ไม่นานมานี้วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้เปิดตัว The New Volvo XC40 สุดยอดคอมแพกต์เอสยูวีรุ่นแรกของแบรนด์ ที่เกิดขึ้นได้ภายใต้แนวคิด “Designed to Break the Norms” โดดเด่นด้วยดีไซน์ การจัดสรรพื้นที่ใช้สอย และเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ที่ครบครัน นำเสนอทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ T4 เบนซิน และ T5 AWD เพลิดเพลินไปกับการตอบสนองที่ฉับไวและทรงพลัง พร้อมประสิทธิภาพชั้นยอดในการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมัน ด้วยเครื่องยนต์ขั้นสูงรุ่น T4 (190 แรงม้า) เน้นการขับขี่แบบสปอร์ต ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถ ทำงานร่วมกับเกียร์อัจฉริยะที่มีระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 8 สปีดแบบ Geartronic อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 8.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 210 กม./ชม. ในส่วนเครื่องยนต์รุ่น T5 (252 แรงม้า) พร้อมระบบขับเคลื่อน AWD ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน
BMW ส่งรถซีรีส์ 8 ออกมาทักทายโลกเป็นครั้งในปี 1989 ภายใต้โมเดล BMW E31 ก่อนในเวลาต่อมามันจะกลายเป็นหนึ่งในซีรีส์รถยนต์ประเภท Gran Turismo ที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกจนถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาเป็น Generation 2 และล่าสุดพวกเขาได้เผยโฉมซีรีส์ 8 โฉมใหม่ล่าสุดออกมาแล้วในรุ่น M850i xDrive Convertible ต่อจากรุ่น m850i xdrive coupe ซึ่งเปิดตัวออกมาแล้วก่อนหน้านี้ ภาพรวมของ 8-Series Convertible คือการเดินตามรอยของ 8-Series Coupe ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้าแต่คงความเป็นเอกลักษณ์ของรถประเภท Convertible ด้วยหลังคาเปิดประทุน ซึ่งสามารถพับเก็บเองได้ภายใน 15 วินาที ขณะรถหยุดนิ่งหรือวิ่งในความเร็วไม่เกิน 48 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่เพียงแค่นั้นเพราะตัวรถยังมีระบบรักษาความปลอดภัย Rollover Protection System ที่จะมีแท่งอลูมิเนียมแข็งแรงพิเศษ 2 ข้างโผล่ออกมาภายในเสี้ยววินาทีหากรถเกิดพลิกคว่ำ โดยเป็นนวัตกรรมด้านความปล่อยภัยที่ต้องมีในรถยนต์ประเภทเปิดหลังคาได้เพื่อป้องกันศรีษะของผู้ขับขี่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ด้านงานดีไซน์ภายนอก 8-Series Convertible ด้านหน้าเสริมความดุดันด้วยตะแกรงระบายอากาศที่กว้างขึ้น ไฟหน้ารถเป็น LED Laserlight technology พร้อมท่อไอเสียคู่รูปสี่เหลี่ยมคางหมูและล้ออัลลอยด์น้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว
ความสุขในชีวิตคนเราตั้งแต่เกิดมาจนตายไปคืออะไร ? คำถามนี้สำหรับผู้ชายหลายคนอาจยังอยู่ในช่วงเดินทางตามหาคำตอบกันอยู่ แต่สำหรับ แทม หรือ พศิน อัธยาตมวิทยา เขาคงเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ค้นเจอคำตอบพวกนั้นด้วยตัวเองแล้ว แม้ช่วงอายุจะอยู่ในรุ่นราวเดียวกันกับใครหลายคนซึ่งยังเลือกใช้ชีวิตอยู่อย่างไร้ความท้าทายภายใน Comfort Zone ของตัวเอง จากเด็กหนุ่มอายุ 20 ที่ลงมือเรียนรู้ด้วยตัวเอง จนสามารถเขียนหนังสือที่คนรักการถ่ายรูปหลายคนต้องรู้จักอย่าง Speed Of Light