Porsche ถือเป็นค่ายรถ Supercars ที่มักจะขยับตัวไปสร้างเทรนด์ใหม่ ๆ ก่อนค่ายคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง segment ใหม่ของ Super-SUV ด้วย Cayenne ที่ไม่ทิ้งลาย ใส่จิตวิญญาณความแรงใน Turbo GT จนทำสถิติเร็วที่สุดใน Nurburgring (Nordschleife) หรือการสร้าง Taycan ขุมพลัง EV ที่วันนี้ขายดีแซงหน้า 911 ไปแล้ว และโมเดลล่าสุดคืออีกสัญญาณถึงการเอาจริงเอาจังในโลกแห่ง Supercars พลังไฟฟ้า จากการซุ่มพัฒนา 718 ทั้ง Cayman และ Boxster ด้วยขุมพลังใหม่แบบ Electric Power 100% ข่าวการพัฒนา Porsche 718 พลังงานไฟฟ้านั้นถูกต่อยอดมาจากการเปิดตัว Mission R Concept ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา พื้นฐานของ Supercars ไซส์เล็กขุมพลังไฟฟ้าที่ถูกอธิบายภายหลังว่าเป็นเพียงแนวคิดและ Porsche อาจจะไม่ได้ผลิตมันออกมาจริง แต่เมื่อแหล่งข่าวเผยถึงโครงการ Electrified Cayman
กาลเวลาที่ดำเนินผ่านไปล้วนมีเรื่องราวเกิดขึ้นจนเป็นที่จดจำอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่วงการรถยนต์ ที่ในแต่ละยุคสมัยต่างก็มีการผลิตโมเดลออกมามากมาย เป็นการปักหมุดความทรงจำที่จะคอยกระตุ้นให้คุณนึกถึงช่วงเวลาในอดีตเมื่อคุณได้เห็นโมเดลต่าง ๆ เหล่านั้น แต่สำหรับในยุค 50’s คงไม่มีรถยนต์รุ่นไหนจะโดดเด่นไปกว่า Mercedes-Benz 300 SL Gullwing W198 รถยนต์สปอร์ตคูเป้ ตระกูล SL รุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1954-1957 มีจุดเด่นคือดีไซน์ที่สวยงามพร้อมประตูปีกนกนางนวล (Gullwing) ที่โดดเด่น, หรูหรา และเท่เกินกว่าใครในเวลาเดียว เป็นเอกลักษณ์สำคัญที่คอยานยนต์ต่างต้องพูดถึง รวมไปถึงดีไซน์ต่าง ๆ ที่สง่างามทั้งตัวฝากระโปรงหน้าที่มีความยาว ฝากระโปรงหลังมีความโค้งมน เบาะลายตารางหมากรุก ทุก ๆ ตำแหน่งได้สะกดทุกสายตาตั้งแต่ครั้งแรกที่มอง เดิมที Mercedes-Benz 300 SL Gullwing ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความเร็วในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทาง Maximilian Hoffman ตัวแทนผู้นำเข้าในอเมริกาได้เคยกล่าวไว้ว่า “สิ่งที่เราต้องการ ณ ที่นี้ คือรถสปอร์ตของ Mercedes-Benz ที่ยอดเยี่ยม” จนกระทั่งในเดือนกันยายน ปี 1953 Maximilian Hoffman
การแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก (Formula One World Championship) นับเป็นแหล่งรวมตัวของสุดยอดนักซิ่งที่จะมาโชว์ฟอร์มการขับรถอันสง่างามให้คนทั่วโลกได้ประจักษ์ การได้เห็นรถฟอร์มูล่าวันจำนวนหลายสิบคันลงสนาม ต่างคนต่างงัดสกิลการขับรถเพื่อขึ้นแซงหน้าฝ่ายตรงข้าม นับเป็นกิจกรรมที่สร้างความบันเทิงให้กับผู้คนมาหลายสิบปี UNLOCKMEN จึงอยากมาเล่าถึงประวัติของการแข่งขัน เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงความสนุกของการชมฟอร์มูล่าวันมากขึ้น ประวัติการแข่งขัน Formula One World Championship การแข่งขันรถฟอร์มูล่าวันโลกเริ่มขึ้นมาจากการแข่งขันที่มีชื่อว่า