ช่วงนี้ผู้ชายหลายคนคงรู้สึกเหงากันอย่างหนักหน่วง เพราะ COVID-19 ทำให้เจอเพื่อนน้อยลง และออกไปเที่ยวสังสรรค์ได้ยากลำบากมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่เราจะหาสัตว์เลี้ยงคู่ใจสักตัวมาเป็นเพื่อนร่วมบ้าน เพราะนอกจากจะช่วยคลายความเหงาแล้ว การเลี้ยงสัตว์ยังอุดมไปด้วยประโยชน์อื่น ๆ อีกมายที่คุณอาจคาดไม่ถึง ! ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง ช่วยลดความเครียด สัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ช่วยเยียวยาจิตใจของเราได้ในช่วงที่เจอกับความเครียดอย่างหนัก งานวิจัยชิ้นหนึ่ง (2017) ได้ทำการศึกษาผู้ป่วยโรคเอดส์ (HIV) ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวนกว่า 252 คน และพบว่า เมื่อพวกเขาเลี้ยงสัตว์ โอกาสเป็นโรคซึมเศร้าจะน้อยลง นอกจากนี้การเลี้ยงสัตว์สี่ขาอย่างหมา จำเป็นต้องพามันออกไปเดินหรือเล่นนอกบ้าน ซึ่งกระตุ้นให้เราได้ออกกำลังกายนอกบ้านมากขึ้น และมีภูมิคุ้มกันปัญหาทางจิตมากขึ้นเช่นกัน หาเพื่อนใหม่ได้ง่ายขึ้น นอกจากจะช่วยลดความเครียดแล้ว การพาหมาออกไปเดินเล่นนอกบ้าน อาจทำให้เราดูเข้าถึงง่ายขึ้น และเข้าสังคมได้เก่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย งานวิจัยชิ้นหนึ่ง (2015) ได้ทำการสำรวจชาวออสเตรเลียและอเมริการาว 2,692 คน เพื่อศึกษาว่าสัตว์เลี้ยงส่งผลอย่างไร ต่อการรู้จักคนหน้าใหม่ การสร้างเพื่อน และเครือข่ายทางสังคม ซึ่งนักวิจัยพบว่าคนเลี้ยงหมาราว 40% สามารถสร้างเพื่อนใหม่ได้ง่ายขึ้น เพราะสัตว์เลี้ยงของพวกเขา ช่วยให้ชีวิตของเราสนุกสนานมากขึ้น หมาอาจช่วยให้ชีวิตของเรามีสีสัน และความสนุกสนานมากขึ้นกดว่าเดิม งานวิจัยชิ้นหนึ่ง
โลกของธุรกิจมีมากกว่าตัวเงิน สำหรับคนที่ไม่ชอบเรื่องตัวเลขหรือต้นทุนเลยอาจจะมองว่าน่าปวดหัว แต่ความจริงมันยังมีหลายมิติที่น่าสนใจ โดยเฉพาะแง่ของการตลาดและการโฆษณา เพราะมันคือแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์ล้วน ๆ ซึ่งถ้าเรารู้ทันและเข้าใจมัน เราก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อและนำความคิดสร้างสรรค์เหล่านั้นไปต่อยอดได้ ช่วงนี้ไม่ว่าจะแบรนด์ไหนก็เริ่มบุกตลาด AI และ AR กันเป็นแถบ อย่างล่าสุดที่เราเพิ่งนำเสนอกันไปก็เป็น Application วัดขนาดเท้าของ Nike อย่าง “Nike Fit” เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการซื้อรองเท้าแต่ขนาดไม่ตรงกับความจริง แต่ล่าสุดเราเพิ่งไปพบรูปแบบการตลาดของ AI ที่น่าสนใจ เรียกได้ว่าน่าจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่เขย่าวงการด้วยการใช้ AI กับ “สุนัข” เพื่อเพิ่มยอดขายอย่างจริงจัง ร้านขายสัตว์เลี้ยงประเทศบราซิลในเครือ Petz แหวกแนวเปิดชอปปิงออนไลน์สำหรับสุนัขอย่างแท้จริง โดยเรียกมันว่า Pet-Commerce หรือการซื้อของออนไลน์ที่เลือกจากความต้องการของสัตว์เลี้ยงเอง โดยใช้ AI ดักจับความสนใจของสุนัขผ่านกล้องของอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็ปเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ การเลือกซื้อของระหว่างสุนัขกับระบบ AI จะใช้วิธีการ access เข้าเว็บไซต์ก่อนโดยให้สุนัขนั่งอยู่ที่หน้าตักเราหรือจุดไหนก็ได้ที่มองเห็นกล้องหน้า จากนั้นให้เราเลือก Pet Commerce หน้าจอจะแสดงคลิปสินค้าแบบแรนดอม ไม่ว่าจะเป็นกระดูก บอลยาง ฯลฯ ขั้นตอนนี้เอง
