ช่วงเวลาแห่งความดุเดือดในโลกแห่งความเร็ว หลัง McLaren พึ่งจะเปิดตัว W1 ออกมาได้ไม่นาน ด้าน Porsche ก็เตรียมเปิดตัว hypercar รุ่นใหม่เร็ว ๆ นี้ ฝั่ง Ferrari ก็ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ออกมาในชื่อ F80 เป็น flagship ที่จะมาสานต่อตำนานความยิ่งใหญ่ของ LaFerrari ด้วยขุมพลัง 3.0-liter V6 turbocharge Hybrid 900 แรงม้าจากเครื่องยนต์ พ่วงพลังงานจาก Tri-motor AWD ให้กำลังรวมเกือบ 1,200 แรงม้า เคลมตำแหน่ง “The Most Powerful Ferrari” ที่เคยผลิตออกจากโรงงานจนถึงวันนี้ สามารถทำความเร็วถึง 100 km/h ได้ภายใน 2.15 วินาที และถึง 200 km/h ใน 5.75 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุด 350 km/h
“คุณเคยดูหนังโฆษณาน้ำมันเชื้อเพลิงมาแล้วกี่ชิ้น?” คำถามนี้คงยากจะให้คำตอบเป็นจำนวนที่แน่ชัด แต่เชื่อเหลือเกินว่าเมื่อพูดถึงโฆษณาน้ำมัน ภาพในหัวของใครหลายต่อหลายคน คงหนีไม่พ้นภาพจำซ้ำ ๆ เดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพปั๊มน้ำมัน หรือภาพ CG กระบอกสูบ, เครื่องยนต์กำลังทำงาน ปิดท้ายด้วยภาพรถยนต์พุ่งทะยานไปบนท้องถนน แต่ ณ ขณะที่เรากำลังเขียนบทความนี้ น่าจะมีผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่ได้รับชมหนังโฆษณาน้ำมันตัวใหม่ล่าสุดของ ‘บางจาก’ ที่ไม่ได้ใหม่แค่เพราะเพิ่งถูกเผยแพร่ แต่มันคือความใหม่ และแปลกตาในแง่ของงานภาพและเนื้อหา ที่น่าจะไม่เคยมีใครได้สัมผัสผ่านหนังโฆษณาน้ำมันมาก่อน ซึ่งความแปลกและแตกต่างที่เกิดขึ้น มีต้นทางมาจากแนวคิดของแบรนด์บางจากที่เชื่อมั่นในการ “สร้างสรรค์พลังไม่รู้จบ” กับเป้าหมายในการพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองเทคโนโลยียานยนต์ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง สู่การพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิง Bangchak Hi Premium อย่าง Bangchak Hi Premium 97 และ Bangchak Hi Premium Diesel S ยืนหนึ่งในความเป็นพลังสะอาด ที่มาพร้อมความแรง และสามารถปกป้องเครื่องยนต์ได้ 100% ในทุกจังหวะที่เหยียบคันเร่ง การันตีประสิทธิภาพได้จากความเชื่อมั่นของ บริษัท AAS AUTO SERVICE ตัวแทนจำหน่าย PORSCHE, BENTLEY
Aston Martin DB12 Goldfinger Edition ฉลองครบรอบ 60 ปี ให้กับสายลับ 007 Goldfinger ด้วยแรงบันดาลใจจาก iconic DB5 ที่ขับโดย Sean Connery ในปี 1964 ซึ่งเป็นครั้งแรกในซีรีส์ James Bond ที่ได้ขับ Aston Martin ในภาพยนตร์ รถคันนี้ถูกสร้างแบบ special edition บนโมเดล 2023 DB12 ผลงานการตกแต่งเป็นพิเศษโดยแผนก “built by Q” limited production จำนวน 60 คัน ด้านขุมพลังของ Aston Martin DB12 Goldfinger Edition ยังคงใช้สเปกเดิม เครื่องยนต์ 4.0-liter twin-turbo V8 ให้กำลัง 671 hp
มีเวลาอีกแค่ไม่ถึง 10 วันนะครับพี่น้อง กับโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของความซนระดับตำนาน อย่าง MONKEY Z125R SPECIAL EDITION รับประกันความแสบเกินต้าน เมื่อลิงซ่าส์กลับมาซน พร้อมโทนสีจี๊ดจ๊าดสะท้อนตัวตนความซนซ่าส์สุดคลาสสิกจากยุค 80s สู่ปรากฎการณ์ความสนุกครั้งใหม่ ที่บอกเลยว่าสาวก MONKEY ยากจะหักห้ามใจ กับงานดีไซน์จัดจ้าน พร้อมสร้างตำนานบทใหม่ ให้ได้ปล่อยจอย ปล่อยใจ ไปกับความมันส์บนรอยยาง และทางฝุ่น ฟีล Enduro เท่พร้อมลุยกับ LEGACY WIND SHIELD ดีไซน์เก๋า เร้าใจยิ่งกว่าด้วย CLASSIC GOLD WING TANK ตัวถังสีแดงสด ประทับโลโก้ Honda Classic Wing สุดโดดเด่น Limited เกินใคร และ LEGACY SIDE COVER จัดเต็มดีไซน์กราฟิกพิเศษเฉพาะ Z125R พร้อมตอกย้ำความมันส์ยิ่งกว่าด้วย LEGACY BLUE SEAT เบาะนั่งนุ่มสบาย สดใสไปกับสีน้ำเงินกระแทกใจ ขี่ไปไหนใครก็เหลียว
Ruf Rodeo การตีความ Safari 911 off-road version ในมุมมองของ RUF ที่ดูแตกต่างจาก 911 Dakar อย่างชัดเจน และยังแตกต่างจาก Rodeo concept ที่เคยนำเสนอย้อนไปในปี 2020 ภายนอกยังคงให้ความรู้สึกถึง classic 911 แต่มีการปรับรายละเอียดสำคัญหลายจุดให้กลิ่นอายความเป็น modern retro ที่แข็งแกร่งพร้อมลุย โครงสร้างทำขึ้นใหม่ด้วยวัสดุ lightweight carbon monocoque chassis บอดี้ผลิตจาก carbon fiber มาพร้อมที่จับประตูแบบ Flush Door Handles ซ่อนไว้ในตัวรถอย่างแนบเนียน กันชนหน้าและหลังออกแบบใหม่จนดูคล้ายรถในเกมหรือการ์ตูน ภายในตกแต่งสไตล์ Western Americana them หุ้มหนังสีน้ำตาลผสมกับผ้าที่เล่นลวดลายสนุกสนาน เข้าใจว่า RUF ต้องการให้ Rodeo เป็นรถที่เห็นภายนอกหรือภายในก็อยากจะขับออกไปผจญภัยทางฝุ่นทันที เครื่องยนต์ 3.6-liter turbocharged flat-six อัพเกรดเพิ่ม output
หาก Mercedes-AMG คือความแรง Mercedes-Maybach ก็คือความหรูหราสะดวกสบาย นี่คือครั้งแรกที่เราได้เห็นการนำแบรนด์ Maybach มาใช้ใน SL roadster ในรหัส SL 680 Monogram Series ขุมพลัง bi-turbo 4.0-liter V8 577 แรงม้า แรงบิด 590 lb-ft จาก SL63 แม้ตัวเลขจะเท่ากัน แต่ผ่านการปรับปรุง software และตำแหน่งเครื่องเพิ่มความนุ่มนวลใน Maybach เวอร์ชัน โลโก้ Maybach ถูกใส่เข้าไปแบบไม่ยั้งตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าสีดำ ช่องดักอากาศ กระจังหน้า หลังคาผ้า soft-top roof ไปจนถึงดีไซน์ในห้องโดยสารที่เพิ่มความเป็น Maybach เข้าไปทั้งใน start-up animations และการตกแต่งที่เน้นความหรูหราด้วยหนังโทนสีขาว crystal-white nappa leather ใครใจไม่แข็งอาจมีอาการเขินกันบ้างเพราะตะโกน Mayback เยอะมากจริง ๆ สิ่งที่ค่อนข้างสับสนใน Mercedes-Maybach
