FASHION

Sneakers of the week : เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ รองเท้ารุ่นเรือธงสองค่ายใหญ่ใครเจ๋งกว่ากัน

By: Thada December 2, 2017

ใกล้สิ้นปีแล้วแท้ ๆ แทนที่กระแสวงการ sneakers จะเงียบเหงาเพื่อเตรียมไปปล่อยของในปีหน้า แต่กลับกลายเป็นว่าบรรดาแบรนด์ใหญ่ ๆ ต่างงัดอาวุธลับปล่อยทีเด็ด ถ้าเปรียบเป็นมวยก็เหมือนยืนแลกหมัดต่อหมัดไม่ยอมน้อยหน้ากันเลยทีเดียว ซึ่งทีมงาน UNLOCKMEN มักจะเจอคำถามว่ารองเท้าคู่นี้ กับรองเท้ารุ่นนั้น คู่ไหนเจ๋งกว่ากัน โดยเราอยากจะบอกว่ามันเป็นคำถามที่ตอบยากมากสำหรับเรา เพราะรองเท้าแต่ละคู่นั้นเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป คนนี้ใส่คู่นี้แล้วอาจจะรู้สึกดีรู้สึกชอบ แต่อีกคนอาจจะไม่ชอบก็เป็นได้

ดังนั้นจึงไม่มีรองเท้าคู่ไหนที่ดีที่สุด มีแต่รองเท้าที่เหมาะที่สุดมากกว่า และเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นวันนี้ทีมงานจะนำรองเท้ารุ่นเรือธงของ Nike และ adidas โดยแบ่งเป็นสามหมวดใหญ่ ๆ มาให้เปรียบเทียบกันดูโดยคะแนนที่ให้วัดจากมุมมองส่วนตัวของเราล้วน ๆ เอาไว้ให้ไปดูกันเล่น ๆ ว่าทัศนคติของเราจะตรงกับชาว UNLOCKMEN มากน้อยแค่ไหน

Running

รองเท้าวิ่งที่เป็นรุ่นเรือธงในตอนนี้ของทางฝั่ง Nike ถือว่ามีหลายรุ่นมากจนเราเลือกแทบจะไม่ถูก แต่ดูจากการโปรโมตในช่วงหลัง ๆ บวกกับโปรเจคต์ The Breaking  ทำให้เราค่อนมั่นใจว่า #Nike Zoom Vaporfly 4% คือรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดของพวกเขาในขณะนี้ ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างรองเท้าวิ่งที่พาผู้สวมใส่ก้าวไปสู่อีกระดับของการวิ่งโดยใช้เทคโลโนยีล้ำสมัยที่สุด อย่างเช่นพื้นกลาง (midsole) ที่มีการใช้วัสดุโฟมไนกี้ ซูมเอ็กซ์ (Nike ZoomX) น้ำหนักเบา และนุ่มเป็นพิเศษกว่ารองเท้าในตระกูล Zoom รุ่นอื่น ๆ  วัสดุนี้จะทำให้เท้าเด้งคืนตัวได้ถึงร้อยละ 85 วัสดุโฟมข้างต้นนี้จะใช้หุ้มแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ทรงโค้งที่ช่วยยึดเกาะกับพื้นและช่วยเสริมแรงขณะผู้สวมใส่ยกเท้าขึ้นจากพื้น  นอกเหนือจากนี้ บริเวณหน้ารองเท้ายังใช้เส้นใยฟลายเมช (Flymesh) และสายรัดบริเวณด้านข้างที่มีความยืดหยุ่นสูงเพื่อให้ผู้สวมใส่ทุกคนสามารถวิ่งได้อย่างไร้สิ่งรบกวน ดังนั้นตามโฆษณาจึงกล่าวไว้ว่าถ้าเกิดใส่รองเท้ารุ่นนี้จะทำให้วิ่งดีขึ้น 4 %

Sum : ดังนั้นตามความเห็นของเรามองว่ารองเท้าคู่นี้อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสุดเจ๋ง แถมสวมใส่สบาย แต่อาจจะเป็นเรื่องยากในการนำมาแต่งตัวให้เข้าในชีวิตประจำ เนื่องจากทรงรองเท้าที่ดูเป็นรองเท้าวิ่งเสียเหลือเกิน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล

สำหรับ adidas อย่างที่ทราบกันดีว่าพวกเขาชูในเรื่องเทคโนโลยี  Boost เป็นหลัก และล่าสุดก็เพิ่งเปิดตัวรองเท้าวิ่งรุ่น #Ultraboost 4.0 โดยตัวรองเท้าได้ถูกออกแบบเป็นพิเศษ ในเรื่องของการนำนวัตกรรมสุดล้ำ ไพรม์นิต (PrimeKnit) มาใช้ ซึ่งการถักผ้าในรูปแบบนี้สามารถสร้างความยืดหยุ่นได้ในทุกสภาวะการเคลื่อนไหวด้วยลักษณะของ sock-like fit และยังคงประสิทธิภาพวัสดุหน้าผ้าแบบ Forged PrimeKnit เพื่อสร้างการตอบสนองความเคลื่อนไหวได้อย่างยอดเยี่ยม แถมในส่วนของ Boost ก็มีการพัฒนาอัดเม็ดโฟมให้หนาแน่นขึ้นช่วยรองรับแรงกระแทกของผู้สวมใส่ จึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งที่เน้นเพอร์เฟอร์เมนส์เด้งตอบสนองเท้าเป็นอย่างดี

Sum : เอาเข้าจริงแล้วเราว่าคนส่วนใหญ่นำรองเท้า adidas Ultraboost มาสวมใส่แบบไลฟสไตล์มากกว่าใช้วิ่งเสียอีก ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย บวกกับความสบายทำให้เรามองว่ารองเท้าคู่นี้เป็น All in One ที่สามารถใส่ได้ในทุกโอกาส แต่ก็ยังมีข้อติในเรื่องคือความทนทาน เนื่องจากเราเองก็เป็นผู้ใช้งานรองเท้ารุ่นนี้อย่างจริงจัง จึงพบปัญหาว่า Boost พอผ่านระยะเวลาการใช้งานไปสักระยะหนึ่งจะตอบสนองการกระแทกได้ไม่ดีเท่าเดิม ดังนั้นหากใครคิดจะเอาไปวิ่งแบบจริงจังอาจจะต้องเผื่อใจไว้สักเล็กน้อย

Lifestyle

ในโหมดไลฟ์สไตล์ เราได้หยิบยกรองเท้าสองรุ่นโดยวัดจากยอดขายรองเท้าในหมวดหมู่นี้เป็นหลัก  ดังนั้นรองเท้าที่ขายดีที่สุดของ Nike ก็ได้แก่ #Nike Roshe Run ซึ่งรองเท้ารุ่นนี้เกิดจากความตั้งใจของ Nike ที่ต้องการผลิตรองเท้าต้นทุนต่ำ ดีไซน์สวยใช้วัสดุดีเหมาะสมกับราคา โดยหลายคนอาจจะสับสน และเข้าใจผิดคิดว่า Roshe Run เป็นรองเท้าวิ่ง แต่อันที่จริงแล้วมันเป็นรองเท้าไลฟ์สไตล์ไม่ได้มีคุณสมบัติเหมาะแก่การวิ่งแต่อย่างใด เนื่องจากวัสดุบริเวณส่วน Midsole เป็นเพียงโฟม  EVA ธรรมดาเพียงแต่มันถูกดีไซน์ออกมาในลักษณะโฟมแผ่นชิ้นเดียวรวมกับ Outsole จึงทำให้มีน้ำหนักเบา นิ่ม ผู้สวมใส่จะรู้สึกไม่บีบรัดเดินได้อย่างสบาย คล่องตัว และที่สำคัญมีราคาถูก ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้

Sum : ถ้าจะให้บอกว่ารองเท้าคู่ไหนที่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่เราต้องจ่ายไป เราก็ขอยกให้เป็น Roshe Run เนื่องจากราคาที่ถูก แต่เต็มไปด้วยดีไซน์แบบมินิมอล ไม่ต้องเน้นลวดลาย หรืออะไรเยอะแยะมากมาย ที่สำคัญมันสามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

ทางฝั่งของ adidas รองเท้ารุ่นที่ขายดีที่สุดของพวกเขาคือ #adidas original Superstar ที่ก้าวขึ้นมาแซงยอดขายรุ่นพี่อย่าง stan smith ลงไปได้ โดยที่รองเท้า adidas original Superstar เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1969 แต่เดิม adidas มีความตั้งใจจะให้มันเป็นเพียงรองเท้าบาสเก็ตบอลเท่านั้น ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะได้รับความนิยมในหมู่ sub culture อาทิ hip-hop จนปัจจุบันรองเท้ารุ่นนี้ได้กลายเป็นรองเท้าไลฟ์สไตล์ที่มียอดขายอันดับต้น ๆ ของโลก สำหรับความพิเศษของรองเท้ารุ่นนี้แทบจะไม่มีอะไรเลย เนื่องจากมันเป็นรองเท้าที่ถูกผลิตขึ้นตั้งแต่ยุค 60s อาจจะมีเปลี่ยนวัสดุให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้มันครองใจคนทั่วโลกน่าจะมาจากดีไซน์ และรูปลักษณ์มากกว่าเทคโนโลยี หรือสิ่งอื่นใด