European Championships ซึ่งเป็นการแข่งขันรถกรังปรีซ์ที่จัดขึ้นโดย AIACR (Association Internationale des Automobile Clubs Reconnus) เป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี 1931 จนถึง 1939 โดยการแข่งขันนี้ในตอนแรกจะอนุญาตให้รถที่มีน้ำหนักอย่างน้อย 900 กิโลกรัมสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนกฎให้เป็นรถที่มีน้ำหนักไม่เกิน 750 กิโลกรัม และเปลี่ยนอีกครั้งให้เป็นรถที่มีน้ำหนักระหว่าง 400 และ 850 กิโลกรัม จนกระทั่งการแข่งขันต้องจบลงไปเพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่สองจบลง ก็มีกลุ่มคนที่พยายามในการฟื้นคืนชีพการแข่งขันรถให้กลับมาอีกครั้ง โดยในปี 1946 คณะกรรมาธิการกีฬาระหว่างประเทศ (CSI) สหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (Fédération Internationale de l’Automobile)
ระยะหลังมีผลงานดี ๆ จากสำนัก Mansory ออกมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอ Rolls-Royce Dawn ‘Silver Bullet’ กันไปแล้ว ส่วนผลงานชิ้นล่าสุดกับ Audi RS 7 Sportback ก็ต้องบอกว่าดีเยี่ยมไม่แพ้กัน ความโหดแบบไม่ล้นเกินงาม เน้นขับความดุดันของรถให้โดดเด่นมากขึ้นด้วยชุดแต่ง carbon fiber เสริมรอบคันตั้งแต่ลิ้นกันชนหน้า สเกิร์ตข้าง rear wing และ rear diffuser ช่วยเสริม fitment ให้รถดูโหดมากยิ่งขึ้น ตัวรถสี Nardo Gray ยอดฮิตของ Audi มีการใส่เส้นสายสีฟ้า bright blue ไว้บนขอบล้อและช่องดักลม เป็นคู่สีที่ใช้ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยหนัง Alcantara สีฟ้าสลับดำ เสริมความหรูหรา สร้างอารมณ์ความสปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน ขุมพลังของ Mansory Audi RS7 Sportback twin-turbo 4.0-liter V8 จากเดิม 591
เมื่อสังคมเราเริ่มมีผู้สูงอายุมากขึ้น พาหนะสำหรับผู้สูงอายุในเมืองก็เป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้นเหมือนกัน ตอนนี้มีสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะมันมาพร้อมกับรูปลักษณ์อันแสนล้ำหน้า และสมรรถนะในการใช้งานที่ไม่ธรรมดา Toyota เปิดตัวสกูตเตอร์ไฟฟ้าสามล้อสุดเฟี้ยว C+walk T เพื่อเป็นพาหนะช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหว หรือ แรงงานสูงอายุที่ต้องการเคลื่อนที่ระหว่างสถานีทำงานขนาดใหญ่ต่าง ๆ เช่น โกดัง โรงงาน หรือ สถานีปลายทางสนามบิน เป็นต้น รถสกูตเตอร์สองล้อคันนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน แบบถอดออกได้ ขนาด 10.8 แอมป์ / ชั่วโมง ซึ่งทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานให้กับรถทั้งคัน มันทำให้รถสามารถเดินทางได้ไกลถึง 14 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง และยังใช้เวลาชาร์จพลังงานแบตเตอรี่จาก 0 – 100% เพียงแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น C+walk T สามารถเดินทางได้เร็วสุดถึง 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานในหลายพื้นที่ ผู้ใช้งานสามารถปรับความเร็วสูงสุดลงได้หลายระดับเหมือนกัน (ตั้งแต่ 6 – 2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) นอกจากดีไซน์ที่สวยงาม และระบบขับเคลื่อนที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและคนสูงอายุแล้ว ตัวรถยังมีฟังก์ชันเฉพาะที่น่าสนใจอย่าง ‘ระบบหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง’ (obstacle
ใครอยากได้ นิสสัน จีที-อาร์ ที-สเปค (GT-R T-spec) ในประเทศไทย ไม่ต้องรอนานหรือลุ้นกับ importer อีกต่อไป วันนี้จองได้แล้วที่นิสสัน กรุงไทย ผู้จำหน่าย จีที-อาร์ อย่างเป็นทางการแห่งเดียวในประเทศไทย ตามมาตรฐานศูนย์บริการรถยนต์สมรรถนะสูงของนิสสัน หรือ นิสสัน ไฮเพอร์ฟอร์มแมนซ์ เซ็นเตอร์ (Nissan High-Performance Center – NHPC) โดย จีที-อาร์ ที-สเปค คันแรก พร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าชาวไทยภายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 โดยลูกค้าสามารถพบนิสสัน จีที-อาร์ ที-สเปค ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 (Thailand International Motor Expo 2021) จีที-อาร์ ที-สเปค เป็นรุ่นพิเศษที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการปรับปรุงสมรรถนะและดีไซน์ ด้วยเบรกคาร์บอนเซรามิก สปอยเลอร์หลังแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ฝาครอบเครื่องยนต์พิเศษสำหรับรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น และตราสัญลักษณ์รุ่น ที-สเปค ลิมิเต็ด อิดิชั่น
การฉลอง 50 ปีให้กับ Countact ยังไม่จบง่าย ๆ ก่อนหน้านี้เศรษฐีจำนวน 112 คนต่างรีบกันจอง Lamborghini Countach ขุมพลัง Hybrid ที่พัฒนาบน Aventador และ Sian จำนวน 112 คันจนหมดภายในวันเปิดตัว แต่แค่ไม่กี่สัปดาห์ผ่านไป Lamborghini ก็เปิดตัวผลงานที่พิเศษและน่าสะสมยิ่งกว่า นั่นคือ 1971 Lamborghini Countach LP 500 รุ่นดั้งเดิมที่เป็นต้นแบบให้กับ Lamborghini ทุกรุ่นมาถึงปัจจุบัน โปรเจคนี้มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ในปี 2017 เมื่อลูกค้า VIP ของ Lamborghini หลายคนพูดคุยกับแบรนด์ว่า น่าจะทำ restoration project ให้กับ Countach LP 500 prototype ออกมาเพื่อฉลอง 50 ปีให้กับโมเดลนี้นะ แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครคาดคิดว่า Lamborghini จะมีเซอร์ไพรส์เก็บไว้ถึงสองเด้งแบบนี้ Lamborghini Restoration
รถยนต์บางรุ่นอาจต้องใช้เวลาพิจารณาสักพักใหญ่ก่อนจะเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกชื่นชอบมัน แต่สำหรับ All-new Honda Civic แค่พริบตาเดียวก็เพียงพอที่จะสร้างความประทับใจให้หลายคนตกหลุมรักมันได้ตั้งแต่แรกเห็น ด้วยดีไซน์ที่พัฒนาขึ้นจากเดิม เพิ่มอารมณ์ความ Sport Premium ที่โดดเด่นเร้าใจ เส้นสายและรายละเอียดที่บอกเล่าคาแรคเตอร์ตามที่ทีมวิศวกรและนักออกแบบของ Honda ตั้งใจเอาไว้ ความตื่นเต้นเร้าใจที่สัมผัสได้แม้แต่ยามจอดสงบนิ่ง