ต่อด้วยบทบาทผู้กำกับงานโฆษณาฝีมือโดดเด่น รวมไปถึงเรื่องราวความชื่นชอบในรถยนต์ที่มีมาตั้งแต่เด็ก สู่ชีวิตที่หลงใหลการอยู่หลังพวงมาลัยความเร็วสูง อะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเขาจากเด็กหนุ่มหัวรั้นให้กลายเป็นผู้ชายที่มีคุณภาพทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิต วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อมกัน “ชื่อแทมนะครับ พศิน อัธยาตมวิทยา ตอนนี้เป็นผู้กำกับครับทำเกี่ยวกับหนังโฆษณาแต่ก่อนหน้านี้จริง ๆ คนอาจรู้จักผมในฐานะการเป็นช่างภาพครับเพราะผมเริ่มถ่ายรูปมาตั้งแต่ก่อนเรียนมหาวิทยาลัย ใช้เวลาอยู่ตรงนั้นประมาณ 7 ปี ในฐานะช่างภาพที่มีความถนัดในเรื่องของ แสง เคยเปิดสอนเกี่ยวกับเรื่องแสงเป็นเรื่องเป็นราวมาก่อนและตอนอายุประมาณ 20 ปีก็มีหนังสือของตัวเองออกมาครับ” ศาสตร์แห่งแสง มีความสำคัญยังไง ? “สำหรับผมแล้วแสงมันค่อนข้างเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมากเลยนะเพราะเราสามารถมองเห็นมันตลอด แต่เวลาที่มันลงมากระทบตัว มันก็แค่สะท้อนออกไปโดยที่เราไม่รู้สึกอะไร แถมสามารถนำมาปรับแต่งให้วิ่งสวนทางกันได้แบบต่างคนต่างไป นอกจากนี้ยังบอกเล่าถึงรูปทรงและลักษณะพื้นผิวในแบบต่าง ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่นการถ่ายภาพรถยนต์ อีกเหตุผลหนึ่งคือถ้าเราเคยสังเกตดี ๆ จะมองเห็นว่าในที่เดียวกันแต่คนละเวลา ก็เป็นคนละแสง ในเวลาเดียวกันแต่อยู่คนละมุมโลกก็เป็นคนละแสง ทิศทางของมันเปลี่ยนไปอารมณ์ทุกอย่างก็เปลี่ยนหมด”
RM Sotheby’s บริษัทจัดประมูลรถชื่อดังเตรียมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการประมูลรถอีกครั้ง หลังออกมาเปิดเผยว่าพวกเขาเตรียมนำรถแข่งโมเดลสุดคลาสสิกอย่าง FERRARI 290 MM รหัสเครื่อง 0628 1 ใน 4 คัน ออกประมูลในงาน The Petersen Automotive Museum Auction 2018 ในเดือนธันวาคมนี้ โดยคาดว่ามันจะกลายเป็นอีกไฮไลต์หนึ่งของการประมูลรถปีนี้ หลังจากเมื่อปี 2015 พี่น้องในรหัส 0626 เคยถูกนำออกประมูลจนราคากลายเป็นสถิติโลกมาแล้ว ความเป็นตำนานของ FERRARI 290 MM เริ่มต้นในปี 1956 ในโปรเจกต์พัฒนารถแข่งเพื่อเตรียมสำหรับการแข่งขัน World Sports Car Championship รวมถึงรายการ Mille Miglia จนเป็นที่มาของชื่อ MM ต่อท้าย ซึ่งในตอนนั้นพวกเขามี Mercedes-Benz หรือ Maserati เป็นคู่แข่งตัวฉกาจอยู่ในวงการ ในขณะที่ Enzo Ferrari เองก็ต้องการให้ความสำคัญกับการแข่งขันทุกประเภท ไม่ใช่เฉพาะการคว้าแชมป์โลกรถสูตร 1 เท่านั้น Ferrari จึงได้ผลิตรถ
หลายครั้งที่เราดู Spec รถยนต์บางรุ่งที่ได้ชื่อว่าไฮเทคสุด ๆ ในต่างประเทศ แต่เมื่อเข้ามาวางขายในประเทศไทย กลับถูกถอดเทคโนโลยีล้ำ ๆ ที่น่าตื่นเต้นเหล่านั้นออกไปจนหมด ในราคาค่าตัวที่ไม่ได้ลดลงตามไปด้วยมากนัก แต่สำหรับรถยนต์ MG ที่พวกเราน่าจะได้รู้จักกับความสามารถสุดไฮเทคกันไปบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย หรือการบอกตำแหน่งของรถยนต์ได้ว่ากำลังถูกขับไปไหน ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ต้องบอกว่าไฮเทคมาก ๆ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่หาได้จากรถยนต์รุ่นอื่นในตลาด ต่อให้เป็น Segment ที่เหนือกว่าก็ตาม ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบจากการพัฒนาค้นคว้าที่โฟกัสบนกลุ่มลูกค้าไทยโดยเฉพาะ ด้วยเหตุผลนี้ จึงไม่แปลกที่เราจะยกให้ระบบ i-SMART ของ MG เป็นเทคโนโลยีติดรถยนต์ที่สุด SMART ในราคาที่สามารถครอบครองใช้งานได้อย่างสบายใจ เพื่อตอบคำถามยอดฮิตของผู้ชายว่า Budget แบบพอดี ๆ ซื้อรถอะไรถึงจะได้เทคโนโลยีที่คุ้มที่สุด วันนี้เราจะไปเจาะลึกดูความไฮเทคของรถยนต์ MG ว่ามีความฉลาดมากแค่ไหน เพราะมันเป็นจุดเด่นที่เราแนะนำให้พิจารณาถ้าใครกำลังแพลนจะซื้อรถยนต์คันใหม่กันครับ ก่อนอื่นเราอยากให้เริ่มต้นจากที่มาที่ไปก่อน ด้วยแนวคิดของทีมพัฒนา MG Thailand ที่เน้นย้ำให้ MG เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถยนต์รุ่นอื่นในประเทศไทย และต้องสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าไทยให้มากที่สุด ใช้งานง่ายกับทุกเพศทุกวัย เพื่อสร้างความสะดวกสบายและปลอดภัยที่สุด แนวคิดเหล่านี้นำไปสู่การพัฒนา i-SMART ซึ่งทำให้ MG เป็นรถยนต์ที่มีความอัจฉริยะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทย
McLaren สร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดที่เน้นการออกแบบทุกจุดของรถตามหลัก Aerodynamic โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ Speedtail เป็นรถ Hybrid Hypercar ที่สานต่อตำนานของ McLaren F1 ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในรถ Production Car ที่เร็วที่สุดในยุค 90’s และแม้เวลาจะผ่านเลยมาถึงปี 2018 ก็มี Hypercar รุ่นใหม่เพียงไม่กี่คันที่มีสมรรถนะดีกว่า F1 เช่น Koenigsegg Agera RS, Bugatti Chiron เป็นต้น ด้วยมาตรฐานที่สร้างไว้อย่างสูงส่ง ก็ช่วยการันตีได้ว่าการที่ McLaren เปิดตัว Speedtail ออกมา ย่อมต้องมั่นสจว่าทำได้ดีกว่าตำนานหน้าเก่าอย่างแน่นอน นอกจากจุดเด่นจากการเป็นรถ 3 ที่นั่ง แบบพวกมาลัยวางกลางรถเหมือนใน F1 ดั้งเดิม ทาง McLaren ยังขนแรงม้ามาเพียบถึง 1,035 ตัว ซึ่งการเค้นพละกำลังทะลุหนึ่งพันแรงม้า เป็นผลลัพธ์จากการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วย แม้จะยังไม่มีรายงานด้าน Specification อย่างเป็นทางการ แต่หลายสื่อฟันธงว่าน่าจะใช้เครื่องยนต์ 4.0-litre twin turbo V8 735 แรงม้า
ยังคงคอนเซ็ปต์ “Born on the track and Built for the road” เหมือนเดิมสำหรับซุปเปอร์คาร์ตัวท็อปของค่าย Audi R8 หลังล่าสุดพวกเขากลบเสียงลือเกี่ยวกับการลดขนาดเครื่องยนต์ลง ด้วยการเผยโฉมใหม่ของ AUDI R8 2019 ที่เปิดตัวพร้อมขุมพลังโหดยิ่งกว่าเดิม รวมถึงปรับแต่งรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูโฉบเฉี่ยวเร้าใจมากขึ้นด้วย AUDI AG บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนีเปิดตัว Supercar เรือธงของค่ายกับ AUDI R8 2019 ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Audi original Quattroในช่วงปี 1980 รวมถึงหยิบจับเอาส่วนดีจากรถแข่งในค่ายมาปรับเสริมในเรื่องงานดีไซน์ โดย R8 รุ่นพัฒนาล่าสุดถูกผลิตออกมาภายใต้โมเดลสุดคูลอย่าง Coupe และ Spyder แถมทั้งสองรุ่นยังสามารถเลือกติดตั้งเครื่องยนต์ V10 ตัวพัฒนาล่าสุดได้ถึง 2 แบบกลบข่าวลือที่พูดว่าพวกเขาจะหันมาใช้เครื่องยนต์ V6 Twin-Turbocharged แทน (อาจเกิดขึ้นในอนาคต) โดยเครื่องยนต์ตัวเลือกแรกเป็นแบบ V10 ขนาด 5.2 ลิตร แบบปกติมาพร้อมขุมกำลัง 562 แรงม้า ให้อัตราการเร่งตั้งแต่ 0-100ใน 3.4 วินาทีสำหรับรุ่น Coupe (3.5 วินาทีในรุ่น Spyder)
