21,529,464 คัน คือยอดการผลิตทั้งหมดของรถยนต์ โฟล์คสวาเกน บีเทิล (Volkswagen Beetle) ตลอดระยะเวลา 65 ปี ทำให้รถยนต์ที่เราเรียกกันอย่างคุ้นปากว่า “โฟล์คเต่า” เป็นรถที่ออกแบบครั้งเดียว แต่สามารถทำยอดขายได้สูงสุด รวมถึงมีระยะเวลาการผลิตนานที่สุด ทว่าตัวเลขและยอดขายกลับไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ โฟล์คสวาเกน บีเทิล เป็นหนึ่งในความคลาสสิก เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างบีเทิลกับผู้คนทั่วโลกต่างหากที่ผลักให้โฟล์คสวาเกน บีเทิลคือหนึ่งในเรื่องราวคลาสสิกตลอดกาลแห่งโลกยนตรกรรม ตลอดระยะเวลาเกือบ 70 ปีที่ผ่านมา โฟล์คสวาเกน บีเทิล ฝากความทรงจำอะไรเอาไว้ให้โลกใบนี้บ้าง? รถยนต์ของประชาชน หลายท่านทราบถึงจุดเริ่มต้นของโฟล์คสวาเก้น บีเทิล ในฐานะ “The People’s Cars” แนวคิดจาก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำแห่งไรช์ที่ 3 หรือเยอรมนีในปัจจุบัน มองว่ารถยนต์ส่วนใหญ่นั้นหรูหราและฟุ่มเฟือยเกินไป จึงอยากให้มีการผลิตรถครอบครัวราคาถูกที่สมรรถนะดี แต่ประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาไปในเวลาเดียวกัน เพื่อเป็นรถยนต์ที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้ แนวคิดดังกล่าวถูกส่งต่อให้ แฟร์ดีนันท์ พอร์เชอ วิศวกรรถยนต์ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบรถที่โดดเด่นจำนวนมาก นำไปสู่การสร้าง Volkswagen Type I และบริษัทโฟล์คสวาเกนขึ้น น่าเสียดายที่การเริ่มต้นของบีเทิลต้องหยุดกะทันหันเพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 การรบที่เข้มข้นขึ้นทำให้รถครอบครัวที่ใช้งานง่ายไร้ปัญหาคันนี้
หลังจากปีที่แล้วข่าวอวสานรถเต่าทำให้คอโฟล์กทุกคนต้องคอตก วันนี้ UNLOCKMEN ไปเจอสองล้อคันใหม่ที่ใช้ร่างเก่าของ BEETLE มาประดิษฐ์ให้หายคิดถึง เจ้านี่คือ “VOLKSPOD” มินิไบค์ VW ที่พ่อหนุ่มชื่อ Brent Walter ถอดชิ้นส่วนของ Volkswagen Beetle Type 1 หรือที่เรียกว่า “BUG” มาประกอบเป็นมินิไบค์คันใหม่ ทำสีใหม่ให้สดใส งานทำมือที่ได้ด้านในสอดไส้ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 79 cc ซึ่ง Brent ยืนยันว่ารถมินิไบค์คันนี้มันจะมีความเป็นไดนามิกมากกว่า Beetle Type 1 ต้นทางของมันอย่างแน่นอน ใครอยากรู้ว่าวิ่งได้เร็วแค่ไหน เราแนบคลิปมาแล้วเลื่อนลงไปดูด้านล่างได้เลย ถึงหน้าของมันจะดูอ้วน ๆ ไฟหน้าจะใหญ่ยักษ์ไม่อยู่ใกล้ใต้แฮนด์ แต่เพราะทรงนี้แหละทำให้หลายคนมองออกทันทีว่ามันมาจาก Bug นอกจากโครงที่เป็นพระเอกแล้ว ส่วนที่ไม่พูดถึงเพิ่มไม่ได้คงเป็นเรื่องแฮนด์ขนาดยาว หน้าตาแหวกแนวรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปจากความกว้างแฮนด์ ที่ดูเหมือนจักรยานมากกว่ากับไฟหน้าดวงกลมโตที่มาจากไฟของ Type 1 พ่วงด้วยไฟท้ายสีแดงพร้อมอวดลำแสงให้คนขับตามได้ชื่นชม มาลองดูความเท่ของมันในคลิปไปพร้อมกัน ตอนนี้รายละเอียดอาจจะยังออกมาไม่มากนัก สำหรับคนที่มีเงินเต็มกระเป๋าพร้อมจ่ายให้งานคราฟต์เพราะตกหลุมรักคันนี้ตั้งแต่แรกเห็นเหมือนเรา หรืออยากให้รถเต่าในบ้านได้มีสมาชิกใหม่ไปยืนเทียบ บอกเลยว่าเขายังไม่เผยรายละเอียดการวางจำหน่าย ไม่รู้ว่าจะมีแพลนขายไหมเพราะโมรถขึ้นมาเอง ใครที่อยากเข้าไปดูรูปดีเทลข้างในให้จุใจคลิกไปตามต่อจาก IG ของ