Sum : ถ้าคุณจะมองหารองเท้าที่อึด ทน และเต็มไปด้วยความเก๋าแบบ OG รองเท้า adidas Superstar คือคำตอบของคุณ แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกสบายเท้าเวลาที่ต้องเดินนาน ๆ แต่เพียงแค่โลโก้สามขีดข้างรองเท้าก็ช่วยทำให้คุณดูหล่อขึ้นแม้ใส่ร่วมกับกางเกงขาสั้น เสื้อยืดนั่นเอง

Collaboration

รองเท้าประเภทสุดท้ายที่เราอยากจะมาแนะนำก็เป็นในหมวด Collaboration หรือรองเท้าที่ทางแบรนด์มีการร่วมผลิตกับแบรนด์อื่น/บุคคล 2 นั่นเอง โดยเราต้องขอบอกก่อนว่าในบรรดารองเท้าของ adidas ทั้งหมดคงจะไม่มีรองเท้ารุ่นใดที่ร้อนแรงไปกว่า #adidas YEEZY Boost  350 อีกแล้ว เนื่องจากมันเป็นรองเท้าที่เข้ามาปลุกกระแสสตรีทแฟชั่นให้ลุกขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน รองเท้า adidas YEEZY Boost 350 แทบจะไม่ได้มีนวัตกรรมอะไรที่แตกต่างจาก Ultraboost เลย เพราะบริเวณหน้าเท้าก็ใช้เป็น Primeknit เช่นเดียวกับส่วนพื้นกลางที่เป็นโฟม Boost  แต่สิ่งที่ทำให้มันโดดเด่นชนิดที่ทุกคนอยากจะได้มาครอบครอง คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของดีไซน์ที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว ผู้ใส่สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าได้ง่าย และที่สำคัญคือรองเท้าคู่นี้ได้สุดยอด Influencer อย่าง Kanye West เป็นผู้ออกแบบนั่นเอง

Sum : ขอสรุปสั้น ๆ ว่าถ้ามีเงินก็ซื้อเถอะ

ฝั่งของ Nike เองหลังจากโดนทำยอดขายมาตีตื้นขึ้นในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา พวกเขาก็ต้องมองหาตัวพลิกเกมส์ โดยพวกเขาก็ได้จิ้มเลือกไปที่ Virgil Abloh เพื่อจะมาเป็นคู่ชกกับ Kanye West ซึ่งนับว่าสมน้ำสมเนื้อกันเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นความโชคดีเมื่อกระแสแบรนด์ของ Off-White เองก็กำลังดังขึ้นมา ดังนั้นโปรเจค #Nike x Off White “The Ten” จึงเหมือนเป็นแรงส่งเสริมกันและกัน ผลักดันให้เป็นคอลเลคชั่นรองเท้าไฮไลท์ของปี 2017  ซึ่งถ้าหากจะให้เรายกมาพูดถึงทั้ง 10 รุ่นก็ดูจะมากเกินไป โดยเราขอเลือกเป็น Nike Vapormax ที่ Virgil Abloh นำมาออกแบบในคอนเซ็ปต์ reconstructed สำหรับรายละเอียดของรองเท้ารุ่นนี้ก็จะใช้ฟลายนิต (Flyknit) บริเวณส่วนหน้าเท้า และความพิเศษคือการรวม Outsole และ Midsole เข้าด้วยกัน และใช้ถุง Air Max แบบเปือยทั้งชุดพื้น ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องความนิ่ม ตอบสนองเท้าได้เป็นอย่างดี

Sum : นับว่าเป็นคอลเลคชั่นที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะรุ่น Vapormax ที่ได้เทคโนโลยี Air Max ทั้งชุดพื้น จึงให้อารมณ์นิ่มเด้ง แต่ติดอยู่เรื่องหนึ่งคือรูปทรงรองเท้าของ Vapormax ที่จะมีความบีบรัดดังนั้นใครจะซื้อก็ควรเผื่อไซส์อย่างน้อยครึ่งเบอร์เป็นอย่างน้อย และเนื่องจากมันรองเท้าวิ่งแม้จะถูกแปลงโฉมให้มีความไลฟ์สไตล์มากขึ้นแล้วก็ตาม แต่หากใครคิดอยากจะซื้อรุ่นนี้มาใส่อาจจะต้องใช้เซ้นส์ในเรื่องการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าเสียนิดหนึ่ง

*คะแนนที่ UNLOCKMEN ได้ให้ไปทั้งหมดนี้เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัว ดังนั้นคนอื่นอาจจะรู้สึกเห็นต่างได้ เพราะอย่างที่เคยเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ว่ารองเท้าคู่เดียวกัน แต่คนใส่ต่างกัน ก็อาจจะให้ความรู้สึกที่ต่างกันก็เป็นได้*

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line