1 ใน 399 road-legal BMW M1 ในจำนวนนี้มีบอดี้สี Silver Polaris metallic ออกจากโรงงานเพียง 3 คัน นี่คือตำนานที่ถูกพัฒนาและสร้างขึ้นภายใต้ทีม M Division ตามข้อบังคับ homologation โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการคว้าชัยชนะในโลกแห่ง motor sports จากเดิมที่ BMW แพลนจะร่วมมือกับ Lamborghini ในการพัฒนาโครงสร้าง mid-engine layout chassis แต่ด้วยปัญหาทางการเงินของค่ายรถจาก Italy ทำให้ BMW นำ M1 กลับมาพัฒนาทั้งหมดแบบ in-house อีกครั้งในปี 1978 และในที่สุด M Division ก็สามารถสร้างรถที่มาทดแทน BMW 3.0 CSL race cars ได้สำเร็จ Giorgetto Giugiaro ออกแบบ BMW M1 ได้อย่างน่าประทับใจทั้งดีไซน์ที่สวยงามสร้างจาก
Mercedes-Benz 190E 2.5-16 Evolution I & II ผลงานอันยอดเยี่ยมที่เกิดจากข้อบังคับ homologation เช่นเดียวกับ Renault’s R5 Turbo, Audi Sport Quattro, BMW E30 M3 ร่างทองของ Baby Benz เปิดตัวห่างกัน 1 ปี 190E 2.5-16 Evolution I ถูกสร้างขึ้นในปี 1989 จำนวน 502 คัน ชุดแต่ง aerodynamic pack ถูกติดตั้งให้รองรับสมรรถนะของเครื่องยนต์ 2.5-liter 4 สูบเรียงที่ผ่านการอัพเกรดให้มีรอบที่จัดจ้านและมีกำลังให้ใช้มากขึ้น ทำให้ผู้คนในงาน Geneva Motor Show ต่างจดจำร่างโหดของ 190E ที่ดูยังไงเหมือนคล้าย DTM cars 190E 2.5-16 Evolution I ทำผลงานได้ดีในปีนั้น
โปรแกรม BMW Driving Experience เป็นโปรแกรมฝึกอบรมการขับขี่รถยนต์อย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้ผู้ขับสามารถประเมินสถานการณ์และรับมือได้อย่างเหมาะสม โดยโปรแกรมดังกล่าวเริ่มขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2520 ในประเทศเยอรมนี ซึ่งดำเนินการโดย BMW Motorsport GmbH ด้วยเป้าหมายที่ยังคงสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ การถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ใช้สำหรับการฝึกอบรมนักแข่ง มาให้แก่ผู้ใช้ยานพาหนะทั่วไป เพื่อยกระดับศักยภาพระหว่างคนกับรถยนต์ ให้ได้ทักษะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ สำหรับในประเทศไทย ทางบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้จัดคอร์สฝึกอบรม BMW Driving Experience ครั้งแรกในเดือนกันยายน พ.ศ. 2547 โดยปีนี้นับเป็นปีที่ 20 ของกิจกรรม BMW Driving Experience ในประเทศไทย ซึ่งได้มีการยกระดับรูปแบบของโปรแกรมให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นและขยายศักยภาพในการรองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ถึง 30 คน ภายใต้ความร่วมมือของผู้สนับสนุน 3 ราย ได้แก่ อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด, มิชลิน ประเทศไทย และบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล
ในยุคสมัยก่อนที่ AMG จะรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Mercedes-Benz ยังเป็นสำนักแต่งที่มีอิสระในการเพิ่มสมรรถนะให้กับรถรุ่นไหนก็ได้ตามต้องการ อย่างที่เคยบอกไปว่าในช่วงปี 1980s หากคุณมีเงินมากพอ จะแต่งรถ Benz ทุกรุ่นให้แรงแค่ไหนก็เสกได้โดย AMG ซึ่งในปีนั้นทีมได้สร้าง “Hammer Wagon” ออกมาหนึ่งคันให้กับลูกค้า วางเครื่องยนต์ M117 V8 6.0-liter DOHC 32-valve ขึ้นมาในราคา $190,000 ซึ่งถือว่าแพงมาก ๆ ในยุคนั้น หลังจากสร้าง Hammer Wagon ทีม AMG ก็เกิดไอเดียอยากสร้าง Sport Wagon ออกมาอีกหนึ่งคัน แต่คราวนี้เลือกใช้เครื่อง 6.0-liter V8 SOHC 16-vlave 310 แรงม้า ซึ่งประหยัดทั้งเวลาและราคาลงไปได้เยอะเพราะไม่ต้องรออะไหล่จาก Affalterbach สำนักงานใหญ่ สามารถตั้งราคาขายได้ที่ $100,000 ซึ่งแน่นอนว่ามีลูกค้ารอเป็นเจ้าของทันที โดยใช้ตัวถัง triple-black 300 TE wagon นำมาวางเครื่องใหม่พร้อมจูนระบบเกียร์ให้ตอบสนองกับความแรงที่เพิ่มขึ้นได้อย่างเหมาะสม
BMW เปิดตัวขวัญใจพ่อบ้าน 2025 5 Series Touring มาตามนัดทั้งเครื่องยนต์ plug-in hybrid และ EV พกแรงม้ามาสูงสุดถึง 593 hp เป็น Sleeper ที่แรงสะใจพ่อบ้านสายซิ่ง มิติตัวถังของ 5 Series Touring มีความยาวถึง 199 นิ้ว เกือบจะเท่า BMW 7 Series G11 รุ่นก่อนได้เลย มีความกว้าง 74.8 นิ้ว และสูง 59.6 นิ้ว ด้านท้ายใส่สัมภาระได้จุใจถึง 20.1 ลูกบาศก์ฟุต และสามารถพับเบาะหลังเพิ่มความจุได้มากถึง 60 ลูกบาศก์ฟุต ได้เท่ากันไม่ว่าจะเลือกเครื่องยนต์เผาไหม้หรือไฟฟ้า จุของเยอะกว่า Audi A6 Avant แต่ยังน้อยกว่า E-Class Estate แบบไม่ Hybrid นิดหน่อย ตัวท็อปสุด i5
เป็นปกติของ Porsche ที่เมื่อถึงเวลา facelift มักจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่เป็นขุมพลังที่อัพเกรดใหม่ให้แรงสะใจยิ่งขึ้น และสำหรับ Porsche Taycan Turbo S ใหม่ก็อัพเกรดแรงม้าให้สะใจกลายเป็น ultra-mega-powerful EV จากเดิม 750 hp พุ่งทะยานไปไกลถึง 938 hp ทำเวลา 0-100 km/h ได้เร็วสะใจใน 2.3 วินาที กลายเป็น Porsche road-car ที่แรงที่สุดในตระกูลเรียบร้อย ขุมพลังใหม่เพิ่มขึ้นจาก new electric motor ที่มีพละกำลังมากขึ้นและเบาขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบัน โดยตัว base rear-drive model ก็จะมีแรงม้าเริ่มต้นที่ 483 hp และไม่ใช่แค่ความแรง แต่ Porsche ยังเพิ่ม battery ใหม่สูงสุดเป็น 105 kWh และ 89 kWh ในตัวเริ่มต้น เพิ่มระยะทางการขับให้ไกลยิ่งขึ้น
รุ่นนี้ทำอะไรก็ดีไปหมด High-performance Wagon ตัวแรงขวัญใจพ่อบ้านทุกหมู่เหล่า เปิดตัว limited edition รุ่นใหม่ที่ดุและแรงยิ่งขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจาก Audi 90 Quattro IMSA GTO racecar ตัวแข่งจาก 1989 American IMSA Series ในตำนาน แรงจัดด้วยม้า 621 ตัวจากเครื่องยนต์ twin-turbocharged 4.0-liter V8 แรงบิด 625 lb-ft ทำความเร็ว 0-100 km/h ได้ใน 3.2 วินาที เกียร์ 8-speed automatic ขับเคลื่อน 4 ล้อ ไม่ใช่แค่ความเร็ว การควบคุมที่เฉียบคมขึ้นคือจุดเด่นหลักของ RS6 Avant GT นอกจากการดีไซน์ aerodymanic ที่ดีขึ้น ยังมาพร้อม Locking Center Differential ใหม่ล่าสุดที่พัฒนาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ กระจายแรงหน้าหลังในอัตราส่วน