เวลาเปรียบเทียบความซื่อสัตย์กับอะไรสักอย่าง ชื่อของฮาจิโกะและหมานานาสายพันธ์ุจากทั่วมุมโลกจะลอยมาทันที แล้ววลี “ซื่อสัตย์อย่างหมา” ก็จะเป็นประโยคแรก ๆ ที่เราได้ยิน แต่ความจริงเคยสงสัยไหมว่า ไอ้ที่แม่งกระดิกหางริก ๆ เดินมาหา หรือทำหน้าหงอเวลาโดนด่า จริง ๆ แล้วมันซื่ออย่างที่ว่าจริงเหรอ? มันเคยโกหกเราบ้างไหม? ตอนนี้ชั่วโมงแห่งความจริงมาถึงแล้ว เพราะนักวิจัยพฤติกรรมสัตว์เขาออกมาวิจัยและแถลงความจริงให้เรารู้ว่า “หมาซื่อมันไม่จริงเสมอไป” และตีพิมพ์งานวิจัยลงใน Animal Cognition หรือ “การรับรู้ของสัตว์” ดังนั้น อย่าเหมารวมว่าหมาทุกตัวมันจะสื่อหรือแสดงออกทุกอย่างตามที่มันคิดล่ะ เพราะบางทีคุณอาจจะเคยเจอไอ้ด่างที่บ้านตลบหลังมาแล้ว หมาโกหกมันก็มี ทาสหน้าโง่ การวิจัยครั้งนี้ใช้การมอนิเตอร์ติดตามพฤติกรรมลูกสุนัขต่างการเลี้ยงดูและอายุจำนวน 27 ตัว ซึ่งได้รับการอนุญาตให้เข้าร่วมจากเจ้าของพวกมันแล้ว จะแยบยลแค่ไหนถึงตีความได้แบบนี้ลองอ่านวิธีการวิจัยไปพร้อมกัน วันแรกเขาจะฝึกฝนสุนัขทุกตัวให้แยกแยะคน 2 จำพวก ได้แก่ ฝ่ายพาร์ทเนอร์และฝ่ายแข่งขัน โดยให้พวกมันได้เรียกรู้ผ่านรูปแบบการให้อาหาร ฝ่ายพาร์ทเนอร์จะยื่นอาหารส่งให้แบบง่าย ๆ ส่วนฝ่ายแข่งขันพอยื่นให้แล้วให้ขยักหรือปิดไว้ ไม่ยื่นให้ง่าย ๆ ผลของการฝึกวันแรกเลยทำให้เห็นว่าเจ้าลูกสุนัขชอบฝ่ายพาร์ทเนอร์มากกว่า วันต่อมาสุนัขจะถูกสอนว่าทำอย่างไรเพื่อให้มนุษย์ให้อาหาร ซึ่งเขาใช้วิธีจัดอาหารออกแบบเป็น 3 กล่อง 2 กล่องแรกที่มีอาหารเป็นกล่องที่หน้าตาเหมือนกัน แต่ว่าด้านในบรรจุอาหารต่างกันโดยจะมีอาหารที่สุนัขชอบและไม่ชอบอยู่ในนั้น ส่วนกล่องที่สามเป็นกล่องเปล่า หลังจากที่ฝึกให้พาไปแล้ว
กว่าเราจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจใครสักคนให้มาร่วมเตียงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเวลานอนหลับคือช่วงเวลาที่เราปล่อยตัวปล่อยใจที่สุด เราอ่อนแอที่สุดและป้องกันตัวเองได้น้อยที่สุด ดังนั้นใครสักคนที่เรายอมพลีกายร่วมหมอนนอนเสื่อด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนในครอบครัว หรือสาวน่ารัก ๆ สักคนจึงเป็นคนสำคัญกับเราไม่น้อย ในฐานะผู้ชาย ถ้าเรานอนร่วมเตียงกับใครสักคนเราก็ย่อมอยากให้เขาหรือเธอคนนั้นได้หลับเต็มอิ่ม มีคุณภาพการนอนที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนนั้นคือคุณภรรยาสุดที่รักหรือแฟนสาวที่อยู่กินด้วยกันมา แต่มันจะช็อกโลกแตกขนาดไหน ถ้าเรากำลังจะรู้ความจริงที่สาว ๆ ออกมาระบุว่า “นอนกับหมายังหลับสบายกว่านอนกับคน!” อย่าเพิ่งตีโพยตีพาย หายใจลึก ๆ แล้วมาอ่านรายละเอียดงานวิจัยชิ้นนี้ไปด้วยกันก่อน ดร. Christy L. Hoffman ศาสตราจารย์ด้านพฤติกรรมสัตว์ นิเวศวิทยาและการอนุรักษ์จาก Canisius College ผู้เป็นทีมนักวิจัยผู้พยายามสำรวจว่าสัตว์เลี้ยงมีผลต่อคุณภาพการนอนหลับของมนุษย์อย่างไรโดยงานวิจัยนี้มีชื่อว่า An Examination of Adult Women’s Sleep Quality and Sleep Routines in Relation to Pet Ownership and Bedsharing พวกเขาสำรวจผู้หญิงจำนวน 962 คนในสหรัฐอเมริกา พบว่า 55% นอนร่วมเตียงกับสุนัขอย่างน้อยหนึ่งตัวและ 31 %