ก่อนหน้านี้มีข่าวเกี่ยวกับ Porsche ลึกลับที่ดูคล้าย 911 GT1 กำลังโหลดขึ้นเครื่องบินใน LAX ทำให้หลายคนคาดว่า Porsche จะมีเซอร์ไพรส์เปิดตัวรถแข่งรุ่นใหม่ แต่สรุปแล้วมันคือ Tuthill GT One ที่ได้แรงบันดาลใจจาก 911 GT1 รถแข่ง Le Mans ที่เร็วที่สุดของ Porsche โครงสร้างของ GT One คาดว่าจะเป็น steel tubular chassis เครื่องยนต์มีสองแบบคือ Porsche’s 4.0 ลิตร 6 สูบ NA ผ่านการโมดิฟายจนได้ 500 แรงม้า และแบบพ่วง turbocharged 600 แรงม้า วางกลาง mid-engine ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยเกียร์ 7-speed dual-clutch หรือเกียร์ manual มี redline ให้ลากได้ถึง 11,000-rpm ดีไซน์ของรถเน้นความเป็น
ผลงานการ conversion แบบสุด exclusive โปรเจกที่สร้างสรรค์ร่วมกันระหว่างการออกแบบโดย hardcore collector และการทำให้เป็นจริงโดย Porsche Sonderwunsch program นำ 911 993-generation มาสร้างใหม่ให้เป็น Speedster version ซึ่งในประวัติศาสตร์เคยมี 993 Speedsters ออกจากโรงงาน Porsche เพียง 2 คัน สำหรับฉลองวันเกิด 60 ปี Ferdinand Alexander Porsche ในปี 1995 และรถคันพิเศษสำหรับดาราดัง Jerry Seinfeld ในปี 2001 รถคันนี้จึงเป็นคันแรกที่ Porsche ผลิตให้กับลูกค้าคนสำคัญ Mr. Luca Trazzi ชาว Italian โปรเจกนี้เริ่มจากการนำ 1994 Porsche 911 Carrera Cabriolet มาเป็น donor car
Lamborghini Temerario บอกลาเครื่อง NA V10 ด้วย Plug-in hybrid supercar กับกระทิงตัวใหม่มาแทน Huracan ในขุมพลัง 920 แรงม้า twin-turbo V8 พร้อม Triple-Motor PHEV, 0 to 100 ใน 2.7 วินาที “Temerario” เป็นโมเดลที่สองในตระกูล Lamborghini High Performance Electrified Vehicle (HPEV) ต่อจาก Revuelto โดย Temerario เป็นชื่อของกระทิงนักสู้ที่โด่งดังในปี 1875 มีความหมายว่า “บ้าระห่ำ” ในภาษาสเปน น่าจะบ่งบอกถึงบุคลิกของ baby Lamborghini รุ่นใหม่ล่าสุดได้ชัดเจน Temerario มาแทนที่ Huracan ที่ทำตลาดตั้งแต่ปี 2013 จากไปพร้อมเครื่องยนต์ 5.2 ลิตร V10
สำหรับผู้ที่คลั่งไคล้ในเสน่ห์แห่งยานยนต์ เหตุผลในการเป็นเจ้าของรถยนต์สักคัน มันอาจเป็นไปได้มากกว่าเรื่องของฟังก์ชัน หรือความคุ้มค่า… เพราะยากจะปฏิเสธว่าสิ่งที่ทำให้รถยนต์สักคันหนึ่งควรค่าแก่การครอบครอง ในมุมมองของ Car Enthusiasts ทั้งหลาย คงหนีไม่พ้นรถยนต์ที่สามารถกระตุ้นความหลงใหลภายในใจให้คุกรุ่น แน่นอนว่าการตัดสินใจทั้งหมดล้วนอยู่บนพื้นฐานของคำง่าย ๆ แต่ลึกซึ้ง นั่นคือ ‘ความพึงพอใจ’ ที่ไม่อาจตีมูลค่าเป็นราคา และเราเชื่อว่า Mazda6 20th Anniversary Edition คันนี้ ที่แฟน ๆ Mazda ชาวไทยต่างรอคอยกันมายาวนาน คือหนึ่งในยอดยนตรกรรมซึ่งพร้อมกระตุ้นความน่าหลงใหลในทุกมิติ กับการตั้งใจรังสรรค์บนพื้นฐานแนวคิด “The Ultimate Maturation of Sportiness and Elegance” สะท้อนผ่านงานออกแบบที่เต็มไปด้วยความหรูหราสง่างามและภูมิฐาน ผสานเส้นสายที่เฉียบคมให้อารมณ์สปอร์ตตามปรัชญา KODO Design : Soul of Motion หรือจิตวิญญานแห่งการเคลื่อนไหว โดยไม่ละทิ้งความเรียบง่ายแต่งดงาม ตามคอนเซ็ปต์ Less is More ทุกองค์ประกอบของ Mazda6 20th Anniversary Edition ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันดุจดั่งงานศิลปะชั้นสูง