โมเดลสุดหรูสำหรับคนรักสุนัข BMW X7 xDrive40d Poldo Dog Couture Edition แบรนด์สำหรับคนรักสุนัขสุดหรูใน Italy กับ trim พิเศษผ่านการ customized ตกแต่งได้อย่างสุดคลาสสิก ไม่ได้เห็นมานานมากแล้วสำหรับลายไม้ในห้องโดยสาร เป็นไม้มะเกลือ (Ebony wood) ผลงานจากช่างไม้ระดับ Master Capenter ตัดกับความนุ่มนวลของหนัง Alcantara สีเขียว Oxford Green แบบเดียวกับภายนอก เป็นการดีไซน์ที่สวยงามและดูดีมาก ๆ แนวคิดการออกแบบ BMW X7 edition สุดพิเศษนี้มาจากกลิ่นอาย บรรยากาศ สีสันของธรรมชาติยามเช้าในป่าที่มีสุนัขตัวโปรดอยู่ข้าง ๆ ภาพจำนั้นถูกนำมาตีความทั้งสี การตกแต่ง อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถ ทุกจุดของรถผ่านการคิดคำนวณเพื่อความสุขสูงสุดของน้องหมาอย่างครบถ้วน ฟีเจอร์อันแน่นความเป็น dog-friendly ที่แม้ไม่มีหมาแต่ชอบสีเขียวลายไม้ก็ซื้อได้ ที่สุดทั้งด้านดีไซน์และการใช้งาน โดยใน Poldo Dog Couture Edition จะมีชุด travel
น่าจะเป็น Porsche 914 ที่ทำออกใหม่ได้สวยกว่าของเดิมซึ่งเป็นโมเดลที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุดของ Porsche นี่คือโปรเจค restomod ที่ทีม Fifteen Eleven Design ใช้เวลาพัฒนานานถึง 3 ปี ใช้โครงสร้างพื้นฐานจาก Cayman S เครื่องยนต์ 3.8-liter flat-six ผ่านการจูน ECU และอัพเกรดชิ้นส่วนภายในใหม่จนได้แรงม้าราว 400 ตัว จับคู่เกียร์ 6-speed Manual ทีม Fifteen Eleven Design ทิ้งไฟหน้า pop-up สุดคลาสสิกออกไปแทนที่ด้วยไฟ LED ย้ายมาไว้ด้านล่างของกันชนหน้าซึ่งต้องออกแบบใหม่เนื่องจากเดิม 914 ระบายความร้อนแบบ air-cooled แต่ Cayman S ใช้ liquid-cooled ซึ่งต้องพื้นที่สำหรับหม้อน้ำและ oil cooler ตัวถัง Targa เปิดหลังคาผลิตจาก Carbon Fiber ฟิลลิ่งการขับการควบคุมรถถูกออกแบบใหม่ให้รองรับกับสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น ชุดโช้ค
BMW น่าจะเป็นค่ายเดียวในตอนนี้ที่มีเกียร์ Manual ให้เลือกในรถใหม่หลายรุ่น ล่าสุดก็เป็นไปตามคาดสำหรับ BMW Z4 M40i ที่เปิดตัวใหม่พร้อมเกียร์ 6-Speed Manual หลังพัฒนาภายใต้รหัส Handschalter (Hand Shift) เป็นชุดเกียร์ที่พัฒนาสำหรับเครื่องยนต์ turbocharged 3.0-liter inline-six โดยเฉพาะ พร้อมระบบช่วยขับอย่าง variable-ratio steering system, traction control, M Sport differential, rear suspension dampers และ reinforced anti-roll bar เพื่อให้ความรู้สึกในการเปลี่ยนเกียร์แม่นยำและสื่อสารกับรถได้อารมณ์สปอร์ตมากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ turbocharged 3.0-liter inline-six ให้ output รวม 382 hp แรงบิด 369 lb-ft ทำความเร็ว 0-100 ใน 4.2 วินาที ช้ากว่าเกียร์