Life

ความซื่อสัตย์กำลังสั่นคลอน งานวิจัยเผยว่าหมาที่ว่าซื่อก็โกหกเราเป็น

By: anonymK April 18, 2019

เวลาเปรียบเทียบความซื่อสัตย์กับอะไรสักอย่าง ชื่อของฮาจิโกะและหมานานาสายพันธ์ุจากทั่วมุมโลกจะลอยมาทันที แล้ววลี “ซื่อสัตย์อย่างหมา” ก็จะเป็นประโยคแรก ๆ ที่เราได้ยิน แต่ความจริงเคยสงสัยไหมว่า ไอ้ที่แม่งกระดิกหางริก ๆ เดินมาหา หรือทำหน้าหงอเวลาโดนด่า จริง ๆ แล้วมันซื่ออย่างที่ว่าจริงเหรอ? มันเคยโกหกเราบ้างไหม?

ตอนนี้ชั่วโมงแห่งความจริงมาถึงแล้ว เพราะนักวิจัยพฤติกรรมสัตว์เขาออกมาวิจัยและแถลงความจริงให้เรารู้ว่า “หมาซื่อมันไม่จริงเสมอไป” และตีพิมพ์งานวิจัยลงใน Animal Cognition หรือ “การรับรู้ของสัตว์” ดังนั้น อย่าเหมารวมว่าหมาทุกตัวมันจะสื่อหรือแสดงออกทุกอย่างตามที่มันคิดล่ะ เพราะบางทีคุณอาจจะเคยเจอไอ้ด่างที่บ้านตลบหลังมาแล้ว

หมาโกหกมันก็มี ทาสหน้าโง่

การวิจัยครั้งนี้ใช้การมอนิเตอร์ติดตามพฤติกรรมลูกสุนัขต่างการเลี้ยงดูและอายุจำนวน 27 ตัว ซึ่งได้รับการอนุญาตให้เข้าร่วมจากเจ้าของพวกมันแล้ว จะแยบยลแค่ไหนถึงตีความได้แบบนี้ลองอ่านวิธีการวิจัยไปพร้อมกัน

วันแรกเขาจะฝึกฝนสุนัขทุกตัวให้แยกแยะคน 2 จำพวก ได้แก่ ฝ่ายพาร์ทเนอร์และฝ่ายแข่งขัน โดยให้พวกมันได้เรียกรู้ผ่านรูปแบบการให้อาหาร ฝ่ายพาร์ทเนอร์จะยื่นอาหารส่งให้แบบง่าย ๆ ส่วนฝ่ายแข่งขันพอยื่นให้แล้วให้ขยักหรือปิดไว้ ไม่ยื่นให้ง่าย ๆ ผลของการฝึกวันแรกเลยทำให้เห็นว่าเจ้าลูกสุนัขชอบฝ่ายพาร์ทเนอร์มากกว่า

วันต่อมาสุนัขจะถูกสอนว่าทำอย่างไรเพื่อให้มนุษย์ให้อาหาร ซึ่งเขาใช้วิธีจัดอาหารออกแบบเป็น 3 กล่อง 2 กล่องแรกที่มีอาหารเป็นกล่องที่หน้าตาเหมือนกัน แต่ว่าด้านในบรรจุอาหารต่างกันโดยจะมีอาหารที่สุนัขชอบและไม่ชอบอยู่ในนั้น ส่วนกล่องที่สามเป็นกล่องเปล่า หลังจากที่ฝึกให้พาไปแล้ว เขาจะกำหนดวิธีการตอบสนองที่ต่างกันเมื่อแต่ละฝ่ายที่สุนัขพาไปถึงอาหาร โดยให้ฝ่ายพาร์ทเนอร์ของสุนัขมอบอาหารกล่องนั้นให้สุนัข แต่ฝ่ายแข่งขันจะเอาอาหารในกล่องนั้นไปโดยไม่ให้พวกมัน

จากการทดสอบวันแรกโอกาสที่สุนัขจะพามนุษย์ฝั่งพาร์ทเนอร์ไปหากล่องอาหารที่มันชอบนั้นมีมากกว่าฝั่งแข่งขันโดยบังเอิญ ขณะที่วันที่สอง เมื่อทดสอบอีกครั้งสุนัขจะพามนุษย์ฝั่งแข่งขันไปหาอาหารที่มันชอบน้อยกว่าด้วยความบังเอิญ แต่เมื่อทดสอบซ้ำอีกครั้ง เราจะเห็นว่าเริ่มไม่บังเอิญแล้วเพราะพวกมันพาฝั่งแข่งขันไปเจอกล่องเปล่าบ่อยกว่าฝั่งพาร์ทเนอร์อย่างชัดเจน

กว่าครึ่งของลูกสุนัขทำไมถึงทำอย่างนั้นกับมนุษย์สองฝ่ายที่พฤติกรรมต่างกัน? เรื่องนี้อธิบายด้วยเหตุผลได้ว่าเป็นเพราะฝั่งแข่งขันมักพามันไปเจอความผิดหวัง ถึงกล่องอาหารจริงแต่ก็ปิ๋วไม่ได้กินอยู่ดี ดังนั้น มันเลยโกหกด้วยการพาไปหากล่องอื่นที่ไม่ชอบหรือกล่องว่างแทนอาหารที่มันชอบ

หมาภักดีได้ถ้าตอบสนองโดนใจ

การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยเขาแชร์ว่าเห็นตาใสใจซื่อแบบนี้ แต่สุนัขเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ามันเห็นความต่างระหว่างมนุษย์ 2 ประเภทออก รวมทั้งสามารถปรับตัวให้ยืดหยุ่นกับการตอบสนองคนทั้งสองประเภทเพื่อให้ได้ในสิ่งที่มันต้องการด้วยกลยุทธ์ตลบหลัง ดังนั้น ถ้าทาสอย่างพวกเราเผลอไผลกับใบหน้าใสซื่อเราก็อาจจะโดนมันหลอกโดยไม่รู้ตัวได้ หรือถ้าให้ดีคงต้องแสดงออกต่อพวกมันดี ๆ รักโคตร ๆ ระดับ John Wick มันจะได้ภักดีกับพวกเราตลอดไป

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงผลงานวิจัยหนึ่งที่ขึ้นมาสันนิษฐานเรื่องการรับรู้ของสุนัขเพื่อลบภาพจำเดิมที่เราพูดต่อกันปากต่อปากเท่านั้น แต่ไม่ได้แปลว่าเราฟันธงว่าผลวิจัยนี้ถูกทั้งหมดและสัญชาตญาณของมันจะนำมันไปสู่ความขี้โกงเสมอ เพราะอีกฝ่ายที่เขาเป็นเจ้าของสถาบันฝึกหมาในลอสแอนเจลิสออกมาแย้งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันมาจากสติปัญญาของเจ้าสี่ขาที่ทำให้มันสามารถฝึกได้ต่างหาก ใครเลือกเชื่อแบบไหนก็ได้ แต่เรื่องที่เรารู้แน่ ๆ คือแม้สัตว์จะไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาเดียวกันกับเราแต่มันก็มีสติปัญญาที่พัฒนาได้อย่างไม่ต้องสงสัย

 

SOURCE: 1 / 2

 

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line