สำหรับหนุ่ม ๆ โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบรถยนต์สายพันธุ์คลาสสิก คงคุ้นเคยกันดีกับดีไซน์เหนือกาลเวลาของ Volkswagen Beetle ซึ่งก่อนหน้านี้กำลังเผชิญหน้ากับคดีการครอบครองสิทธิ์ในงานออกแบบ ล่าสุดศาลเยอรมนีมีคำพิพากษาออกมาแล้ว Volkswagen Beetle คือหนึ่งในรถยนต์สายพันธุ์คลาสสิกที่ผู้ชายทั่วโลกรู้จักโดยรถยนต์ที่ผลิตระหว่างปี 1938 – 2003 เป็นผลงานการออกแบบของ Ferdinand Porsche ซึ่งมีดีไซน์เฉพาะตัวเพราะลักษณะที่คล้ายตัวด้วง รวมถึงเครื่องยนต์แบบสี่สูบนอนวางหลัง พร้อมช่วงล่างแบบ Torsion Bar พิสูจน์ความสำเร็จตลอดระยะเวลา 65 ปีด้วยยอดขายกว่า 21,500,000 คันทั่วโลก ความสำเร็จของ Volkswagen Beetle มีผู้คนเกี่ยวข้องมากมาย จึงทำให้ทางค่ายต้องพบเจอปัญหาด้านลิขสิทธิ์อยู่บ้าง ล่าสุดคือการถูกฟ้องเรียกร้องค่าส่วนแบ่งออกแบบจากลูกสาวของ Erwin Komenda หนึ่งในทีมดีไซน์ที่เคยทำงานร่วมกับ Ferdinand Porsche ในช่วงปี 1930 และในช่วงปี 1966 ลูกสาวของ Erwin Komenda มีหลักฐานเป็นรูปวาดที่พ่อของเธอเคยร่างแบบของ Beetle เอาไว้พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 5.7 ล้านเหรียญหรือประมาณ 175,400,000 ล้านบาท รวมถึงเรียกร้องค่าลิขสิทธิ์จากรถยนต์ Volkswagen Beetle ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2014 โดยบอกว่ารถรุ่นใหม่ยังคงใช้องค์ประกอบจากงานออกแบบที่พ่อของเธอเคยคิดค้นเอาไว้ ผลการตัดสินล่าสุด ศาลเมือง
Volkswagen คือรถยนต์สัญชาติเยอรมันที่สร้างสรรค์ขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นรถที่ชาวเยอรมันนิยมมีไว้ติดบ้านเนื่องจากสมรรถนะที่ดีเยี่ยม เต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอยในราคาย่อมเยา รวมถึงเรื่องของการบริการใส่ใจลูกค้าไม่เคยเสื่อมคลาย แม้แต่คุณยายที่เคยซื้อรถยนต์เมื่อ 50 ปีที่แล้ว มาถึงวันนี้ยังได้รับเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ที่น่าประทับใจจาก Volkswagen เช่นกัน เรื่องราวความประทับใจนี้เริ่มต้นจากหญิงอายุ 73 ปี นามว่า Kathleen Brooks เธอได้ซื้อรถ Volkswagen Beetle สีแดง หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันจนติดปากว่า “รถเต่า” มาตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 1966 ซึ่งเท่ากับว่าเจ้ารถเต่าคันดังกล่าวอยู่กับแคทเธอรีนมากว่า 52 ปีแล้ว มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับการครอบครองรถคลาสสิคเป็นเวลานาน แต่เรื่องราวระหว่างแคทเธอรีนและรถเต่าของเธอมีความน่าสนใจมากกว่านั้น เพราะตั้งแต่ที่เธอซื้อรถคันแรก เธอได้จดบันทึกเรื่องราวความผูกพันระหว่างตัวเธอกับรถเต่าคู่ใจตลอดเวลา เธอตั้งชื่อมันว่า Annie และไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีเวลาว่าง เธอมักจะออกไปขับรถเล่นพร้อมความทรงจำดี ๆ อย่างเช่น ในวันที่แอนนี่ต้องขึ้นเนินเขา เธอจะเคลื่อนไหวช้าลง และในวันที่อากาศเย็น แอนนี่จะทำงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งเจ้ารถเต่าแอนนี่อยู่กับเธอตั้งแต่แต่งงานจนกระทั่งหย่าร้าง ซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ไปจนถึงตอนที่เธอพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่สาม รวมเป็นเวลากว่า 5 ทศวรรษ เป็นระยะทางกว่า 450,000 ไมล์ ที่ทุกการเดินทางของแคทเธอรีนก็จะมีแอนนี่อยู่เคียงข้างเสมอ จนกระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์