีส์จบในตอน และเขาใช้ธีมสีเพื่อแยกคาแรคเตอร์ของตัวละคร เหตุการณ์ที่จะได้เจอ และอาหารของแต่ละคนด้วย 

ส่วนที่ทำออกมาได้อลังการสุด ๆ สำหรับเราคือซีนขั้นกลางของเรื่อง ที่เป็นฉากแสดงอารมณ์ภายในจิตใจของตัวละครหลัก โห มันทำให้ซีรีส์แตกต่างและไปอีกขั้นของการสำรวจจิตใจเลยอะ มันทำคนดูเห็นภาพชัด ๆ ว่าข้างในตอนนั้นแต่ละคนกำลังรู้สึกและอยู่ในห้วงอารมณ์อะไร

โอ๊ะ ๆ เกือบลืมพูดไป Score ของ One Night Morning ทำหน้าที่เป็นซัพพอร์ตเตอร์ได้ยอดเยี่ยมเหลือเกิน ทำเราคล้อยตามทุกครั้งที่เด่นขึ้นมา และคลอในจังหวะเงียบ ๆ ประคองอารมณ์ได้อย่างสม่ำเสมอ และแม้ส่าแนวเพลงจะมีความหลากหลาย (ตามแต่ธีมสีของแต่ละตอน) แต่คือมันดีจริง ๆ มันแสดงออกถึง Mood & Tone ของซีรีส์โดยการที่ใช้แนวเพลงไม่ซ้ำกันเลย


One Night Morning เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากมังงะปี 2019 ในชื่อเดียวกันของอาจารย์ Kenichi Okuyama สำหรับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ ไม่ว่าจะดูซีรีส์มาแล้วหรือยังไม่ได้ดู เราจะบอกว่า ห้ามพลาดอ่านฉบับมังงะเลยนะ ! มันน่ารักแบบเหมือนโดนกระโดดถีบหัวใจจนพองโตเลย ลายเส้นอย่างสวย จังหวะดี และสำคัญที่สุดคือมันทำให้เรารู้ว่าฉบับซีรีส์เอาไปดัดแปลงได้เก่งมาก 

คือเขาใช้วิธีสลับเหตุการณ์เล่าใหม่หมดเลย โดยที่ยังคงพวกข้อความความสำคัญหรือซีนสำคัญของฉบับมังงะไว้ได้แบบครบถ้วน ยกตัวอย่างกันไว ๆ กับตอน ‘เมนูแซนด์วิชไข่’ ในซีรีส์คือการตกหลุมรักกันของเด็กมัธยมที่แย่งซื้อแซนวิชไข่กันทุกวันใช่ปะ แต่ในมังงะเหตุการณ์นั้นคืออดีตล่ะ ! คิดดูว่าถ้าอินแล้วได้ตามไปดูเหตุการณ์หลังจากตัวละครนั้นต่อมันจะฟูลฟีลขนาดไหน และสายมังงะก็จะรู้สึกได้จริง ๆ ว่าผู้สร้างทำซีรีส์ One Night Morning แบบเคารพต้นฉบับอย่างที่ควรจะเป็นจริง ๆ 

ในวันที่โลกวุ่นวายแบบนี้ มีซีรีส์ตบบ่าเราเบา ๆ พร้อมกับพูดว่าเธอจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ : )


สามารถดูซีรีส์ทั้ง 8 ตอนได้ที่เพจ Tamachanja ทามะจังการซับ หนึ่งในคนที่ทำซับไทยที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยดูมา

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line