ความเป็น American Rock Star ถือเป็น Culture ที่เท่และคลาสสิคเสมอ และความเป็น Rock Star ก็ถูกถ่ายทอดไปสู่ไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ที่ชาวอเมริกันภาคภูมิใจ รวมถึงในการออกแบบรถยนต์รุ่นเก๋าทั้งหลาย โดยหนึ่งใน Iconic แถวหน้าของ American Muscle Car ก็คือ Chevrolet Corvette ที่ไม่ว่าจะรุ่นเก่าแค่ไหน ก็อยู่ในรายชื่อนักสะสมรถตัวจริงอยู่เสมอ แต่สำหรับนักเลงรถที่อาศัยอยู่นอกประเทศอเมริกา อาจจะหา Corvette สภาพดี ๆ ได้ไม่ง่ายนัก เรียกว่า Demand สูง แต่ Supply น้อยจัด ค่ายรถจากประเทศญี่ปุ่น “Mitsuoka” ที่ขึ้นชื่อเรื่องการ Custom รถบ้าน ๆ ให้มีดีไซน์สุดล้ำในราคาเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งพวกเราน่าจะคุ้นตากับรุ่น Mitsuoka Galue หรือ Himiko ซึ่งเคยเข้ามาทำตลาดในบ้านเราผ่านตัวแทนนำเข้า จึงไม่รอช้ารีบคว้า Mazda MX5 มา Custom รูปโฉมภายนอกใหม่จนกลายเป็น Rock Star ที่เท่ได้อารมณ์
หลังจาก Hennessey ทยอยเปิดตัวรถกลุ่ม Ford Heritage Squad ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ที่ขนขบวนรถตระกูล GT มาสวมใส่เครื่องแบบสีแดงสดไปแล้วถึง 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Ford GT 2005 , 2018 และ Mustang GT แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังสะใจไม่พอ จึงได้ทำการเปิดตัวกระบะ Full Size Pickup Truck ตัวแรง Hennessey Heritage Edition F-150 มาสมทบเพิ่มอีกคัน แถมยังได้ขุมกำลังพัฒนาใหม่ล่าสุดมาเพิ่มความแรงให้อีกด้วย Hennessey Performance ตัดสินใจเลือก Ford F-150 ปี 2018-2019 ให้เข้ามาอยู่ในคอลเลกชันล่าสุดของ Heritage Edition โดยยกเครื่องใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งน่าจะออกมาถูกใจหนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบรถกระบะสมรรถนะแรงอย่างแน่นอน โดยภายนอก Hennessey Heritage Edition F-150 มากับ Livery สีแดง-ลายพาดขาวแบบเดียวกันกับ Ford GT ’67 Heritage Edition
หลังจากอวดโฉมครั้งแรกไปแล้วในงาน Pebble Beach เมื่อกลางปีที่ผ่านมาล่าสุดค่ายรถสัญชาติอิตาลี Ferrari ก็ตัดสินใจเปิดสเปคทั้งหมดของรถซุปเปอร์คาร์คันใหม่ล่าสุด FERRARI 488 PISTA SPIDER โมเดลพัฒนาต่อจาก 488 SPIDER ที่ออกมาสู่ตลาดก่อนหน้านี้ ในระหว่างจัดแสดงในงาน PARIS MOTOR SHOW 2018 มาดูกันว่ารูปแบบสมบูรณ์ที่ถูกพัฒนาเสร็จแล้วจะออกมาถูกใจพวกเรามากแค่ไหน FERRARI 488 PISTA SPIDER ถือเป็นซุปเปอร์คาร์รุ่นที่ 50 ของค่าย Ferrari ซึ่งเป็นเหมือนเวอร์ชันพัฒนาแล้วของรถตระกูล 488 ที่หยิบจับส่วนดีของรถคันอื่น ๆ มาปรับปรุงและแต่งเติมไว้ในคันเดียว เริ่มจากหัวใจสำคัญอย่างเครื่องยนต์ 488 PISTA SPIDER V8 Twin-Turbocharged 3.9-liter ที่ให้กำลังมากถึง 720 แรงม้า ซึ่งเป็นบล็อคเครื่องที่ผ่านการรีดน้ำหนักให้น้อยลง แต่ยังคงประสิทธิภาพด้านความเร็วเอาไว้ครบถ้วน โดยเปลี่ยนกระบอกลูกสูบให้บางยิ่งขึ้น รวมถึงใช้เพลาข้อเหวี่ยงและ flywheel เป็นไทเทเนียมพ่วงกับชุดวาล์วและสปริงแบบพิเศษ ทำให้มีน้ำหนักเบากว่าเครื่องต้นแบบถึง 19 กิโลกรัม แต่แข็งแรงปลอดภัย พร้อมรองรับแรงบิดมหาศาลได้มากกว่าเดิม 488 PISTA SPIDER สั่งงานชุดเกียร์แบบ F1