รายละเอียดที่พัฒนาจากรุ่นก่อน สะท้อนความหรูหราที่ภูมิฐานมากขึ้น ทุกอย่างแฝงเอาไว้ซึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้ All-new Honda Civic เป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบขึ้นในทุกมิติ เพราะความประทับใจนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน เราจึงได้เปิดโอกาสให้แฟนเพจจำนวน 200 คนที่เคยสัมผัสหรือ Test Drive มาแล้ว ให้ช่วยกันรีวิวความประทับใจระดับรักแรกพบที่ทุกคนได้จาก All-new Civic ไม่ว่าจะเป็น การดีไซน์ภายนอกที่สวยงาม ภายในห้องโดยสารที่หรูหราและทันสมัย ระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่า รวมถึงสมรรถนะพร้อมความประหยัดจากเครื่องยนต์ VTEC Turbo ไปดูกันว่าจุดเด่นที่ทุกคนประทับใจในครั้งนี้จะตรงใจกับความรู้สึกของคุณหรือไม่ จากการโหวตของแฟนเพจกว่า 200 คน พบว่าสิ่งที่คนโหวตว่าประทับใจมากเป็นอันดับ 1 คือ “Interior Design” เพราะในชีวิตประจำวันเราต้องใช้เวลาอยู่ในรถราว 4-5 ชั่วโมง ดังนั้นความผ่อนคลายที่ได้จากห้องโดยสารที่กว้างขวาง ดีไซน์ที่หรูหราและแตกต่าง วัสดุพรีเมียม รวมถึงเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมากมาย
ไม่มีใครในวงการรถแต่ง JDM ที่ไม่คิดถึง Paul Walker หนึ่งในผู้จุดประกายกระแสนิยมรถสปอร์ตจากญี่ปุ่นให้ดังพร้อมค่าตัวที่พุ่งไปทั่วโลก ล่าสุดทางสำนักแต่ง Tom’s Racing ได้ร่วมมือกับ Safari หนังสือสัญชาติญี่ปุ่น สร้าง Toyota Supra รุ่นพิเศษขึ้นมาเพื่อเป็นการรำลึกถึงการจากไปของ Paul Walker ดาราหนุ่มผู้ล่วงลับซึ่งเป็นแฟนตัวยงของ Toyota Supra A80 และมีสะสมใน collection อยู่หลายคัน Tom’s Racing และ Safari เลือก A90 Toyota Supra สีขาว matte white มาแต่งโดยใช้พาร์ทที่ใกล้เคียงกับ A80 Supra ในภาพยนตร์ ตั้งแต่ rear wing ด้านหลัง ล้อ BBS LM ลายเดียวกันในขนาด 20 นิ้ว ทั้งหมดได้แรงบันดาลใจจาก Supra สีขาวในฉากจบของ Furious 7
ใครที่ชอบดูหนังไซไฟ คงเคยอยากนั่งยานอวกาศ จานบิน หรือ รถบินได้กันบ้าง ตอนนี้ความฝันของคอหนังใกล้จะเป็นจริงมากขึ้นแล้ว เมื่อหลายธุรกิจพยายามผลิตพาหนะบินได้กันอย่างแพร่หลาย หนึ่งในนั้น คือ Jetpack Aviation (JPA) ผู้ผลิตไอพ่นบินได้ ซึ่งกำลังพัฒนา ‘Speeder’ พาหนะที่พวกเขาเคลมว่าเป็น “มอเตอร์ไซค์บินได้คันแรกของโลก” Speeder จะเป็นพาหนะขับเคลื่อนที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี VTOL (vertical take-off and landing) ช่วยให้มันบินขึ้นจากพื้นของที่ไหนก็ได้บนโลกอย่างง่ายดาย ซึ่ง Speeder จะถูกผลิตออกมาทั้งหมด 2 เวอร์ชัน ได้แก่ สันทนาการ (Recreational) และ ทหารหรือเชิงพาณิชย์ (Military/Commercial) สำหรับ Recreational จะเป็น Speeder ที่ใช้สัญจรทั่วไปในชีวิตประจำวัน โดยมันมีน้ำหนักอยู่ที่ 231 lbs สามารถบินด้วยความเร็วสูงสุดมากกว่า 150 mph มาพร้อมกับแรงขับสูงสุด (ISA) 705 lbs และเพดานการบินสูงสุดอยู่ที่ 15,000 ft ซึ่งทาง